โกญจะ นกอะไร (บาลีวันละคำ 4,709)

โกญจะ นกอะไร
ระหว่างนกกระเรียนกับนกกระสา
…………..
ผู้เขียนบาลีวันละคำไปไหว้พระที่ศรีลังกา ออกเดินทางวันที่ 23 เมษายน 2568 กลับถึงบ้านวันที่ 28 เมษายน 2568
คณะของเรามีพระคุณเจ้าไปด้วย 2 รูป ระหว่างเดินทางตระเวนไปไหว้พระตามสถานที่ต่าง ๆ คณะของเราไม่มีไกด์โดยเฉพาะ พระคุณเจ้ารูปหนึ่งจึงทำหน้าที่บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับสถานที่เหล่านั้นไปด้วย เรื่องหนึ่งที่ท่านกรุณานำมาบรรยาย คือเรื่อง มณิการกุลุปกติสฺสตฺเถรวตฺถุ แปลเป็นไทยว่า “เรื่องพระติสสเถระผู้เข้าถึงสกุลนายช่างแก้ว” ต้นฉบับมาจากคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถา ภาค 5
เรื่องมีอยู่ว่า ครอบครัวนายช่างแก้วนิมนต์พระเถระองค์หนึ่งไปฉันภัตตาหารที่บ้านเป็นประจำ วันหนึ่ง ขณะนั่งรอเวลา เจ้าพนักงานวังนำแก้วมณีมาให้ช่างเจียรนัย นายช่างแก้วกำลังหั่นเนื้อเพื่อทำกับข้าวถวายพระ รับแก้วมณีไว้แล้วก็วางไว้บนเขียง เข้าไปล้างมือหลังบ้าน
นกโกญจะที่เลี้ยงปล่อยให้หากินอิสระมากินเนื้อที่เขียง แล้วเลยกินแก้วมณีเข้าไปด้วย
เหตุการณ์นี้พระเถระเห็นโดยตลอด
นายช่างแก้วออกมาไม่เห็นแก้ว ก็เข้าใจว่าพระเถระขโมยไป เมื่อพระเถระไม่บอกความจริง (เพราะถ้าบอก เขาก็ต้องฆ่านก) จึงคาดคั้นด้วยการทรมานจนพระเถระเลือดทะลัก นกโกญจะได้กลิ่นเลือดก็มากินเลือด นายช่างแก้วกำลังโมโหสุดขีดเตะนกตาย พระเถระเห็นว่านกตายแล้วจึงบอกความจริง
…………..
นกโกญจะในเรื่องนี้ พระคุณเจ้าผู้เล่าท่านเรียกเป็น “นกกระสา” ตลอดทั้งเรื่อง
“โกญจะ” เขียนแบบบาลีเป็น “โกญฺจ” (มีจุดใต้ ญฺ) อ่านว่า โกน-จะ นักเรียนบาลีของไทยแปลกันว่า “นกกระเรียน”
หนังสือ ศัพท์วิเคราะห์ ของ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙, ราชบัณฑิต) แสดงรากศัพท์ของ “โกญฺจ” ว่ามาจาก โกญฺจฺ (ธาตุ = คด) + อ (อะ) ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: โกญฺจฺ + อ = โกญฺจ + อา = โกญฺจา
แสดงรูปวิเคราะห์ว่า: โกญฺจตีติ โกญฺจา แปลตามศัพท์ว่า “นกที่คด” (คือมีร่างกายคด คอคด) แปลเป็นไทยว่า นกกระเรียน
ศัพท์นี้มีทั้ง “โกญฺจ” (ปุงลิงค์) และ “โกญฺจา” (อิตถีลิงค์)
ผู้เขียนบาลีวันละคำฟังพระคุณเจ้าเล่าเรื่องนี้แล้วก็ชวนให้ถามว่า ผู้ที่เรียกนกโกญจะว่า นกกระสา ทราบมาก่อนหรือไม่ว่า “โกญฺจ” นักเรียนบาลีของไทยแปลว่า นกกระเรียน ทั้งนั้น
ถ้าทราบอยู่ ก็ถามต่อไปว่า-แล้วท่านมีเหตุผลอะไรจึงเรียกนกโกญจะว่า นกกระสา ทำไมไม่เรียก นกกระเรียน
อย่างไรก็ตาม ฟังแล้วก็ต้องถอยมาตั้งหลักใหม่ว่า “โกญฺจ” คือนกอะไรกันแน่ นกกระเรียน? หรือนกกระสา?
พจนานุกรมว่าอย่างไร?
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “โกญฺจ” (โกญฺจา) ว่า the heron
และขยายความไว้ว่า often in combn with mayūra [peacock] (มีบ่อยที่ใช้รวมกับ มยูร [นกยูง])
คำอังกฤษ heron พจนานุกรม สอ เสถบุตร แปลเป็นไทยว่า นกกระสา, นกยาง
พจนานุกรม บาลี-ไทย-อังกฤษ ฉบับภูมิพโลภิกขุ (ซึ่งใช้พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ เป็นต้นฉบับ) แปล “โกญฺจ” ว่า นกกระเรียน คณะกรรมการจัดทำพจนานุกรมฉบับนี้ย่อมจะต้องเห็นคำอังกฤษว่า heron ที่พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปลไปจาก “โกญฺจ” และพจนานุกรม สอ เสถบุตร แปล heron ว่า นกกระสา, นกยาง แต่คณะกรรมการฯ ก็ไม่ได้แปล “โกญฺจ” ว่า นกกระสา หรือนกยาง ตามพจนานุกรม สอ เสถบุตร คงแปลว่า นกกระเรียน ตามที่นักเรียนบาลีของไทยแปลกันมา
พระคัมภีร์อภิธานัปปทีปิกา หรือ พจนานุกรมภาษาบาลีแปลเป็นไทย
พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิธ ทรงเรียบเรียง คาถาที่ 641 บอกว่า นกกระเรียน บาลีมี 2 ศัพท์ คือ โกญฺจา และ กุนฺตนี นั่นคือ “โกญฺจ” (โกญฺจา) แปลว่า นกกระเรียน (ถ้า “โกญฺจ” แปลว่า นกกระสา ก็ได้ ก็ควรบอกไว้ข้างต้นว่า นกระเรียน, นกกระสา มี 2 ศัพท์ คือ โกญฺจา และ กุนฺตนี ถ้าบอกอย่างนี้ “โกญฺจ” แปลว่า นกกระเรียน ก็ได้ แปลว่า นกกระสา ก็ได้)
ปทานุกรมบาลี ไทย อังกฤษ สันสกฤต ฉบับกรมพระจันทบุรีนฤนาถ บอกว่า โกญฺโจ, โกญฺจา นกกระเรียน (a heron, a curlew, a sarus crane.)
ปาลี-สยาม อภิธาน ของ นาคะประทีป แปล “โกญฺจ” (ที่ศัพท์ว่า กุนฺตนี) ว่า นกกระเรียน มีคำแปลเป็นอังกฤษว่า a curlew
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน มีคำว่า “เกฺราญฺจ” ซึ่งรูปคำตรงกับบาลีว่า “โกญฺจ” บอกไว้ดังนี้ –
(สะกดตามต้นฉบับ)
…………..
เกฺราญฺจ : (คำนาม) นกยางชนิดหนึ่ง; ทวีปหรือโลกภาคหนึ่งซึ่งทธิสาครแวดล้อมรอบ; ภูเขา, หิมาลัยภาคอันตั้งอยู่ในภาคตวันออกทิวภูเขานั้น อยู่ทิศเหนือประเทศอัสสัม; a kind of heron; one of the drwipas or principal divisions of the world, surrounded by the sea of curds; a mountain, part of the Himâlaya range, situated in the eastern part of the chain on the north of Assam.
…………..
สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกว่า “เกฺราญฺจ” ( = บาลี โกญฺจ) คือ นกยางชนิดหนึ่ง (a kind of heron)
และมีคำว่า “กฺรุญฺจฺ” ซึ่งรูปคำน่าจะตรงกับบาลีว่า “โกญฺจ” แปลเป็นไทยว่า นกฝักแค แปลเป็นอังกฤษว่า a curlew
คำอังกฤษ curlew พจนานุกรม สอ เสถบุตร แปลเป็นไทยว่า นกเคอ-ลิว เท้าเป็นพายอย่างเป็ด
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
…………..
โกญจ-, โกญจา : (คำแบบ; คำที่ใช้ในบทกลอน) (คำนาม) นกกระเรียน เช่น แขกเต้าดุเหว่าแก้ว โกญจา. (โลกนิติ). (ป.).
…………..
เมื่อเอาคำว่า “โกญฺจ – โกญฺจา” ในบาลีเป็นตัวตั้ง พจนานุกรมทั้งหลายแปลว่า นกกระเรียน ทั้งนั้น ไม่มีที่แปลว่า นกกระสา
แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า “โกญฺจ – โกญฺจา” ต้องแปลว่า นกกระเรียน เท่านั้น เป็นนกกระสาหรือนกอื่นไม่ได้
ใครเห็นว่า “โกญฺจ – โกญฺจา” ไม่ใช่นกกระเรียน แต่คือนกกระสา วิธีการที่ควรทำคือ ยกหลักวิชามาแสดงให้เห็นประจักษ์ว่า –
“โกญฺจ – โกญฺจา” ไม่ใช่นกกระเรียน ด้วยเหตุผลดังนี้ ๆ
“โกญฺจ – โกญฺจา” คือนกกระสา ด้วยเหตุผลดังนี้ ๆ
นั่นคือเอาหลักวิชา-คือเหตุผลมาสู้กัน แล้วร่วมกันตัดสินว่าหลักวิชาข้างไหนถูกต้องกว่า เมื่อตัดสินแล้วก็ยึดคำตัดสินเป็นมาตรฐาน
ถ้า “โกญฺจ – โกญฺจา” คือนกกระเรียน ก็อย่าลากเอานกกระสามายุ่งด้วย
ถ้า “โกญฺจ – โกญฺจา” คือนกกระสา ก็ประกาศแก้ไขที่แปลกันมาแต่เดิมว่า นกกระเรียน นั้นเสีย ให้แปลว่าใหม่ว่า นกกระสา อย่าลากเอานกกระเรียนมายุ่งด้วยอีกต่อไป
จะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้เสนอประเด็น “โกญฺจ – โกญฺจา คือนกกระสา” เพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูลด้วย ก็เป็นการสมควรยิ่ง
ทำอย่างนี้ก็จะเป็นความถูกต้องและเป็นความจำเริญทางวิชาการตามวิถีแห่งอารยชน
การเอาคำว่า “โกญฺจ – โกญฺจา” ที่รู้กันทั่วไปว่าคือนกกระเรียน มาเรียกเป็นนกกระสา เรียกแล้วเรียกเลย ไม่มีคำอธิบาย ย่อมก่อให้เกิดความสับสนอย่างยิ่ง
ถ้าเอา “นกกระสา” ไปปล่อยเรี่ยราดไปเรื่อย ๆ คนที่ฟังเรื่องนี้ก็จะสับสนว่า ตกลงว่านกในเรื่องนี้เป็นนกกระเรียนหรือนกกระสากันแน่
คงมีบางท่านหาทางออกว่า ก็แปลทั้งสองนกเลย “โกญฺจ” แปลว่านกกระสาก็ได้ แปลว่านกกระเรียนก็ได้ ภาษาเป็นสิ่งสมมุติ ไม่มีผิดไม่มีถูก จะมามัวเถียงกันทำไม
ถ้าเช่นนั้น ขอให้นึกถึงตัวเทียบ เช่น –
ถ้า X แปลว่าไก่ X ก็ไม่ใช่เป็ด
ถ้า X แปลว่าเป็ด X ก็ไม่ใช่ไก่
จะบอกว่า X หมายถึงไก่ก็ได้ หมายถึงเป็ดก็ได้ X แปลได้ 2 อย่าง ดังนี้ไม่ได้ เพราะไก่กับเป็ดเป็นสัตว์คนละชนิดกัน ฉันใด
“โกญฺจ” ก็ฉันนั้น
ถ้า “โกญฺจ” คือนกกระเรียน “โกญฺจ” ก็ไม่ใช่นกกระสา
ถ้า “โกญฺจ” คือนกกระสา “โกญฺจ” ก็ไม่ใช่นกกระเรียน
จะบอกว่า “โกญฺจ” แปลว่า นกกระเรียนก็ได้ แปลว่า นกกระสาก็ได้ แปลได้ 2 อย่าง ดังนี้ไม่ได้ เพราะนกกระเรียนกับนกกระสาเป็นนกคนละชนิดกัน
โปรดศึกษาความแตกต่างระหว่างนกกระเรียนกับนกกระสา

นกกระเรียน: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
…………..
กระเรียน ๑ : (คำนาม) ชื่อนกขนาดใหญ่ชนิด Grus antigone ในวงศ์ Gruidae คอยาว ขายาว ปีกกว้าง หางกว้างและสั้น หากินตามที่ราบลุ่ม กินพืช แมลง และสัตว์ขนาดเล็ก ไม่ชอบกินปลา, กาเรียน ก็เรียก.
…………..
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ปรับแก้คำนิยามใหม่ เป็นดังนี้ –
…………..
กระเรียน : (คำนาม) ชื่อนกขนาดใหญ่ชนิด Grus antigone (Linn.) ในวงศ์ Gruidae ขนลำตัวสีเทา หนังหัวและต้นคอสีแดง คอยาว ขายาว ปีกกว้าง หางกว้างและสั้น เวลาบินคอเหยียดตรง หากินตามที่ราบลุ่ม กินพืช แมลง และสัตว์ขนาดเล็ก, กาเรียน ก็เรียก.
…………..

นกกระสา: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 บอกไว้ว่า –
…………..
กระสา ๑ : (คำนาม) ชื่อนกในวงศ์ Ciconiidae ขนาดใหญ่เกือบเท่านกกระเรียน ปากหนายาวปลายแหลมตรง คอและขายาว เวลาบินคอจะยืดตรงเหมือนนกกระเรียน ทํารังด้วยกิ่งไม้อยู่บนยอดไม้สูง ๆ กินปลาและสัตว์นํ้าขนาดเล็ก ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น กระสาขาว (Ciconia ciconia) กระสาคอดํา (Ephippiorhynchus asiaticus).
…………..
ต่อมา พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ปรับแก้คำนิยามใหม่ เป็นดังนี้ –
…………..
กระสา ๑ : (คำนาม)
(๑) ชื่อนกขนาดใหญ่หลายชนิด ในวงศ์ Ciconiidae ปากหนาแบนข้าง ยาว ปลายแหลมตรง คอและขายาว เวลาบินคอเหยียดตรง ทำรังด้วยกิ่งไม้อยู่บนยอดไม้สูง กินปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็ก ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น กระสาคอขาว [Ciconia episcopus (Boddaert)] กระสาคอดำ [Ephippiorhynchus asiaticus (Latham)].
(๒) ชื่อนกยางขนาดใหญ่ ในวงศ์ Ardeidae ปากยาว ปลายแหลม ฤดูผสมพันธุ์เพศผู้มีขนยาวบริเวณท้ายทอย ๒ เส้น คอยาว เวลาบินคอโค้งงอ ขายาว เล็บของนิ้วกลางที่หันไปข้างหน้าหยักคล้ายซี่หวี ทำรังด้วยกิ่งไม้บนยอดไม้สูงปานกลาง กินปลาและสัตว์น้ำ ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ กระสานวล (Ardea cinerea Linn.) กระสาแดง (A. purpurea Linn.) และกระสาใหญ่ (A. sumatrana Raffles).
…………..
จะเห็นได้ว่า นกกระเรียนไม่ใช่นกกระสา นกกระสาก็ไม่ใช่นกกระเรียน
ถ้า “โกญฺจ” เป็นนกกระเรียน “โกญฺจ” ก็ไม่ใช่นกกระสา
ถ้า “โกญฺจ” เป็นนกกระสา “โกญฺจ” ก็ไม่ใช่นกกระเรียน
ถ้าจะเอาเรื่องจากคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถาเรื่องนั้นไปเล่า ก็ควรบอกว่านกในเรื่องนั้นคือ นกกระเรียน ตามที่รับรู้กันทั่วไป
การเอาเรื่องจากคัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถาเรื่องนั้นไปเล่า แต่บอกว่านกในเรื่องนั้นคือ นกกระสา โดยไม่บอกเหตุผล เป็นผลเท่ากับทำให้เรื่องที่ยุติเรียบร้อยดีแล้วกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งเหยิงขึ้นมาอีกโดยไม่จำเป็นเลย
เวลานี้สังคมรับรู้เรื่องเดียวกันนั้นต่างกันเป็น 2 พวก
พวกหนึ่งรับรู้ว่านกในเรื่องนั้นคือนกกระเรียน ตามที่รู้มาเดิม
อีกพวกหนึ่งรับรู้ว่านกในเรื่องนั้นคือนกกระสา ตามที่มีผู้เอาไปเล่าใหม่
นกในเรื่องเดียวกัน แต่รับรู้ต่างกันเป็น 2 พวก
ทีนี้-ใครจะเป็นผู้ตัดสินว่า นกในเรื่องนี้เป็นนกกระเรียนหรือนกกระสากันแน่?
นี่คือ ทำเรื่องที่ยุติแล้วให้กลายเป็นเรื่องที่ยุติไม่ได้
คำถามคือ เพื่ออะไร???
…………..
อ่านเรื่องที่มีนกโกญจะ จากลิงก์ข้างล่าง
…………..
https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=19&p=10
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ผู้สมรู้ร่วมคิด
: คือเห็นคนทำผิดแล้วไม่ทักท้วง
#บาลีวันละคำ (4,709)
4-5-68
…………………………….
…………………………….