บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

ใช้หนี้พระศาสนากันบ้างหรือยัง

ใช้หนี้พระศาสนากันบ้างหรือยัง

—————————–

พระเดชพระคุณรูปหนึ่งซึ่งเป็น “คีย์แมน” หรือบุคคลคุณภาพในการบริหารการศึกษาทางพระศาสนา ท่านเล่าถึงสำนักเรียนบาลีที่ท่านเคยไปเล่าเรียนศึกษาสมัยเป็นสามเณร เป็นสำนักเรียนที่คึกคักที่สุด ด้วยฝีมือการบริหารจัดการชั้นเซียนเหยียบเมฆของ “หลวงพ่อ” 

พอสิ้นบุญหลวงพ่อ ก็สิ้นบุญของสำนักเรียน 

ทุกวันนี้สำนักเรียนแห่งนั้นร่วงโรยถึงที่สุด 

ฟังแล้วสะเทือนใจอย่างยิ่ง 

สำนักเรียนบาลี-วัดมหาธาตุ ราชบุรี-ที่ผมเคยเรียนก็มีสภาพแบบเดียวกัน 

ผมเชื่อว่าคงจะเป็นแบบนี้เหมือนกันทั่วประเทศ

สำนักเรียนบาลีเป็นเพียง “กรณีศึกษา” ส่วนหนึ่งเท่านั้น กิจการพระศาสนาด้านต่างๆ ของเรารุ่งเรืองเพราะฝีมือบริหารของตัวบุคคลทั้งสิ้น

พอตัวบุคคลล่วงลับ

กิจการนั้นๆ ก็ร่วงโรย

………………

ผมเห็นว่า ความหวังเดียวของพระศาสนาก็คือ-อย่าฝากความหวังของพระศาสนาไว้กับใครคนเดียว

ที่ผ่านมาเราบริหารกิจการพระศาสนาด้วยความคิดของบุคคลคนเดียว ต่อไปนี้ถ้าคิดจะรักษาพระศาสนาเราต้องเปลี่ยนวิธีการ จากตัวบุคคลมาบริหารเป็นคณะหรือเป็นองค์กร

คณะหรือองค์กรยั่งยืนกว่าตัวบุคคล 

แต่ก็เข้ารอยเดิมของทุกปัญหา นั่นคือ ใครล่ะจะเป็นคนลงมือเปลี่ยน 

ใครล่ะจะเป็นคนเข้าไปขับเคลื่อนผู้มีอำนาจมีตำแหน่งมีหน้าที่ให้ลงมือขับเคลื่อนงานพระศาสนาในแนวทางใหม่-คือฝากความหวังไว้กับคณะหรือองค์กร

เราไม่ควรฝากอนาคตของพระศาสนาไว้กับตัวบุคคล แต่แล้วอนาคตของเราก็มาเจอทางตันที่ตัวบุคคลทุกทีไป

ผมคิดเรื่องนี้จนอยากจะตกลงใจว่า-แบบนี้ก็ตัวใครตัวมันเถอะ 

เอาตัวรอดก่อนดีกว่า 

พระศาสนารอด เราก็รอด 

พระศาสนาไม่รอด เราก็ยังรอด 

ดีกว่าพระศาสนาก็ไม่รอด 

เราก็ไม่รอด

…………

เก็บบุญใส่ย่าม ประพฤติธรรม ปฏิบัติธรรมไปตามลำพัง 

ไม่ทำบาปทั้งปวง

ทำกุศลให้ถึงพร้อม

ทำจิตของตนให้ขาวรอบ

เรียนมาแล้ว 

ทำเองเป็นแล้วนี่

การพระศาสนาจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องสนใจ 

ผมเชื่อว่าชาวพุทธส่วนใหญ่บ้านเราคิดแบบนี้ 

ผู้บริหารการพระศาสนา ซึ่งมีตำแหน่ง มีหน้าที่ มีทั้งอำนาจ ก็ดูเหมือนจะคิดแบบนี้ 

ผมเองก็อยากคิดแบบนี้มั่ง 

แต่มาคิดอีกที – เหมือนคนยืมเงินเขาไปแล้วไม่ใช้คืน 

ได้ความรู้ไปจากสำนัก

ได้ดีไปจากวัด 

มีวันนี้ได้ก็เพราะสำนัก ก็เพราะวัด ก็เพราะพระศาสนา 

แล้วเราใช้หนี้พระศาสนากันบ้างหรือยัง

และถ้าคิดจะใช้ ใช้ยังไง? 

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๓

๑๑:๑๑

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *