บาลีวันละคำ

เอตํ พุทฺธาน สาสนํ (บาลีวันละคำ 3,535)

เอตํ พุทฺธาน สาสนํ

หรือ – เอตํ พุทฺธานสาสนํ?

คำที่เราเรียกกันว่า “โอวาทปาติโมกข์” นั้น ข้อความต้นฉบับเป็นคำฉันท์หรือคาถาภาษาบาลี (“ฉันท์” หรือ “คาถา” หมายถึงข้อความที่เป็นกาพย์กลอน) นับได้ 3 บทมีเศษ (1 บทมี 4 วรรค)

ข้อความวรรคหนึ่งที่ปรากฏ 2 ครั้ง คือ “เอตํ พุทฺธาน สาสนํ” อ่านว่า เอ-ตัง พุด-ทา-นะ สา-สะ-นัง แปลว่า “นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย” 

มีข้อสงสัยที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า “เอตํ พุทฺธาน สาสนํ” หรือ – “เอตํ พุทฺธานสาสนํ”?

นักเรียนบาลีย่อมสังเกตเห็นว่า ข้อความนี้เขียนต่างกัน แต่ผู้ที่ไม่ได้เรียนบาลีอาจจะไม่ได้สังเกต

คำที่ต่างกันคือ “พุทฺธาน สาสนํ” กับ “พุทฺธานสาสนํ

พุทฺธาน สาสนํ” เขียนแยกเป็น 2 คำ

พุทฺธานสาสนํ” เขียนติดกันเป็นคำเดียว

ข้อสงสัยคือคือเขียนแบบไหนถูก “พุทฺธาน สาสนํ” หรือ “พุทฺธานสาสนํ”?

โอวาทปาติโมกข์” มาในพระไตรปิฎก 2 แห่ง คือ –

1 มหาปทานสูตร ทีฆนิกาย มหาวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 54 

2 พุทธวรรค ธรรมบท พระไตรปิฎกเล่ม 25 ข้อ 24 

ข้อแตกต่างที่ควรสังเกต คือ –

มหาปทานสูตร คาถาแรกเป็น “ขนฺตี ปรมํ …” 

พุทธวรรค ธรรมบท คาถาแรกเป็น “สพฺพปาปสฺส …” 

มหาปทานสูตรเป็น “พุทฺธานสาสนํ” (ติดกันเป็นคำเดียว)

พุทธวรรค ธรรมบทเป็น “พุทฺธาน สาสนํ” (แยกเป็น 2 คำ)

บาลีไวยากรณ์ฉบับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ว่าด้วยสนธิ แสดงกฎของนิคหิตสนธิตอนหนึ่งว่า “เมื่อมีสระหรือพยัญชนะอยู่เบื้องหลัง ลบนิคหิตซึ่งอยู่หน้าบ้างก็ได้” 

และยกตัวอย่าง พุทฺธานํ + สาสนํ ลบนิคคหิตที่ พุทฺธานํ เป็น พุทฺธา สนธิกับ สาสนํ เป็น พุทฺธานสาสนํ

ตามอธิบายนี้ ได้ข้อยุติว่า ข้อความในวรรคนี้ต้องเป็น “เอตํ พุทฺธานสาสนํ” คือ พุทฺธานํ + สาสนํ = เขียนติดกัน

: พุทฺธานํ + สาสนํ = พุทฺธานสาสนํ 

แต่พึงเข้าใจว่า แม้จะเขียนติดกัน แต่ก็ยังคงเป็น 2 คำ คือ “พุทฺธานํ” คำหนึ่ง และ “สาสนํ” คำหนึ่ง เพราะเป็นคำสนธิ ไม่ใช่คำสมาส

อาจมีข้อสงสัยต่อไปอีกว่า แล้วที่แยกเป็น “เอตํ พุทฺธาน สาสนํ” ไม่ผิดหรือ จะว่าอย่างไรกัน?

ผู้เขียนบาลีวันละคำเคยได้ยินคำอธิบายว่า แยกเป็น 2 คำก็ไม่ผิด เพราะใช้กฎ “ฉันทานุรักษ์” อธิบายให้เข้าใจง่ายว่า “พุทฺธาน” กับ “สาสนํ” เป็นคนละคำกัน ข้อความในวรรคนี้เมื่อกล่าวรวมกันเป็น “เอตํ พุทฺธานํ สาสนํ” คำว่า –นํ ที่ พุทฺธานํ อยู่ในลำดับที่ต้องเป็นคำลหุ คือเสียงเบาหรือเสียงสั้น แต่ –นํ เป็นคำครุ ท่านจึงอนุญาตให้ลบนิคหิตจาก “พุทฺธานํ” เป็น “พุทฺธาน” เพื่อให้ – เป็นคำลหุตามหลักของฉันทลักษณ์ และยังคงเขียนแยกกันเพราะเป็นคนละคำกัน

ไวยากรณ์รวบรัด :

(๑) “เอตํ” (เอ-ตัง) ศัพท์เดิมเป็น “เอต” (เอ-ตะ) เป็นพวกสรรพนาม แปลว่า นั่น, นี่ แจกด้วยวิภัตตินามที่หนึ่ง เอกพจน์ นปุงสกลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “เอตํ” แปลว่า “(ความที่กล่าวมา) นี่

(๒) “พุทฺธานํ” (พุด-ทา-นัง) ศัพท์เดิมเป็น “พุทฺธ” (พุด-ทะ) แปลว่า ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หมายถึงพระพุทธเจ้า แจกด้วยวิภัตตินามที่หก พหูพจน์ ปุงลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “พุทฺธานํ” แปลว่า “ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย” 

(๓) “สาสนํ” (สา-สะ-นัง) ศัพท์เดิมเป็น “สาสน” (สา-สะ-นะ) แปลว่า คำสั่งสอน แจกด้วยวิภัตตินามที่หนึ่ง เอกพจน์ นปุงสกลิงค์ เปลี่ยนรูปเป็น “สาสนํ” แปลว่า “เป็นคำสั่งสอน

ขยายความ :

โอวาทปาติโมกข์

…………..

สพฺพปาปสฺส อกรณํ 

กุสลสฺสูปสมฺปทา 

สจิตฺตปริโยทปนํ 

เอตํ พุทฺธาน สาสนํ ฯ

ไม่ทำความชั่วทุกชนิด 

ทำแต่ความดี 

ทำใจให้ผ่องใส 

นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย 

Abstention from all evil,

Cultivation of the wholesome, 

Purification of the heart; 

This is the Message of the Buddhas. 

ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา 

นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา 

น หิ ปพฺพฃิโต ปรูปฆาตี 

สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโต ฯ

ขันติคือความอดทน เป็นตบะอย่างยอด 

นิพพาน ท่านผู้รู้กล่าวว่าเป็นยอด 

ผู้ที่ยังทำร้ายผู้อื่นอยู่ ไม่จัดว่าเป็นบรรพชิต 

ผู้ที่ยังเบียดเบียนคนอื่นอยู่ ไม่จัดว่าเป็นสมณะ 

Forbearance is the highest ascetic practice, 

‘Nibbana is supreme’; say the Buddhas. 

He is not a ‘gone forth’ who harms another. 

He is not a recluse who molests another. 

อนูปวาโท อนูปฆาโต 

ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร 

มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ 

ปนฺตญฺจ สยนาสนํ 

อธิจิตฺเต จ อาโยโค 

เอตํ พุทฺธาน สาสนํ ฯ

ไม่ว่าร้ายใคร ไม่กระทบกระทั่งใคร 

ระมัดระวังในปาติโมกข์ 

บริโภคพอประมาณ 

อยู่ในสถานสงัด 

ฝึกหัดจิตให้สงบ 

นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย 

To speak no ill, To do no harm, 

To observe the Rules, 

To be moderate in eating, 

To live in a secluded abode, 

To devote oneself to meditation-

This is the Message of the Buddhas.

คำแปลเป็นไทยและภาษาอังกฤษ:

หนังสือ “พุทธวจนะในธรรมบท” โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

…………..

ดูก่อนภราดา!

: โอวาทปาติโมกข์คือหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

: อย่าอธิบายให้เป็นหลักธรรมแห่งความรัก

#บาลีวันละคำ (3,535)

15-2-65 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *