วิธีช่วยกันรักษาชาติบ้านเมือง
วิธีช่วยกันรักษาชาติบ้านเมือง
——————————-
เริ่มที่จุดเล็กๆ : จับผิด-ชี้โทษ
“จับผิด” คือ เรื่องอะไรก็ตามที่เขาทำเป็นการส่วนตัว ไม่เปิดเผย ก็เที่ยวไปขุดคุ้ยหาข้อบกพร่องเอามาตำหนิ มุ่งจะให้เกิดความเสียหายแก่เขา
แบบนี้ไม่ควรทำ
“ชี้โทษ” คือเขาทำโดยเปิดเผย ไม่ได้ปกปิดใคร เห็นกันทั่วไป ตั้งใจทำให้เห็น ไม่ต้องขุดคุ้ย
แต่ผู้ทำไม่รู้ตัวว่าเรื่องที่ตนทำนั้นมีข้อบกพร่อง
ผู้ปรารถนาดีจึงต้องชี้ให้เห็น บอกให้รู้ด้วยเจตนาจะไม่ให้ทำผิดเช่นนั้นอีก
แบบนี้ควรทำ
แต่ก็ควรรู้กาลเทศะ
เวลานี้สังคมไทยจับทางไม่ถูก แยกไม่เป็น
เห็นการชี้โทษเป็นการจับผิดไปหมด
ใครยกข้อบกพร่องของใครขึ้นมาพูด เป็นต้องถูกรุมประณามว่า “หมอนี่ดีแต่จับผิดชาวบ้านเขา”
คนทั้งหลายพอได้ยินคำตำหนิแบบนี้ก็ไม่อยากเข้าไปแตะต้อง
เรื่องผิดๆ จึงถูกปล่อยปละละเลย ไม่มีการแก้ไข
ท่าทีแบบนี้กลายเป็นการช่วยปกป้องคนผิดไปโดยปริยาย
ซ้ำกลายเป็นข้ออ้างอย่างดี คืออ้างว่า ถ้าที่ฉันทำมันผิด ก็ต้องมีคนทักท้วงสิ นี่ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลย
คนทำผิดจึงไม่มีโอกาสที่จะแก้ไขการกระทำของตน
เรื่องผิดๆ ก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่ก็เท่ากับว่าเราช่วยกันสร้างค่านิยมเกรงใจกันผิดๆ (bad tradition)
เห็นการปล่อยวางไม่เอาธุระเป็นเรื่องดี
หนักๆ เข้า ที่ผิดนั้นกลายเป็นเรื่องธรรมดา
แล้วในที่สุด ผิดกลายเป็นถูก
…………………
ตอนนี้ที่เห็นมากที่สุดก็คือ การใช้ภาษา-โดยเฉพาะการสะกดคำ เรียกให้เข้าใจง่ายว่า-เขียนผิด
อ่านโพสต์ต่างๆ ที่เผยแพร่กันทางเฟซบุ๊ก พบคำเขียนผิดเปรอะไปหมด
ผู้เขียนผู้โพสต์ก็ไม่ใส่ใจที่จะตรวจสอบว่า คำที่ตนเขียนลงไปนั้นสะกดถูกต้องหรือเปล่า
ผู้อ่านก็ไม่มีใครสนใจที่จะทักท้วง เพราะกลัวจะโดนรุม – “หมอนี่ดีแต่จับผิดชาวบ้านเขา”
เวลานี้น่าจะมาถึงจุดที่คิดเห็นกันว่า คำไหนจะสะกดถูกสะกดผิดอย่างไรก็เขียนเข้าไปเถอะ ไม่มีใครเขาสนใจเรื่องถูกผิดกันหรอก อ่านแล้วรู้เรื่องว่าจะบอกอะไร-แค่นี้พอแล้ว
แบบนี้ ภาษาไทยก็ถึงจุดดับ
คำไหนจะสะกดอย่างไร ตามสบาย
คำไหนจะให้มีความหมายว่าอย่างไร ว่ากันตามสบาย
พจนานุกรมหมดความจำเป็น
การเรียนรู้หลักภาษา หมดความจำเป็น
เรียนแค่-อักษรตัวไหนใช้แทนเสียงอะไร เท่านี้พอ
กาน การ กาล กาญจน์ กาฬ การย์ …
ใครอยากสะกดอย่างไร จะให้มีความหมายอย่างไร คิดเอาเองกำหนดเอาเองตามใจชอบ
คำพ้องเสียง คำพ้องรูป เลิกพูดกัน
ร เรือ ล ลิง เลิกพูดกัน
คำไหนใครอยากใช้ ร/ล ไหน เชิญตามสบาย
………………
……………..
ภาษาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม
ภาษาเสื่อมไปอย่างหนึ่งเพราะไม่มีใครใส่ใจ ต่อไปเรื่องอื่นๆ ก็เสื่อมตาม
วัฒนธรรมเป็นตัวตนของชาติบ้านเมือง
วัฒนธรรมเสื่อม
ชาติบ้านเมืองก็เสื่อม
ความรู้สึกไม่รักชาติบ้านเมืองก็แผ่คลุมไปทั่ว บ้านเมืองจะเป็นอะไรก็เป็นไป จะเป็นอะไรก็ช่างมันปะไร-เมืองไทยไม่ใช่ของกูคนเดียว
จะเห็นได้ว่า จุดเล็กๆ-จับผิด ชี้โทษ-ซึ่งดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรไปถึงชาติบ้านเมือง ในที่สุดก็มีผลกระทบไปถึงเรื่องใหญ่ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
เพราะฉะนั้น เอาใจใส่เรื่องภาษาเรื่องเดียว ดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่จงเชื่อเถิดว่า นี่แหละจะช่วยรักษาชาติบ้านเมืองไว้ได้
ในทางตรงกันข้าม การไม่เอาใจใส่เรื่องภาษาเพียงเรื่องเดียว ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการทำลายชาติบ้านเมืองได้เช่นกัน
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๑๓ เมษายน ๒๕๖๕
๑๔:๐๗
…………………………………………
………………………………………….