บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

บทความเรื่อง ทำไมต้องทิ้งตัวเอง

ทำไมต้องทิ้งตัวเอง (๓)

———————–

เท่าที่กล่าวมานี้ ฟังดูคล้ายกับว่าวัฒนธรรมฝรั่งนั้นช่างไม่มีอะไรดีที่ควรจะเอาอย่างอยู่บ้างเลย —

ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า การรับเอาวัฒนธรรมต่างชาติเข้ามาใช้นั้นไม่ใช่เรื่องเสียหาย-ถ้าเรารู้จักประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะไทยของเรา 

แต่มิใช่เป็นการประยุกต์ลักษณะไทยของเราให้เข้ากับวัฒนธรรมต่างชาติ 

เพราะการทำเช่นนั้นก็คือการทิ้งตัวเอง ซึ่งในที่สุดเราก็จะไม่มีอะไรเหลือเป็นของตัวเอง

ข้อที่น่าสังเกตก็คือ เรามักจะเอาอย่างหรือเลียนแบบฝรั่งเฉพาะที่เราอยากจะทำเท่านั้น ส่วนที่ฝืนกับกิเลสของเรา แม้จะเป็นวัฒนธรรมที่ดี เราก็ไม่เอาอย่าง 

เช่นการตรงต่อเวลาซึ่งฝรั่งเขาถือมาก เราก็ถือเหมือนกัน แต่ถือคติ “มาไทยไปฝรั่ง” คือเวลามาทำงาน ฉันถือแบบไทย คือมาช้ากว่ากำหนดก็ไม่เสียหาย แต่เวลาเลิกงาน ฉันถือแบบฝรั่ง คือเลิกตรงตามกำหนด หรือถ้าเลิกก่อนกำหนดได้ยิ่งดี

การรู้จักสิทธิและหน้าที่เป็นวัฒนธรรมที่ดีของฝรั่ง เราก็ไม่ค่อยถือกัน ฝรั่งเขาถือว่าสิทธิและหน้าที่ต้องทำให้เท่ากัน แต่ไทยเรามักจะถือตรงกันข้าม คือถือคติว่า สิทธิต้องเอาเดี๋ยวนี้ ส่วนหน้าที่ทำเมื่อไรก็ได้ หรือจะไม่ทำก็ยังได้ 

การเคารพในกฎเกณฑ์กติกาของสังคมก็เป็นวัฒนธรรมที่ดีของฝรั่ง แต่เราก็ไม่ชอบเอาอย่างฝรั่ง เราชอบทำอะไรได้ตามใจคือไทยแท้

เมื่อเป็นเช่นนี้ การเอาอย่างฝรั่งของเราจึงเป็นอย่างที่มีผู้เรียกว่า “ทันสมัย แต่ไม่พัฒนา” 

หมายความว่า วัตถุเปลือกนอกอันใดที่ฝรั่งมี เราก็มีเหมือนฝรั่งได้ทุกอย่าง ตึกรามสูงกี่สิบกี่ร้อยชั้นที่ฝรั่งเขามี เราก็พยายามมีให้เหมือนเขา เครื่องมือแสงสีวิทยาการใหม่ๆ ที่ฝรั่งเขามี เราก็มีได้

แต่ชีวิตจิตใจ วิญญาณหรือความนึกคิดที่จะใช้ให้เข้ากับบรรดาวัตถุเปลือกนอกทั้งหลายนั้นเราไม่มี 

เรามีตู้โทรศัพท์สาธารณะแบบฝรั่ง แต่ตู้นั้นก็มักจะแตกพัง หรือเครื่องโทรศัพท์สูญหาย

เรามีสวนสาธารณะอย่างฝรั่ง แต่ก็เป็นที่สำหรับทำสกปรกเลอะเทอะได้อย่างเสรี 

เรามีทางม้าลาย แต่เราก็ข้ามถนนได้ตามใจชอบ 

เรามีสัญญาณไฟจราจร แต่เราก็ขับรถฝ่าสัญญาณไฟอย่าหน้าตาเฉย

เรามีตึกสูงเสียดฟ้า แต่ตึกนั้นก็มักตั้งอยู่อย่างขาดระเบียบและหลักเกณฑ์ที่ดี

ตลอดจนเรามีประชาธิปไตย แต่เราก็มักจะเล่นไม่ซื่อกับกติกาของประชาธิปไตย

เหล่านี้คือตัวอย่างแห่งความทันสมัย แต่ไม่พัฒนา

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔

๑๗:๔๕

ดูโพสในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *