พาฬมฤค (บาลีวันละคำ 3,918)
พาฬมฤค
พาฬมฤค
รูปลึก แต่ไม่ยากที่จะรู้ความหมาย
อ่านว่า พา-ละ-มะ-รึก
ประกอบด้วยคำว่า พาฬ + มฤค
(๑) “พาฬ”
บาลีเป็น “วาฬ” อ่านว่า วา-ละ รากศัพท์มาจาก
(1) วิ (คำอุปสรรค = วิเศษ, พิเศษ, แจ้ง, ต่าง) + อาลฺ (ธาตุ = ถือเอา) + อ (อะ) ปัจจัย, ลบ อิ ที่ วิ (วิ > ว), แปลง ล เป็น ฬ
: วิ > ว + อาลฺ = วาลฺ + อ = วาล > วาฬ แปลตามศัพท์ว่า “สัตว์ที่ถือเอาชีวิตโดยพิเศษ” (คือกัดตายโดยพลันได้)
(2) วา (ธาตุ = ไป, เป็นไป) + อล ปัจจัย, แปลง ล เป็น ฬ
: วา + อล = วาล > วาฬ แปลตามศัพท์ว่า “สัตว์ที่เป็นไปตามปกติ”
(3) วลฺ (ธาตุ = ระวัง, ป้องกัน) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ, ทีฆะ อะ ที่ ว-(ลฺ) เป็น อา (วลฺ > วาล), แปลง ล เป็น ฬ
: วลฺ + ณ = วลณ > วล > วาล > วาฬ แปลตามศัพท์ว่า “สัตว์ที่ผู้คนระวังตนออกห่าง” หรือ “ผู้ที่คนระวังตนออกห่าง”
“วาฬ” ในบาลีหมายถึง
(1) งู (a snake)
(2) สัตว์กินสัตว์อื่น (a beast of prey)
บาลี “วาฬ” ในภาษาไทยแผลง ว เป็น พ ตามหลักนิยม ใช้เป็น “พาฬ” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“พาฬ, พาฬ– : (คำนาม) สัตว์ร้าย, ช้างร้าย, สิงโต, งู, เสือ. (ป. พาล, วาฬ; ส. วฺยาฑ, วฺยาล).”
(๒) “มฤค”
บาลีเป็น “มิค” (มิ-คะ) รากศัพท์มาจาก มิ (ธาตุ = เบียดเบียน) + ค ปัจจัย
: มิ + ค = มิค (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “สัตว์อันมนุษย์ที่กินเนื้อและสัตว์ที่แข็งแรงกว่าเบียดเบียน”
“มิค” ในบาลี หมายถึง –
(1) สัตว์ป่า, สัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติ (a wild animal, an animal in its natural state)
(2) กวาง, เลียงผา, เนื้อทราย (a deer, antelope, gazelle)
“มิค” ในบาลี เป็น “มฺฤค” ในสันสกฤต พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“มฤค, มฤค– : (คำนาม) สัตว์ป่ามีกวาง อีเก้ง เป็นต้น, ถ้าเป็นตัวเมีย ใช้ว่า มฤคี. (ส.; ป. มิค).”
วาฬ + มิค = วาฬมิค (วา-ละ-มิ-คะ) แปลตามศัพท์ว่า (1) “สัตว์ที่ร้ายต่อมฤค” (2) “มฤคที่ดุร้าย” (หมายถึงดูรูปกายภายนอกคล้ายมฤค เช่นมี 4 เท้าเหมือนกัน แต่เป็นมฤคที่ดุร้าย)
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “วาฬมิค” ว่า a beast of prey, predaceous animal, like tiger, leopard, etc. (สัตว์ที่กินสัตว์ อื่น เช่น เสือ, เสือดาว, ฯลฯ)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“วาฬมิค : (คำนาม) พาฬมฤค, สัตว์ร้าย. (ป.).”
“วาฬมิค” ในภาษาไทยแผลง ว เป็น พ ตามหลักนิยม ใช้ตามรูปสันสกฤตเป็น “พาฬมฤค” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“พาฬมฤค : (คำนาม) สัตว์ร้าย, สัตว์ที่กินสัตว์อื่นเป็นอาหาร. (ป. พาฬมิค; ส. วฺยาลมฺฤค).”
ขยายความ :
คัมภีร์ปปัญจสูทนี ภาค 3 หน้า 276 ตอนอธิบายพรหมายุสูตร กล่าวถึง นกการเวกว่ามีเสียงร้องไพเราะจับใจ สัตว์ใดได้ยินเป็นต้องหลงใหล รวมทั้ง “พาฬมฤค” ด้วย
ขอยกข้อความมาเสนอไว้ประดับความรู้ปัญญา ดังนี้ –
…………..
กรวิกสกุเณ กิร มธุรรสํ อมฺพปกฺกํ มุขตุณฺฑเกน ปหริตฺวา ปคฺฆริตรสํ สายิตฺวา ปกฺเขน ตาลํ ทตฺวา วิกูชมาเน
ได้ยินว่าเมื่อนกการเวกจิกมะม่วงสุกอันมีรสหวานอร่อยด้วยจะงอยปาก ลิ้มรสที่ไหลออกแล้วให้จังหวะด้วยปีกขานขันอยู่
จตุปฺปทาทีนิ มตฺตานิ วิย ลฬิตุํ อารภนฺติ.
สัตว์จตุบาทเป็นต้นย่อมเหมือนเคลิบเคลิ้มเริ่มงงงวย
โคจรปฺปสุตาปิ จตุปฺปทา มุขคตานิปิ ติณานิ ฉฑฺเฑตฺวา ตํ สทฺทํ สุณนฺติ.
สัตว์จตุบาทแม้ที่กำลังหากินก็ทิ้งหญ้าทั้งที่อยู่ในปากเสีย ฟังเสียงนกนั้น
วาฬมิคาปิ ขุทฺทกมิเค อนุพนฺธมานา อุกฺขิตฺตปาทํ อนุกฺขิปิตฺวาว ติฏฺฐนฺติ.
แม้พาฬมฤคกำลังติดตามเนื้อน้อย ๆ อยู่ เท้าที่ยกขึ้นแล้วก็ไม่ยอมย่างกลับหยุดฟังอยู่
อนุพทฺธมิคาปิ มรณภยํ หิตฺวาปิ ติฏฺฐนฺติ.
แม้เนื้อที่ถูกติดตามเล่าก็เลิกกลัวตายหยุดฟังอยู่
อากาเส ปกฺขนฺนปกฺขิโนปิ ปกฺเข ปสาเรตฺวา ติฏฺฐนฺติ.
แม้นกที่บินไปในอากาศก็กางปีกหยุดเฉยอยู่
อุทเก มจฺฉาปิ กณฺณปฏลํ น อปฺโปเฐนฺตา ตํ สทฺทํ สุณมานาว ติฏฺฐนฺติ.
ทั้งปลาในน้ำเล่าก็ไม่โบกครีบ หยุดแหวกว่ายฟังแต่เสียงนกนั้น
เอวํ มญฺชุรุตา กรวิกา.
นกการเวกร้องไพเราะด้วยประการฉะนี้
…………..
ดูก่อนภราดา!
: แม้จะดุอย่างเสือ
: ก็อย่ากินเนื้อพวกเดียวกัน
#บาลีวันละคำ (3,918)
5-3-66
…………………………….
…………………………….