บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

ภาพที่เห็นแล้วควรอนุโมทนา

ภาพที่เห็นแล้วควรอนุโมทนา

—————————–

ผมได้อ่านโพสต์ของพระคุณท่าน Waranyu Yodpetch โพสต์เมื่อ ๕ กันยายน ๒๕๖๒ มีข้อความว่า –

……………….

การก่อสร้างพระอุโบสถหลังแรกของวัดไทยอชันต้าเอลโลร่า เมืองออรังกาบาด ขึ้นโครงสร้างตามแบบที่สถาปนิกได้ออกแบบไว้ ท่านใดปรารถนาจะร่วมกุศลครั้งนี้ติดต่อได้ที่วัด หรือท่านคมสรณ์ (พระครูปริยัติโพธิวิเทศ) โฆษกพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย เนปาล

……………….

ที่ยกเรื่องนี้มาโพสต์ต่อ ไม่ได้เกี่ยวกับการสร้างอุโบสถหลังแรกของวัดไทยอชันต้า และไม่มีความประสงค์จะมาช่วยบอกบุญชักชวนท่านผู้ใดให้ร่วมสร้าง ญาติมิตรท่านใดมีศรัทธาก็เชิญร่วมบุญกันตามอัธยาศัย 

แต่ที่ยกเรื่องนี้มาโพสต์ต่อมีเหตุอยู่ที่ภาพประกอบโพสต์ ดังที่ผมขออนุญาตเอามาลงเป็นภาพประกอบ 

โปรดดูภาพ แล้วสังเกต 

ในภาพมีพระภิกษุ ๒ รูป สุภาพสตรี ๒ คน 

พระภิกษุ ๒ รูป ยืน

สุภาพสตรี ๒ คน นั่ง

ผมเห็นแล้วต้องขออนุโมทนากับกิริยาของสุภาพสตรีทั้งสองในภาพ 

……………….

สุภาพสตรีถ่ายรูปกับพระภิกษุ – สถานภาพหลักก็คือ ผู้หญิงกับพระ 

ไม่ใช่เพื่อนกับเพื่อน หรือแม่กับลูก หรือพี่กับน้อง

แต่คือ-ผู้หญิงกับพระ

เคยเห็นภาพคนรุ่นใหม่ ผู้หญิงยืนเสมอกับพระ บางทีแทบจะเบียดกับพระ

จะเป็นเพื่อนกัน แม่ลูกกัน หรือพี่น้องกัน เอาไว้เป็นกันในสถานการณ์อื่น

แต่ในกรณีที่จะต้องทำอะไรใกล้กัน สถานภาพหลักคือ-ผู้หญิงกับพระ

สังคมไทยเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก อบรมสั่งสอนกันมามาก เมื่อผู้หญิงจะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับภิกษุ จะต้องทำอย่างไร

เริ่มกันตั้งแต่-จะต้องไม่ใช่ “สองต่อสอง” ตรงนี้สำคัญมากเพราะเกี่ยวกับวินัยของสงฆ์

ต่อไปก็เรื่องกิริยามารยาท เช่น ถ้าพระยืน ผู้หญิงต้องนั่ง หรือถ้านั่งด้วยกัน ก็ต้องไม่นั่งสูงกว่าพระ – อย่างนี้เป็นต้น 

คนสมัยก่อนเอาใจใส่เรื่องอย่างนี้มาก 

ตกมาถึงสมัยนี้ ต้องพูดตามจริงว่า การอบรมสั่งสอนเรื่องนี้ (และทุกเรื่องที่เป็นวัฒนธรรมไทย) ขาดตอนไปแล้ว

คนสมัยนี้-โดยเฉพาะกรณีผู้หญิง-แทบจะไม่ได้คำนึงถึงสถานภาพ “ผู้หญิงกับพระ” 

แต่ทำเหมือนที่ทำกับคนทั่วไป คือ “คนกับคน” 

สังเกตการหยิบ-จับ-รับ-ส่งสิ่งของระหว่าง “ผู้หญิงกับพระ” เดี๋ยวนี้ทำท่าว่าจะทำเหมือน “คนกับคน” กันแล้ว 

อันตรายนะขอรับ

ถ้าไม่ศึกษาสำเหนียกกันไว้ให้ดี และไม่อบรมสั่งสอนถ่ายทอดสืบต่อกันไว้ให้ดี การปฏิบัติต่อกันระหว่าง “ผู้หญิงกับพระ” จะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ 

คนรุ่นใหม่จะไม่รับรู้และไม่เห็นความสำคัญเรื่องกิริยามารยาทระหว่างคนกับพระ และโดยเฉพาะระหว่างผู้หญิงกับพระ 

ผมอยากจะเรียกว่า เรื่องแบบนี้เป็น “อบายมุข” คือปากทางแห่งความเสื่อมของพระศาสนาชนิดหนึ่ง

……………….

ผมไม่รู้จักพระคุณเจ้าและสุภาพสตรี ๒ คนในภาพเป็นการส่วนตัว แต่เห็นภาพนี้แล้วต้องน้อมอนุโมทนา 

เป็นภาพที่แสดงออกถึงคุณธรรมที่เรียกว่า “วินโย จ สุสิกฺขิโต” – วินัยที่ศึกษาดีแล้ว ซึ่งพระพุทธองค์ตรัสว่าเป็นอุดมมงคลข้อหนึ่ง 

ดูภาพเผินๆ ไกลๆ ทีแรกผมเข้าใจว่าสุภาพสตรี ๒ คนในภาพเป็นแหม่ม แต่ขยายดูใกล้ๆ แล้ว น่าจะเป็นคนไทย

อย่าทำเป็นชะล่าใจนะครับ ถ้าคนไทยไม่ศึกษาสำเหนียกสำนึกถึงเรื่องนี้กันไว้ให้ดี วันหนึ่งเถอะฝรั่งจะมาสอนมารยาทไทยให้คนไทย 

อายโลกเขานะครับ

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๗ กันยายน ๒๕๖๒

๑๒:๕๗

——

Waranyu Yodpetch

2 ชม. · 

๕ กันยายน ๒๕๖๒

การก่อสร้างพระอุโบสถหลังแรกของวัดไทยอชันต้าเอลโลร่า เมืองออรังกาบาด ขึ้นโครงสร้างตามแบบที่สถาปนิกได้ออกแบบไว้ ท่านใดปรารถนาจะร่วมกุศลครั้งนี้ติดต่อได้ที่วัด หรือท่านคมสรณ์ (พระครูปริยัติโพธิวิเทศ) โฆษกพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย เนปาล

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *