เย้! เรากำลังหายใจรดต้นคอฝรั่งแล้ว 
เย้! เรากำลังหายใจรดต้นคอฝรั่งแล้ว
————————————-
หนังฝรั่งที่ผมดู ปกติก็เป็นหนังคาวบอย หรือหนังประวัติศาสตร์ ซึ่งแสดงถึงวิถีชีวิตของฝรั่งในสมัยเก่า
หนังฝรั่งที่เป็นเรื่องสมัยใหม่ผมก็เลือกดูเป็นบางเรื่อง
ดูหนังฝรั่งสมัยใหม่ ผมมีข้อสังเกตบางประการ
คือพระเอกหรือนางเอก-ในเรื่องนะครับ ไม่ใช่ในชีวิตจริง-มักจะเป็นคนที่เคยแต่งงานและหย่ามาแล้ว
เรื่องไหนเรื่องนั้น ไม่ค่อยพลาด
บางเรื่อง พระเอกหรือนางเอกในเรื่องหย่ามาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง
ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
อาจพูดได้ว่า พระเอกนางเอกในเรื่อง ถ้าไม่เคยหย่ามาก่อนนั่นสิผิดปกติ
แล้วก็ที่สอดคล้องกันก็คือ ตัวเอกในหนัง-ถ้าเป็นวัยรุ่นหรือเป็นเด็ก-ก็มักจะเป็นคนที่พ่อแม่แยกทางกัน
บางคนอยู่กับแม่ในขณะที่พ่อไปมีเมียใหม่
บางคนอยู่กับพ่อในขณะที่แม่ไปมีผัวใหม่
สัปดาห์หนึ่งหรือสองสัปดาห์ลูกจึงจะได้เจอพ่อ หรือเจอแม่ หรือเจอพ่อแม่พร้อมกัน
ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดาอย่างหนึ่ง
กับอีกประการหนึ่ง หญิงสาว (ในเรื่อง) มักจะเคย “นอนกับผู้ชาย” มาแล้ว อย่างน้อยก็คนหนึ่ง และมักจะมากกว่าคนหนึ่ง
ผู้ชายที่นอนด้วยกับผู้ชายที่แต่งงานด้วยไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกัน
ถือว่าเป็นเรื่องปกติอีกเช่นกัน
อาจเป็นเจตนาของผู้สร้างหนังที่จะวาดภาพออกมาอย่างนั้นเพื่อชี้นำสังคม (มองกันในแง่ร้าย)
หรืออาจเป็นภาพจริงในสังคมที่ผู้สร้างหนังสะท้อนออกมา-ก็แล้วแต่จะมอง
ญาติมิตรที่สันทัดการฝรั่งอ่านมาถึงตรงนี้อาจจะหัวเราะลั่นแล้วบอกว่า เรื่องแบบนี้ฝรั่งเขาไม่ถือกันแล้วขอรับ คุณปู่ไปอยู่ที่ไหนมา
———————
ผมเข้าใจว่า เรื่องผัวเดียวเมียเดียวและรักนวลสงวนตัวนี่ ฝรั่งสมัยก่อนกับไทยสมัยก่อนมีค่านิยมคล้ายกัน
ถ้า “เรื่องแบบนี้ฝรั่งเขาไม่ถือกันแล้ว” เป็นความจริง
และถ้าให้ผมพูดตามทัศนะของผม-ซึ่งญาติมิตรทั้งปวงไม่จำเป็นต้องเห็นพ้องด้วย-ผมก็อยากจะพูดว่า ฝรั่งเสื่อมเร็วกว่าไทย
คำว่า “เสื่อม” ของผมมีกรอบอยู่ที่วัฒนธรรมของมนุษย์ที่พัฒนาจนเจริญกว่าสัตว์เดรัจฉาน
หมายความว่า เดิมมนุษย์กับสัตว์ก็เท่ากันเสมอกันในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องหลัก ๔ เรื่อง คือ กิน นอน กลัว และสืบพันธุ์
สัตว์ทำแบบไหน
มนุษย์ก็ทำแบบนั้น
ต่อมามนุษย์ก็พัฒนาจิตใจสูงขึ้น มีหลักการประพฤติปฏิบัติที่ประเสริฐดีงามเหนือกว่าสัตว์ การปฏิบัติในเรื่องกิน นอน กลัว และสืบพันธุ์ ก็ประณีตดีงามกว่าสัตว์
โดยเฉพาะการสืบพันธุ์ มนุษย์ที่พัฒนาแล้วก็จะมีวัฒนธรรมในการเลือกคู่ มีคู่ที่แน่นอน รู้แน่ว่าใครเป็นคู่ของใคร ไม่ละเมิดคู่ของกัน ใครมีคู่แล้วก็ยินดีพอใจในคู่ของตน ไม่ไปยินดีพอใจใครอื่นอีก และมีวัฒนธรรมในการปฏิบัติตัวต่อกัน มีหลักที่ดีงามในการทำหน้าที่ต่อกัน
นี่ว่าโดยภาพรวมรวบยอด
ภาพเช่นนี้ไม่มีในสังคมของสัตว์เดรัจฉาน
ถ้าจะมีอะไรที่ดูคล้ายมนุษย์ที่พัฒนาแล้ว เช่นผัวเดียวเมียเดียว นั่นก็เป็นไปตามสัญชาตญาณ ไม่ใช่เพราะมันพัฒนาคุณธรรมขึ้นมาได้อีกชั้นหนึ่ง-เหมือนมนุษย์
ถ้า “เรื่องแบบนี้ฝรั่งเขาไม่ถือกันแล้ว” เป็นความจริง
ก็คือฝรั่งกลับไปเท่ากันเสมอกันกับสัตว์อีกแล้ว-ใช่หรือไม่
และเพราะบัดนี้การสื่อสารถ่ายทอดพฤติกรรมสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง มีใครสังเกตบ้างหรือไม่ว่า เวลานี้สังคมไทยก็ทำท่าจะเป็นเหมือนฝรั่งเข้าแล้ว
แต่งแล้วหย่า เป็นเรื่องธรรมดา
ยิ่งในวงการบันเทิงด้วยแล้ว-ผมสังเกตเห็นว่า-แต่งเสร็จก็เริ่มนั่งรอวันหย่าได้เลย
สื่อบ้านเราก็ชอบ-จนถึงขั้นที่พูดได้ว่า “จ้อง” ที่จะทำข่าวคนดังหย่ากัน
เพราะขายได้ดี
คู่นี้หย่ากันแล้ว ก็คอยมองหาว่าคู่ไหนจะหย่ากันเป็นรายต่อไป
สนุกดี
———————
ค่านิยมรักนวลสงวนตัว-กล่าวได้ว่ากำลังเสื่อมไปด้วยอย่างรวดเร็ว
จำได้ไหมครับ ที่ผมเคยเล่าเรื่องพ่อไปทาบทามลูกสะใภ้ให้ลูกชาย
ว่าที่ลูกสะใภ้เห็นว่าถ้าแต่งงานแล้วจะไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ไหน จึงขออนุญาตพ่อแม่ไปเที่ยวงานไหว้พระประจำปีที่นครปฐมส่งท้ายชีวิตโสด
สมัยโน้น หนุ่มๆ ทางบ้านผมไปเที่ยวงานไหว้พระประจำปีที่นครปฐมกลับมาเล่ากันสนุกปากว่า คนแน่นมาก ถือโอกาสจับนมจับก้นสาวๆ สนุกมือไปเลย
ว่าที่พ่อผัวพอรู้ว่า ว่าที่ลูกสะใภ้ไปเที่ยวงานนครปฐม ก็บอกยกเลิกทันที เหตุผลมีข้อเดียวคือ ว่าที่ลูกสะใภ้ไปถูกจับนมจับก้นมาแล้ว-ตามภาพที่วาดขึ้นในใจ
แค่ไปเที่ยวงานไหว้พระ (ที่คนแน่นมากและอาจถูกจับนมจับก้น)
ไม่ได้ไป “นอนกับผู้ชาย” ที่ไหนเลย
และข้อเท็จจริง จะถูกจับนมจับก้นหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำไป
แต่ถือว่าไม่บริสุทธิ์ไปเรียบร้อยแล้ว
ค่านิยมแรงมากถึงขนาดนี้
ผ่านไปครึ่งศตวรรษเท่านั้น หญิงไทยสามัญประจำบ้านสมัยนี้ฟังเรื่องนี้แล้วจะต้องเห็นตรงกันหมดว่า ทำไมจึงบรมโบราณถึงขนาดนี้
สมัยผมเป็นเด็ก ผู้หญิงที่เสียตัวก่อนแต่งจะถูกตำหนิมาก
สมัยนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดามาก-ผ่านไปครึ่งศตวรรษเท่านั้น
———————
ถ้าค่านิยม “เรื่องแบบนี้ฝรั่งเขาไม่ถือกันแล้ว” แพร่ระบาดครอบงำสังคมไทยมากขึ้น อะไรจะเกิดขึ้น
เด็กไทยชายหญิงเกิดมาก็จะมีแต่แม่ ไม่รู้ว่าพ่ออยู่ไหน หรือเห็นแต่พ่อ ไม่รู้ว่าแม่อยู่ไหน-เป็นเรื่องปกติที่พบมาตั้งแต่เด็ก-หรือตั้งแต่เกิด
เห็นผัวเมีย หรือก็คือพ่อแม่หย่ากันเป็นเรื่องปกติธรรมดา
เห็นผู้หญิง “นอนกับผู้ชาย” เป็นเรื่องปกติธรรมดา
คำว่า “รักนวลสงวนตัว” เป็นคำบรมโบราณที่ไม่มีใครเข้าใจความหมาย และนึกไม่เป็นเห็นไม่ได้ว่ามนุษย์จะต้องมีค่านิยมไร้สาระแบบนี้ไปทำไม
ถ้า “เรื่องแบบนี้ฝรั่งเขาไม่ถือกันแล้ว” เป็นความจริง
สังคมไทยเราก็กำลังหายใจรดต้นคอฝรั่งอยู่แล้วแหละครับ
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๑๙ มีนาคม ๒๕๖๑
๑๗:๒๗
————–
ภาพประกอบ: จาก google
…………………………….
…………………………….