จะลอยตามน้ำหรือจะว่ายข้ามทะเล
จะลอยตามน้ำหรือจะว่ายข้ามทะเล
————————————-
เพลงชาติฉบับใหม่ที่กำลังถูกวิจารณ์อยู่ในขณะนี้ เนื้อร้องและทำนองก็เป็นเป็นเพลงชาติฉบับเดิมนั่นแหละ ที่แปลกออกไปคือภาพประกอบ
แนวของภาพที่เป็นหลักในเพลงชาติฉบับใหม่ก็คือ ภาพผู้คนหลายอาชีพหลายสถานะร้องเพลงชาติ
ท่อนนี้คนอาชีพนี้ร้อง
ท่านโน้นคนอาชีพโน้นร้อง
ร้องคนละท่อนติดต่อกันไปจนจบ
เข้าใจว่าผู้ผลิตมีความคิดที่จะเปลี่ยน Look หรือภาพลักษณ์ของชาติไทยใหม่ โละความเป็นไทยแบบเก่าทิ้งไป สร้างความเป็นไทยแบบใหม่ขึ้นมาแทน
จะพูดว่า “สร้างความเป็นไทยแบบใหม่ขึ้นมาแทน” ก็ไม่ใช่
อันที่จริงต้องเรียกว่า เอาวัฒนธรรมของคนอื่นมาแทนวัฒนธรรมไทย
ถ้าตัดเสียงเพลงออกไป ให้ดูแต่ภาพ แล้วถามคนในโลกนี้ว่า นี่เป็นคนชาติไหน
ผมเชื่อว่าจะต้องมีคนตอบว่า เป็นชาติอาหรับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
——————–
มีเสียงคัดค้านว่า ภาพประกอบไม่สื่อถึงพระพุทธศาสนาอันเป็นวัฒนธรรมของไทย แต่กลับสื่อถึงศาสนาอื่น
เมื่อเสียงคัดค้านดังออกไป ก็มีเสียงถามจากฝ่ายที่เป็นผู้ผลิตโต้กลับมาว่า จะให้เอาพระภิกษุมายืนร้องเพลงชาติด้วยอย่างนั้นหรือ
คำถามกลับนี้ทำให้เห็นเล่ห์เหลี่ยมของคนถามชัดเจน
คนถามย่อมรู้แก่ใจว่า พระภิกษุในพระพุทธศาสนาร้องเพลง-เหมือนกับคนที่ร้องเพลงชาติไทยในภาพนั้น-ไม่ได้
แต่ถ้าไม่รู้จริงๆ คำถามนั้นก็แสดงถึงความเขลาโดยสุจริต
อีกทั้งในประดาเสียงคัดค้าน ก็ไม่มีเสียงไหนบอกเลยว่า ควรจะให้มีภาพพระยืนร้องเพลงชาติด้วย
และคนที่ผลิตภาพประกอบเพลงชาติ รวมทั้งคนถามกลับ ก็ย่อมจะมีสติปัญญามากพอที่จะคิดออกว่า ภาพประกอบที่สื่อถึงพระพุทธศาสนาอันเป็นวัฒนธรรมของไทยนั้นสามารถทำออกมาได้ตั้งมากมายหลายหลาก-ที่ใครดูก็รู้ทันทีว่า เฮ่ย! นี่เมืองพุทธเมืองไทยนี่หว่า – ทั้งนี้โดยไม่จำเป็นจะต้องมีภาพพระภิกษุมายืนร้องเพลงชาติให้เสียสมณสารูปแต่ประการใด
คำถามกลับที่ว่า จะให้เอาพระภิกษุมายืนร้องเพลงชาติด้วยอย่างนั้นหรือ – จึงทำให้เราท่านควรจะสงสัยว่า คนถามซ่อนอะไรไว้ในใจ
——————–
เวลานี้ผู้คนในโลกหน้าด้านกันมากขึ้น
สมัยเก่า อะไรที่ไม่ถูกไม่ควร คนจะแอบทำไม่ให้ใครรู้ ถ้ามีคนรู้ ก็จะอาย จะเลิกทำ
เช่นการทุจริตโกงกิน หรือการเบียดบังของหลวงเอามาเป็นประโยชน์ส่วนตัว ใครทำ พอมีคนรู้ หรือถูกจับได้ คนที่ทำก็จะเลิกทำ และมักจะหายหน้าไปจากสังคมเพราะความอับอาย
สมัยนี้ ทำกันซึ่งหน้า ใครรู้ก็รู้ไป ไม่อายซะอย่าง ทำแล้วก็ยังลอยหน้าวางมาดเป็นผู้มีเกียรติอยู่ในสังคมได้เป็นปกติ
………………..
เพลงชาติฉบับใหม่ ในมุมมองของผม ผมเห็นว่าเป็นการโยนหินถามทาง
ถ้าสังคมสงบเงียบเรียบร้อย ก็ถือโอกาสเดินหน้า-เพิกถอนวัฒนธรรมพุทธ-ต่อไปเรื่อยๆ
แต่ถ้ามีเสียงเอะอะขึ้นมา ….
ผู้รับผิดชอบเรื่องนี้จะเป็นคนที่มีวัฒนธรรมสมัยเก่า หรือจะเปลี่ยนนิสัยมาเป็นคนสมัยนี้ไปเสียแล้ว
ตรงนี้แหละครับที่จะต้องจับตาดูกันให้ดี พร้อมทั้งเตรียมกำหนดท่าทีกันให้เหมาะ
จะลอยตามน้ำ ไม่ต้องทำอะไร นอกจากท่องคาถาของท่านผู้บรรลุธรรมแล้วที่ว่า ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
หรือจะจำเริญรอยตามพระมหาชนกบรมโพธิสัตว์ที่แหวกว่ายข้ามทะเลทั้งที่มองไม่เห็นฝั่ง – ไปกอบกู้วัฒนธรรมพุทธ-วัฒนธรรมไทยให้กลับคืนมา
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒
๑๕:๑๗
…………………………….