บาลีวันละคำ

อุเบกขาสัมโพชฌงค์ – 1 ในโพชฌงค์ 7 (บาลีวันละคำ 3,850)

อุเบกขาสัมโพชฌงค์ – 1 ในโพชฌงค์ 7

อ่านว่า อุ-เบก-ขา-สำ-โพด-ชง

ประกอบด้วยคำว่า อุเบกขา + สัมโพชฌงค์

(๑) “อุเบกขา”

บาลีเป็น “อุเปกฺขา” อ่านว่า อุ-เปก-ขา รากศัพท์มาจาก –

(1) อุป (คำอุปสรรค = เข้าไป, ใกล้) + อิกฺขา (การเสวยอารมณ์) แผลง อิ เป็น เอ

: อุป + อิกฺขา = อุปิกฺขา > อุเปกฺขา แปลตามศัพท์ว่า (1) “กิริยาที่เสวยอารมณ์ที่เป็นไปใกล้เวทนาสองอย่างคือสุขและทุกข์” (2) “กิริยาที่เสวยอารมณ์ที่เข้าไปใกล้สุขและทุกข์” (หมายถึงอยู่ตรงกลางระหว่างสุขและทุกข์ = ไม่สุขไม่ทุกข์)

(2) อุป (คำอุปสรรค = เข้าไป, ใกล้) + อิกฺขฺ (ธาตุ = ดู, เห็น, กิน, เสวย) + อ (อะ) ปัจจัย, แผลง อิ เป็น เอ + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์

: อุป + อิกฺขฺ = อุปิกฺขฺ + อ = อุปิกฺข > อุเปกฺข + อา = อุเปกฺขา แปลตามศัพท์ว่า (1) “กิริยาที่เพ่งโดยเป็นกลาง” (2) “กิริยาที่เสวยอารมณ์โดยสมควร” (3) “กิริยาที่ดูโดยอุบัติ คือเห็นเสมอภาคกันไม่ตกเป็นฝ่ายไหน”

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อุเปกฺขา” ว่า –

“looking on”, hedonic neutrality or indifference, zero point between joy & sorrow; disinterestedness, neutral feeling, equanimity; feeling which is neither pain nor pleasure (“มองเฉย”, ความไม่ยินดียินร้าย หรือการวางอารมณ์เป็นกลาง, จุดศูนย์ระหว่างความสุขกับความทุกข์; การวางเฉย, ความรู้สึกเป็นกลาง, ความสงบ; ความรู้สึกมิใช่ทุกข์มิใช่สุข)

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต แปลคำว่า “อุเบกขา” เป็นภาษาอังกฤษว่า –

1. equanimity; evenmindedness; neutrality; poise.

2. indifference; neutral feeling; neither pleasurable nor painful feeling.

บาลี “อุเปกฺขา” ในภาษาไทยใช้เป็น “อุเบกขา” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

“อุเบกขา : (คำนาม) ความวางใจเฉยอยู่, ความเที่ยงธรรม, ความวางตัวเป็นกลาง, เป็นข้อ ๑ ในพรหมวิหาร ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา. (ป. อุเปกฺขา).”

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต บอกความหมายของ “อุเบกขา” ไว้ว่า –

…………..

อุเบกขา :

1. ความวางใจเป็นกลาง ไม่เอนเอียงด้วยชอบหรือชัง, ความวางใจเฉยได้ ไม่ยินดียินร้าย เมื่อใช้ปัญญาพิจารณาเห็นผลอันเกิดขึ้นโดยสมควรแก่เหตุ และรู้ว่าพึงปฏิบัติต่อไปตามธรรม หรือตามควรแก่เหตุนั้น, ความรู้จักวางใจเฉยดูอยู่ เมื่อเห็นเขารับผิดชอบตนเองได้ หรือในเมื่อเขาควรต้องได้รับผลอันสมควรแก่ความรับผิดชอบของเขาเอง, ความวางทีเฉยคอยดูอยู่ในเมื่อคนนั้นๆ สิ่งนั้นๆ ดำรงอยู่หรือดำเนินไปตามควรของเขาตามควรของมัน ไม่เข้าข้าง ไม่ตกเป็นฝักฝ่าย ไม่สอดแส่ ไม่จู้จี้สาระแน ไม่ก้าวก่ายแทรกแซง (ข้อ ๔ ในพรหมวิหาร ๔, ข้อ ๗ ในโพชฌงค์ ๗, ข้อ ๑๐ ในบารมี ๑๐, ข้อ ๙ ในวิปัสสนูปกิเลส ๑๐)

2. ความรู้สึกเฉยๆ ไม่สุขไม่ทุกข์ เรียกเต็มว่า อุเบกขาเวทนา ( = อทุกขมสุข); (ข้อ ๓ ในเวทนา ๓)

…………..

(๒) “สัมโพชฌงค์”

อ่านว่า สำ-โพด-ชง เขียนแบบบาลีเป็น “สมฺโพชฺฌงฺค” อ่านว่า สำ-โพด-ชัง-คะ แยกศัพท์เป็น สมฺโพชฺฌ + องฺค

(ก) “สมฺโพชฺฌ” อ่านว่า สำ-โพด-ชะ รากศัพท์มาจาก สํ (คำอุปสรรค = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + พุธฺ (ธาตุ = รู้, ตื่น, เบ่งบาน) + ณฺย ปัจจัย, ลบ ณ (ณฺย > ย), แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น มฺ (สํ > สมฺ), แปลง ธ ที่ (พุ)-ธฺ กับ ย เป็น ชฺฌ, แผลง อุ ที่ พุ-(ธฺ) เป็น โอ (พุธฺ > โพธ)

: สํ + พุธฺ = สํพุธฺ + ณฺย = สํพุธณฺย > สํพุธฺย > สมฺพุธฺย > สมฺพุชฺฌ > สมฺโพชฺฌ (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “การรู้พร้อม” “เครื่องรู้พร้อม” หมายถึง ปัญญาเครื่องตรัสรู้, การตรัสรู้, การบรรลุธรรม

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “โพชฺฌ” ว่า a matter to be known or understood, subject of knowledge or understanding (เรื่องที่จะต้องรู้หรือต้องเข้าใจ, ธรรมอันเป็นที่รู้หรือเข้าใจ)

(ข) “องฺค” อ่านว่า อัง-คะ รากศัพท์มาจาก องฺคฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป; รู้) + อ (อะ) ปัจจัย

: องฺคฺ + อ = องฺค (นปุงสกลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ร่างที่เดินได้” (2) “เหตุเป็นเครื่องรู้ที่เกิด” (คือทำให้รู้ต้นกำเนิด) (3) “ส่วนอันเขารู้ว่าเป็นส่วนย่อย”

“องฺค” ในบาลีหมายถึง –

(1) ส่วนของร่างกาย, อวัยวะ (a constituent part of the body, a limb)

(2) ชิ้นส่วน, ส่วนประกอบ (member, part)

(3) องค์ประกอบของทั้งหมด หรือของระบบ หรือส่วนย่อยที่ประกอบเข้าเป็นส่วนใหญ่ (a constituent part of a whole or system or collection)

สมฺโพชฺฌ + องฺค = สมฺโพชฺฌงฺค > สัมโพชฌงค์ แปลว่า “ธรรมอันเป็นองค์แห่งการรู้พร้อม” (คือเมื่อปฏิบัติตามแล้วสามารถตรัสรู้ได้)

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สมฺโพชฺฌงฺค” ว่า constituent of Sambodhi (enlightenment), of which there are seven (องค์แห่งสัมโพธิ [การตรัสรู้พร้อม] ซึ่งมี 7 อย่าง)

อุเปกฺขา + สมฺโพชฺฌงฺค = อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺค (อุ-เปก-ขา-สำ-โพด-ชัง-คะ) > อุเบกขาสัมโพชฌงค์ (อุ-เบก-ขา-สำ-โพด-ชง) แปลว่า “ธรรมอันเป็นองค์แห่งการรู้พร้อมคือความมีใจเป็นกลาง”

ขยายความ :

คำว่า “โพชฌงค์” เมื่อนำเอาชื่อธรรมแต่ละข้อมาเรียกรวมกัน นิยมใช้เป็น “สัมโพชฌงค์” โดยมีชื่อธรรมข้อนั้นๆ นำหน้า เช่นในที่นี้คือ “อุเบกขา” ชื่อข้อธรรมเต็มๆ ก็จะเป็น “อุเบกขาสัมโพชฌงค์”

“อุเบกขาสัมโพชฌงค์” เป็นโพชฌงค์ข้อที่ 7 ในโพชฌงค์ 7

เมื่ออธิบายความหมายของธรรมหมวดนี้ คำหลักก็คือคำว่า “โพชฌงค์”

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต บอกไว้ว่า –

“โพชฌงค์ : ธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ หรือองค์ของผู้ตรัสรู้ มี ๗ ข้อ คือ ๑. สติ ๒. ธัมมวิจยะ (การสอดส่องเลือกเฟ้นธรรม) ๓. วิริยะ ๔. ปีติ ๕. ปัสสัทธิ ๖. สมาธิ ๗. อุเบกขา.”

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

“โพชฌงค์ : (คำนาม) องค์แห่งธรรมเป็นเครื่องตรัสรู้ มี ๗ ประการ; ชื่อพระปริตรที่พระสงฆ์สวดให้คนเจ็บหนักฟัง เรียกว่า สวดโพชฌงค์. (ป.).”

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต ข้อ [281] แสดงความหมายของ “โพชฌงค์” ไว้ดังนี้ –

(ภาษาอังกฤษในวงเล็บ [] เป็นคำแปลของพจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แสดงไว้เพื่อเปรียบเทียบ)

…………..

โพชฌงค์ 7 (ธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ — Bojjhaŋga: enlightenment factors) [a factor or constituent of knowledge or wisdom]

…………..

และแสดงความหมายของ “อุเบกขา” ในโพชฌงค์ 7 ไว้ดังนี้ –

…………..

7. อุเบกขา (ความมีใจเป็นกลางเพราะเห็นตามเป็นจริง — Upekkhā: equanimity) [equanimity]

…………..

แถม :

การที่นิยมให้พระสงฆ์สวด “โพชฌงค์” ให้คนเจ็บหนักฟังก็เพราะโพชฌังคสูตรในพระไตรปิฎกแสดงเรื่องราวไว้ว่า บางสมัย พระพุทธเจ้าหรือพระสาวกบางองค์อาพาธ เมื่อได้สดับการสวดโพชฌงค์ อาพาธหรือการเจ็บป่วยนั้นก็บรรเทาหายไป จึงเกิดเป็นความนิยมให้พระสงฆ์สวดให้คนเจ็บหนักฟังสืบต่อมา

…………..

ดูก่อนภราดา!

: อุเบกขาคือดูจนรู้ชั่วดี

: ไม่ใช่นิ่งเฉยอยู่กับที่ด้วยดูดาย

#บาลีวันละคำ (3,850)

27-12-65 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

……………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *