บาลีวันละคำ

อิริยาปถสัปปายะ – 1 ในสัปปายะ 7 (บาลีวันละคำ 3,886)

อิริยาปถสัปปายะ – 1 ในสัปปายะ 7

อิริยาบถที่เหมาะกัน

…………..

“สัปปายะ” หมายถึง สิ่งที่สบาย, สภาพเอื้อ, สิ่งที่เกื้อกูล, สิ่งที่เอื้อต่อการอยู่ดีและการที่จะพัฒนาชีวิต, สิ่งที่เหมาะกัน อันเกื้อหนุนในการเจริญภาวนาให้ได้ผลดี ช่วยให้สมาธิตั้งมั่น ไม่เสื่อมถอย มี 7 อย่าง คือ

1. อาวาสสัปปายะ = ที่อยู่อันเหมาะ

2. โคจรสัปปายะ = แหล่งอาหารอำนวย

3. ภัสสสัปปายะ = การพูดคุยที่เหมาะกัน

4. ปุคคลสัปปายะ = บุคคลที่ถูกกันเหมาะกัน

5. โภชนสัปปายะ = อาหารที่เหมาะกัน

6. อุตุสัปปายะ = ดินฟ้าอากาศธรรมชาติแวดล้อมที่เหมาะ

7. อิริยาปถสัปปายะ = อิริยาบถที่เหมาะกัน

…………..

“อิริยาปถสัปปายะ” อ่านว่า อิ-ริ-ยา-ปะ-ถะ-สับ-ปา-ยะ

ประกอบด้วยคำว่า อิริยาปถ + สัปปายะ

(๑) “อิริยาปถ”

อ่านว่า อิ-ริ-ยา-ปะ-ถะ แยกคำเป็น อิริยา + ปถ

(ก) “อิริยา” อ่านว่า อิ-ริ-ยา รากศัพท์มาจาก อิริย (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + อ (อะ) ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์

: อิริยฺ + อ = อิริย + อา = อิริยา แปลตามศัพท์ว่า “กิริยาเป็นเหตุเป็นไปแห่งอัตภาพ” หรือ “กิริยาเป็นเหตุเป็นไปแห่งกิจทางร่างกาย” หมายถึง การเคลื่อนไหว, กิริยาอาการ, ท่าทาง (movement, posture, deportment)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

“อิริยา : (คำนาม) อาการเคลื่อนไหว, กิริยา, ท่าทาง. (ป.; ส. อีรฺยา).”

(ข) “ปถ” อ่านว่า ปะ-ถะ รากศัพท์มาจาก ปถฺ (ธาตุ = ไป, ถึง, เป็นไป) + อ (อะ) ปัจจัย

: ปถฺ + อ = ปถ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “ที่เป็นเครื่องเดินไป” (2) “ที่เป็นที่ไป” (3) “ที่อันผู้มีกิจน้อยใหญ่เกิดขึ้นดำเนินไป” หมายถึง หนทาง, ถนน, ทาง (path, road, way)

: อิริยา + ปถ = อิริยาปถ (อิ-ริ-ยา-ปะ-ถะ) แปลตามศัพท์ว่า “ครรลองแห่งการเคลื่อนไหว” หมายถึง อิริยาบถ, อาการของการเคลื่อนไหว; ความประพฤติดี (way of deportment; mode of movement; good behaviour)

“อิริยาปถ” ที่เป็นหลักหรืออิริยาบถใหญ่มี 4 อย่าง คือ การเดิน (walking), การยืน (standing), การนั่ง (sitting), การนอน (lying down)

“อิริยาปถ” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อิริยาบถ”

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

“อิริยาบถ : (คำนาม) อาการที่ร่างกายอยู่ในท่าใดท่าหนึ่ง เช่น วิ่ง กระโดด เดิน ยืน นั่ง นอน, ถ้าตามมหาสติปัฏฐานสูตร กำหนดไว้ ๔ อย่าง คือ เดิน ยืน นั่ง นอน. (ป.).”

โปรดสังเกต: “อิริยาบถ” -บถ ถ ถุง สะกด ไม่ใช่ ท ทหาร

(๒) “สัปปายะ”

เขียนแบบบาลีเป็น “สปฺปาย” อ่านว่า สับ-ปา-ยะ รากศัพท์มาจาก สํ (คำอุปสรรค = พร้อมกัน, ร่วมกัน) + ป (คำอุปสรรค = ทั่ว, ข้างหน้า) + อา (คำอุปสรรค = ทั่ว, ยิ่ง) + อิ (ธาตุ = ไป, ถึง) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, แปลงนิคหิตที่ สํ เป็น ป (หรือลบนิคหิตแล้วซ้อน ป), แปลง อิ ที่ธาตุเป็น เอ, แปลง เอ เป็น อย แล้วทีฆะ อะ ที่ อ-(ย) เป็น อา ด้วยอำนาจ ณ ปัจจัย (อย > อาย)

: สํ > สปฺ + ป = สปฺป + อา = สปฺปา + อิ > เอ > อย = สปฺปย + ณ = สปฺปยณ > สปฺปย > สปฺปาย แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่ไปได้พร้อมทั่วถึง” = อยากจะไป อยากจะทำอะไร ก็ไปได้ทำได้ไม่ติดขัด

“สปฺปาย” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) เป็นคำนาม: สิ่งที่เป็นประโยชน์, คุณประโยชน์, การช่วยเหลือ (something beneficial, benefit, help)

(2) เป็นคุณศัพท์: น่าเป็นจริง, มีประโยชน์, เหมาะสม, สมควร (likely, beneficial, fit, suitable)

“สปฺปาย” ในภาษาไทยใช้ว่า “สบาย” (โปรดสังเกตว่าไม่ต้องประวิสรรชนีย์ที่ ส-) พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายไว้ว่า –

(1) อยู่ดีกินดี เช่น เดี๋ยวนี้เขาสบายขึ้น ลูก ๆ ทำงานหมดแล้ว, เป็นสุขกายสุขใจ เช่น เวลานี้เขาสบายแล้ว เพราะมีฐานะดีขึ้น ไม่มีวิตกกังวลใด ๆ.

(2) สะดวก เช่น ทำตามสบายไม่ต้องเกรงใจ มีรถส่วนตัวสบายกว่าไปรถประจำทาง, มักใช้เข้าคู่กับคำ สุข หรือ สะดวก เป็น สุขสบาย หรือ สะดวกสบาย.

(3) พอเหมาะพอดี เช่น เก้าอี้ตัวนี้นั่งสบาย.

(4) ไม่ลำบากกาย เช่น เขาทำงานสบายขึ้น ไม่ต้องแบกหามเหมือนเมื่อก่อน.

(5) ไม่เจ็บไม่ไข้ เช่น เวลานี้เขาสบายดี ไม่ป่วยไข้.

(6) มีความพอใจเมื่อได้สัมผัส เช่น สบายหู สบายตา สบายกาย.

อิริยาปถ + สปฺปาย = อิริยาปถสปฺปาย (อิ-ริ-ยา-ปะ-ถะ-สับ-ปา-ยะ) แปลว่า “อิริยาบถเป็นสัปปายะ” คือการยืนเดินนั่งนอนเคลื่อนไหวร่างกายพอเหมาะพอดี เป็นที่สบาย เกื้อกูลแก่การเจริญธรรม

“อิริยาปถสปฺปาย” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อิริยาปถสัปปายะ”

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต ข้อ [286] สัปปายะ 7 บอกไว้ว่า

…………..

7. อิริยาปถสัปปายะ (อิริยาปะถะ-) : อิริยาบถที่เหมาะกัน เช่น บางคนถูกกับจงกรม บางคนถูกกับนั่ง ตลอดจนมีการเคลื่อนไหวที่พอดี มีอิริยาบถสมดุล (suitable posture)

…………..

ขยายความ :

ขอนำคำขยายความคำว่า “อิริยาปถสัปปายะ” ที่ท่านแสดงไว้ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคมาเสนอในที่นี้ หากมีถ้อยคำใดอ่านแล้วยังไม่เข้าใจ พึงศึกษาหาความรู้ต่อไป พึงตั้งอารมณ์ว่าอ่านเพื่อเป็นอุปนิสัยปัจจัยแห่งการศึกษาธรรมและปฏิบัติธรรม ก็จะเป็นมหากุศล

ข้อความในคัมภีร์วิสุทธิมรรคเป็นดังนี้ –

(สำนวนแปลของนาวาอากาศเอก เมฆ อำไพจริต อดีตหัวหน้ากองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ, ผู้สอบเปรียญธรรม 9 ประโยคด้วยวิธีสอบข้อเขียนได้เป็นคนแรกของประเทศไทย)

…………..

ในอิริยาบถทั้งหลายเล่า ลางคนจงกรมเป็นสัปปายะ ลางคนก็นอน ยืน นั่ง อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นสัปปายะ เพราะฉะนั้น พึงลองดู (สัก) 3 วัน ดุจลองดูอาวาส (ที่กล่าวแล้ว) นั้น

ในอิริยาบถใด จิต (ของพระโยคาวจร) ที่ยังไม่เป็นสมาธิเป็นสมาธิขึ้นก็ดี จิตที่เป็นสมาธิแล้วยิ่งตั้งมั่นขึ้นก็ดี อิริยาบถนั้นนับเป็นสัปปายะ อิริยาบถนอกนี้ (ที่จิตไม่เป็นสมาธิ ) นับเป็นอสัปปายะ

ที่มา:

วิสุทธิมรรคฉบับบาลี ภาค 1 หน้า 162-163

สุทธิมรรคแปล ภาค 1 ตอน 2 หน้า 103

…………..

ดูก่อนภราดา!

: คำบาลี

๏ ชราชชฺชริตา โหนฺติ

หตฺถปาทา อนสฺสวา

ยสฺส โส วิหตตฺถาโม

กถํ ธมฺมํ จริสฺสติ.

: คำแปล

๏ ผู้ที่แก่หง่อมเพราะชรา

มือเท้าใช้ไม่ได้ดังใจ

เรี่ยวแรงก็ถดถอยไปหมดแล้ว

จักประพฤติธรรมอย่างไรได้

: คำกรอง

๏ ตอนมีแรงไม่เร่งทำ

พอแก่หงำจะทำไง

มือเท้าก้าวไม่ไหว

จะเอาอะไรประพฤติธรรม๚ะ๛

#บาลีวันละคำ (3,886)

01-02-66

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *