บาลีวันละคำ

สุกดิบ ไม่ใช่ สุขทุกข์ (บาลีวันละคำ 4,662)

สุกดิบ ไม่ใช่ สุขทุกข์

ถ้าให้เขียนคำที่พูดว่า สา-ระ-ทุก-สุก-ดิบ คนส่วนมากจะสะกดเป็น “สารทุกข์สุขดิบ”

คือเข้าใจไปว่า “สุข” ที่คู่กับ “ทุกข์

ความจริงคือ “สุก” ที่คู่กับ “ดิบ

เราเขียนเป็น “สุกดิบ

ไม่ใช่ “สุขดิบ”

เพราะฉะนั้น คำที่พูดว่า สา-ระ-ทุก-สุก-ดิบ จึงต้องสะกดเป็น “สารทุกข์สุกดิบ

ไม่ใช่ “สารทุกข์สุขดิบ”

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า – 

(1) สุกดิบ : (คำวิเศษณ์) เรียกวันเตรียมงาน ซึ่งเป็นวันก่อนถึงกำหนดวันงานพิธี ๑ วันว่า วันสุกดิบ.

(2) สารทุกข์สุกดิบ : (ภาษาปาก) (คำนาม) ข่าวคราวความเป็นไปหรือความเป็นอยู่ เช่น ไม่พบกันมานาน เพื่อน ๆ ต่างก็ถามสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันและกัน.

เปิดไปดูคำที่เกี่ยวข้อง พบคำว่า “สาร– ๒” พจนานุกรมฯ บอกไว้ดังนี้ –

สาร– ๒ : คำประกอบหน้าคำ แปลว่า ทั้งหมด, ทั้งสิ้น, ทุก, เช่น สารทิศ ว่า ทุกทิศ, สารทุกข์ ว่า ทุกข์ทั้งหมด, สารเลว ว่า เลวทั้งสิ้น. (เลือนมาจาก สรฺว ในสันสกฤต เช่น สรฺวงฺค เป็น สารพางค์ หรือ สรรพางค์).”

พจนานุกรมฯ บอกว่า “สาร-” ในคำว่า “สารทุกข์สุกดิบ” เลือนมาจาก สรฺว ในสันสกฤต เช่น สรฺวงฺค เป็น สารพางค์ หรือ สรรพางค์

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน มีคำว่า “สรฺว” บอกไว้ดังนี้ –

สรฺวฺว, สรฺว : (คำวิเศษณ์) ‘สรรพ,’ สกล, ปวง, สิ้นเชิง; all, whole, entire.”

สันสกฤตเป็น “สรฺว” บาลีเป็น “สพฺพ” อ่านว่า สับ-พะ รากศัพท์มาจาก –

(1) สรฺ (ธาตุ = เป็นไป) + ปัจจัย, แปลง เป็น , แปลง รฺ ที่ สรฺ เป็น พฺ (สรฺ > สพฺ)

: สรฺ + = สรฺว > สรฺพ > สพฺพ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เป็นไป

(2) สพฺพฺ (ธาตุ = เป็นไป) + (อะ) ปัจจัย

: สพฺพฺ + = สพฺพ แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่เป็นไป

สพฺพ” (คุณศัพท์) หมายถึง ทั้งหมด, ทั้งปวง, ทั้งสิ้น, ทุกอย่าง (whole, entire; all, every)

สารทุกข์” ก็เท่ากับ “สพฺพทุกฺข” (สับ-พะ-ทุก-ขะ) ในบาลี

ทุกฺข” บาลีอ่านว่า ทุก-ขะ รากศัพท์มาจาก –

(1) ทุ (คำอุปสรรค = ชั่ว, ยาก, ลำบาก, ทราม) + ขมฺ (ธาตุ = อดทน) + กฺวิ ปัจจัย, ซ้อน กฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (ทุ + กฺ + ขมฺ), ลบ กฺวิ และลบที่สุดธาตุ (ขมฺ > )

: ทุ + กฺ + ขมฺ = ทุกฺขมฺ + กฺวิ = ทุกฺขมกฺวิ > ทุกฺขม > ทุกฺข แปลตามศัพท์ว่า “สภาวะที่ทำได้ยากที่จะอดทน” คือยากที่จะทนได้ = ทนนะทนได้ แต่ยากหน่อย หรือยากมาก

(2) กุจฺฉิต (น่ารังเกียจ) + (แทนศัพท์ว่า “สุข” = ความสุข), ลบ จฺฉิต (กุจฺฉิต > กุ), แปลง กุ เป็น ทุ, ซ้อน กฺ ระหว่าง ทุ กับ (ทุ + กฺ + )

: กุจฺฉิต + กฺ + = กุจฺฉิตกฺข > กุกฺข > ทุกฺข แปลตามศัพท์ว่า “ความสุขที่น่ารังเกียจ” เป็นการมองโลกในแง่ดี คือความทนได้ยากที่เกิดขึ้นนั้นมองว่า-ก็เป็นความสุขแบบหนึ่ง แต่เป็นความสุขที่น่าเกลียด หรือน่ารังเกียจ

(3) ทฺวิ (สอง) + ขนุ (ธาตุ = ขุด) + (อะ) ปัจจัย, แปลง ทฺวิ เป็น ทุ, ซ้อน กฺ ระหว่าง ทฺวิ กับธาตุ (ทฺวิ + กฺ + ขนฺ), ลบที่สุดธาตุ (ขนฺ > )

: ทฺวิ + กฺ + ขน = ทฺวิกฺขนฺ + = ทฺวิกฺขนฺ > ทุกฺขน > ทุกฺข แปลตามศัพท์ว่า “สภาวะที่ขุดจิตเป็นสองอย่าง” คือจิตปกติเป็นอย่างหนึ่งอยู่แล้ว พอมีทุกข์มากระทบ ก็กระเทือนกลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง ทำนองเดียวกับสำนวนที่ว่า “หัวใจแตกสลาย

(4) ทุกฺขฺ (ธาตุ = ทุกข์) + (อะ) ปัจจัย

: ทุกฺขฺ + = ทุกฺข แปลตามศัพท์ว่า “สภาวะที่ทำให้เป็นทุกข์” คำแปลสำนวนนี้ในภาษาบาลีมีความหมาย แต่ในภาษาไทย เท่ากับพูดว่า มืดคือค่ำ และ ค่ำคือมืด คือเป็นเพียงบอกให้รู้ว่า สิ่งนั้นเรียกว่า “ทุกข์” หรือเล่นสำนวนว่า “ทุกข์ก็คือทุกข์”

ความหมายที่เข้าใจทั่วไป “ทุกข์” คือความยากลำบาก, ความไม่สบายกายไม่สบายใจ (grief & sorrow, afflictions of pain & misery, all kinds of misery)

ขยายความ :

ทุกข์” “สุก” “ดิบ” ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ – 

(1) ทุกข-, ทุกข์ : (คำนาม) ความยากลำบาก, ความไม่สบายกายไม่สบายใจ, ความทนได้ยาก, ความทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้. (ป.; ส. ทุะข).

(2) สุก ๑ : (คำกริยา) พ้นจากห่าม เช่น ผลไม้สุก, เปลี่ยนสภาพจากดิบด้วยกรรมวิธีต่าง ๆ อย่างต้ม ผัด ย่าง เป็นต้น เช่น ต้มไก่สุกแล้ว ย่างเนื้อให้สุก, ถึงระยะที่ได้ที่หรือแก่จัดแล้ว เช่น ข้าวในนาสุกเกี่ยวได้แล้ว ฝีสุกจนแตก ต้อสุกผ่าได้แล้ว, โดยปริยายหมายถึงอาการที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ร้อนจนเนื้อตัวจะสุกแล้ว ถูกเขาต้มจนสุก, เรียกชายที่บวชเป็นพระภิกษุและสึกแล้วว่า คนสุก; ปลั่งเป็นมันแวววาว เช่น ทองเนื้อสุกดี.

(3) ดิบ : (คำวิเศษณ์) ยังไม่สุก เช่น มะม่วงดิบ, ยังไม่สุกด้วยไฟ เช่น เนื้อดิบ ปลาดิบ; ยังไม่ได้ขัดเกลา เช่น สันดานดิบ; เรียกสิ่งที่ยังไม่ได้ทำให้สำเร็จรูปหรือยังไม่ได้เปลี่ยนรูปและลักษณะเดิม ว่า วัตถุดิบ, เรียกด้ายที่ยังไม่ได้ฟอก ว่า ด้ายดิบ, เรียกผ้าที่ทอด้วยด้ายดิบ ว่า ผ้าดิบ; โดยปริยายเรียกชายที่ยังไม่ได้บวชเป็นพระภิกษุ ว่า คนดิบ, (โบ) เรียกศพที่ฝังไว้ไม่นิยมเผาเช่นผีตายโหง ว่า ผีดิบ, เรียกผีชนิดหนึ่งเป็นศพเดินได้ ว่า ผีดิบ, เรียกดงที่มีต้นไม้หนาแน่นเขียวชอุ่มอยู่ทั้งปี ว่า ดงดิบ.

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ยามสุข อย่าฟู

: ยามทุกข์ อย่าแฟบ

#บาลีวันละคำ (4,662)

18-3-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *