รับบาตร (บาลีวันละคำ 2,744)
รับบาตร
รับอะไร?
คำว่า “รับบาตร” นิยมพูดกันทั้งชาวบ้านและชาววัด
ชาวบ้านพูดว่า “นิมนต์พระมารับบาตร” หรือ “นิมนต์ท่านไปรับบาตรที่บ้าน” หมายความว่า นิมนต์พระไปบิณฑบาต ณ สถานที่ตามที่ตกลงกันไว้
ชาววัดพูดว่า “โยมเขานิมนต์ไปรับบาตร” หมายความว่า มีชาวบ้านนิมนต์ให้ไปบิณฑบาต ณ สถานที่ตามที่ตกลงกันไว้
ตามที่กล่าวมานี้ “รับบาตร” หมายถึงรับอาหารบิณฑบาตที่มีคนใส่
ในทางปฏิบัติก็คือ
(1) พระออกบิณฑบาต
(2) มีคนใส่บาตร
(3) พระรับอาหารที่คนใส่บาตร
3 ประการรวมกันเรียกสั้นๆว่า “รับบาตร”
คำที่ควรทำความเข้าใจ คือ “บิณฑบาต” กับ“บาตร”
“-บาต” ในคำว่า “บิณฑบาต” เป็นคนละคำกับ “บาตรพระ” ที่มาของคำหรือรากศัพท์ก็ต่างกัน
(๑) “-บาต” ในคำว่า “บิณฑบาต” มาจากคำบาลีว่า “ปาต” (ปา-ตะ) รากศัพท์มาจาก ปตฺ (ธาตุ = ตกไป) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ อะ ต้นธาตุเป็น อา (ปตฺ > ปาต)
: ปตฺ + ณ = ปตณ > ปต > ปาต (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะที่ตกไป” หมายถึง (1) การตก (fall) (2) การโยน, การขว้าง (throwing, a throw)
“ปิณฺฑปาต” แปลตามศัพท์ว่า “การตกของก้อนข้าว” “การโยนก้อนข้าว” หมายถึง ทำอาหารให้ตกลงไปในบาตร, อาหารที่บิณฑบาตได้มา (alms-gathering, food received in the alms-bowl)
“ปิณฺฑปาต” เขียนในภาษาไทยเป็น “บิณฑบาต” (-บาต ไม่มี ร เรือ)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บิณฑบาต : (คำนาม) อาหาร (ใช้แก่พระภิกษุสามเณร) เช่น รับบิณฑบาต. (คำกริยา) กิริยาที่พระภิกษุสามเณรรับของที่เขานํามาใส่บาตร, โดยปริยายหมายถึงกิริยาที่พระภิกษุสามเณรขอหรือขอร้อง เช่น เรื่องนี้ขอบิณฑบาตให้เลิกแล้วต่อกัน. (ป. ปิณฺฑปาต ว่า ก้อนข้าวที่ตก).”
(๒) “บาตร” ที่เป็นบาตรพระ มาจากคำบาลีว่า “ปตฺต” (ปัด-ตะ) รากศัพท์มาจาก –
(1) ปตฺ (ธาตุ = ตกลงไป) + ต ปัจจัย
: ปตฺ + ต = ปตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ภาชนะเป็นที่ตกลงแห่งข้าวสุก” หมายความว่า ข้าวสุก (= อาหาร) ตกลงไปในภาชนะชนิดนี้ จึงเรียกภาชนะนี้ว่า “ปตฺต”
(2) ปาต (การตก) + ตา (ธาตุ = รักษา) + อ ปัจจัย, รัสสะ อา ที่ ปา-(ต) เป็น อะ (ปาต > ปต), “ลบสระหน้า” คือลบ อา ที่ ตา (ตา > ต)
: ปาต + ตา = ปาตตา > ปตฺตา > ปตฺต + อ = ปตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ภาชนะที่รักษาจากการตก” หมายความว่า (1) รักษา คือระวังไม่ให้ภาชนะนี้ตก เนื่องจากแต่เดิมภาชนะชนิดนี้ทำด้วยดิน ตกแล้วแตก (2) รักษา คือรองรับอาหารที่ตกลงมาไม่ให้หล่นถึงพื้น แต่ให้ตกลงในภาชนะนี้ จึงเรียกภาชนะนี้ว่า “ปตฺต”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล ปตฺต (ปุงลิงค์; นปุงสกลิงค์) ว่า a bowl, esp. the alms-bowl of a bhikkhu (ชาม, โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาตรของภิกษุ)
บาลี “ปตฺต” สันสกฤตเป็น “ปตฺร” เราเขียนอิงสันสกฤต แต่ยืดเสียงเป็น “ปาตร” และแปลง ป เป็น บ ตามหลักนิยมที่คุ้นกัน คือ ป ปลา เป็น บ ใบไม้
: ปตฺต > ปตฺร > ปาตร > บาตร
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“บาตร : ภาชนะชนิดหนึ่งสําหรับภิกษุสามเณรใช้รับอาหารบิณฑบาต (ส. ปตฺร; ป. ปตฺต).”
“ปาต” กับ “ปตฺต” มีที่มาต่างกัน เมื่อกลายรูปมาเป็นคำไทยจึงต้องเขียนต่างกัน
“ปาต” เขียนเป็นคำไทยว่า “บาต”
“ปตฺต” เขียนเป็นคำไทยว่า “บาตร”
คำว่า “รับบาตร” นี้ เข้าใจว่าคำเดิมคงพูดว่า “รับบิณฑบาต” ออกเสียงว่า รับ-บิน-ทะ-บาด แต่พูดลัดตัดคำให้สั้นลงว่า รับ-บาด คือ รับ(บิณฑ)บาต แล้วเอาเสียง รับ-บาด มาเขียนใหม่เป็น “รับบาตร”
ที่ไม่เขียนเป็น “รับบาต” (“-บาต” ที่ตัดมาจากคำว่า “บิณฑบาต”) ก็เพราะ “บาต” คำเดียวสื่อความหมายไม่ได้ว่ากำลังพูดเกี่ยวกับอะไร แต่ “บาตร” เป็นคำที่คนทั่วไปรู้จักและเข้าใจกันดีว่าเกี่ยวกับพระ และเกี่ยวกับการออกบิณฑบาต สื่อความหมายได้ดีกว่า จึงสะกดเป็น “รับบาตร”
แต่อาจอธิบายลากเข้าความได้อีกทางหนึ่งว่า “รับบาตร” ตัดมาจาก “รับอาหารด้วยบาตร” ฟังดูก็ชวนให้เห็นว่ามีเหตุผลเป็นไปได้อยู่
คำว่า “รับบาตร” น่าจะจัดเป็นภาษาปากได้ชนิดหนึ่ง คือเป็นคำที่ใช้พูดกันพอให้เข้าใจง่ายๆ เท่านั้น ภาษาเขียนคือภาษาที่เป็นแบบแผนหรือภาษาที่เป็นทางการควรใช้ว่า “รับบิณฑบาต”
คำว่า “รับบาตร” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔
…………..
ดูก่อนภราดา!
: รักษาบาตรใบเดียวไว้ได้
: รักษาพุทธศาสนาไว้ได้
#บาลีวันละคำ (2,744)
17-12-62