ผู้ล่วงพ้นความกลัวตาย (๑)
ผู้ล่วงพ้นความกลัวตาย (๘)
ผู้ล่วงพ้นความกลัวตาย (๘)
————————-
ข้อมูลที่สอง:
หลักวิชาในพระพุทธศาสนาที่แสดงถึง “ผู้ล่วงพ้นความกลัวตาย” หรือที่ตั้งเป็นคำถามว่า ใครบ้างที่ไม่กลัวตาย ที่นำมาแสดงแล้วนั้นเป็นพระพุทธพจน์ที่มีมาในพระไตรปิฎกโดยตรง
ต่อไปนี้เป็นข้อมูลที่มาในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา
มีพระพุทธพจน์ในคัมภีร์พระธรรมบท (ทัณฑวรรค ธรรมบท พระไตรปิฎกเล่ม ๒๕ ข้อ ๒๐) ความว่า –
สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส
สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน
อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา
น หเนยฺย น ฆาตเย.
สัตว์ทั้งหมดกลัวโทษทัณฑ์
สัตว์ทั้งหมดกลัวความตาย
เปรียบตนเองกับผู้อื่นอย่างนี้แล้ว
ไม่ควรฆ่าเอง ไม่ควรสั่งให้คนอื่นฆ่า
(คำแปลจาก-พุทธวจนะในธรรมบท สำนวนอาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
คัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถา ภาค ๕ (ฉพฺพคฺคิยภิกฺขุวตฺถุ เรื่องที่ ๑๐๗) อธิบายคำว่า “สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน” (สัตว์ทั้งหมดกลัวความตาย) ว่า แม้พระพุทธพจน์จะตรัสว่า “สพฺเพ = สัตว์ทั้งหมด” แต่ก็มีนัยที่ละไว้ฐานเข้าใจ
นั่นคือ ไม่ใช่หมายความว่า “ทั้งหมด” ตามตัวอักษร เพราะมีบางจำพวกที่ไม่กลัวตาย ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ยกเว้น
คัมภีร์ธัมมปทัฏฐกถาดังกล่าวแสดงรายการ “สัตว์” ที่ไม่กลัวตายไว้ ๔ จำพวก คือ –
๑ หตฺถาชาเนยฺโย = ช้างอาชาไนย
๒ อสฺสาชาเนยฺโย = ม้าอาชาไนย
๓ อุสภาชาเนยฺโย = โคอุสภอาชาไนย
๔ ขีณาสโว = พระขีณาสพ
ท่านให้เหตุผลไว้ว่า ช้าง-ม้า-โคอาชาไนย ๓ จำพวกนี้มีอหังการสูงสุด มองไม่เห็นว่าจะมีสัตว์ชนิดไหนมาต่อกรกับตนได้ จึงไม่กลัวสัตว์ชนิดไหนทั้งสิ้น เมื่อสู้กันก็ยอมสู้จนตัวตาย
เรียกได้ว่ามันกลัวความเป็น “อาชาไนย” ของมันจะถูกเหยียบย่ำให้ต่ำต้อยมากกว่าที่จะกลัวตาย
เพราะฉะนั้น จึงนับว่าสัตว์เหล่านั้นเป็นจำพวกไม่กลัวตาย
คงจะคล้ายๆ กับที่พูดกันว่า-ทหารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลัวสมเด็จพระนเรศวรมากกว่ากลัวความตาย
ส่วนพระขีณาสพ-ซึ่งหมายถึงพระอรหันต์-ไม่กลัวตาย เพราะท่านละความเป็นตัวกูของกูได้หมดแล้ว
เห็นใครตาย ท่านก็ไม่ได้เห็นมี “ใคร” ตาย นอกจากความสลายตัวของธาตุขันธ์ เท่ากับท่านไม่ได้เห็นว่ามี “ความตาย” อยู่ที่ไหนนั่นเอง
เมื่อความตายไม่ได้มีอยู่จริงตามสัจธรรมที่เห็นประจักษ์ ท่านก็จึงไม่กลัวตาย
………………….
ท่านผู้ใดจะมีแก่ใจช่วยขยายความเพิ่มเติม ก็ขอเรียนเชิญนะครับ – เช่น ช้าง-ม้า-โคอาชาไนย
คำว่า “อาชาไนย” หมายความว่าอย่างไร
………….
ตอนต่อไป … ใครบ้างที่ไม่กลัวตาย : ข้อมูลที่สาม
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๓ มีนาคม ๒๕๖๓
๑๗:๒๕
…………………………….
…………………………….