บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

คำถามหักมุม

คำถามหักมุม

————-

เสรีภาพในการนับถือศาสนา เป็นสิ่งหนึ่งที่คนสมัยใหม่ “บูชา” กันมาก

“บูชา” ในเครื่องหมายคำพูดหมายความว่า นับถือ เชิดชู ยกย่อง เทิดทูน รักษา หวงแหนเท่าชีวิตก็ปานกัน

ใช้สำนวนบาลีก็ว่า –

กิกีว อณฺฑํ จมรีว วาลธึ 

ปิยํว ปุตฺตํ นยนํว เอกกํ. 

ดังนกต้อยตีวิดหวงฟอง

ดุจจามรีปองหวงขนหาง

เสมือนแม่นางหวงบุตรสุดสวาท

ประหนึ่งผู้มีดวงเนตรพินาศหวงหนึ่งนัยนา

ที่มา: สีลนิทเทส วิสุทธิมรรค ภาค ๑ หน้า ๔๔ 

เสรีภาพในการนับถือศาสนา หมายถึงว่า ใครจะนับถือศาสนาไหน หรือจะไม่นับถือศาสนาไหนย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพโดยสมบูรณ์ของผู้นั้น 

ใครจะเลือกนับถือส่วนไหนของศาสนาไหน 

จะเลือกนับถือเลือกประพฤติปฏิบัติตามแค่ไหนเพียงไร

จะไม่นับถือส่วนไหน จะไม่ปฏิบัติตามส่วนไหนของคำสอนในศาสนาไหน 

ย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพโดยสมบูรณ์ของผู้นั้น

ใครหน้าไหนจะมาชี้นิ้วสั่งการ บังคับบัญชา กดขี่เคี่ยวเข็ญ ให้ใครต้องปฏิบัติตามคำสอนส่วนไหนของศาสนาไหน หรือห้ามละเมิดคำสอนส่วนไหนของศาสนาไหน-หาได้ไม่

พ่อแม่นับถือศาสนาหนึ่ง

จะมาบังคับเคี่ยวเข็ญให้ลูกต้องนับถือศาสนานั้นด้วย

ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพทางศาสนาอย่างร้ายกาจ

ผู้ปกครองประเทศนับถือศาสนาหนึ่ง

จะมาบังคับเคี่ยวเข็ญให้ประชาชนต้องนับถือศาสนานั้นด้วย

ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพทางศาสนาอย่างร้ายกาจ

สรุปว่า มนุษย์เราจะนับถือศาสนาไหน แค่ไหน อย่างไร 

จะเลือกปฏิบัติตามคำสอนส่วนไหนของศาสนาไหน แค่ไหน อย่างไร

ย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพโดยสมบูรณ์ของผู้นั้น

การบังคับเคี่ยวเข็ญให้ต้องปฏิบัติอย่างนั้น ห้ามปฏิบัติอย่างโน้น โดยอ้างคำสอนของศาสนา ย่อมเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพทางศาสนาอย่างร้ายกาจ

แนวคิดดังที่กล่าวมานี้ ผู้คนสมัยนี้นับถือ เชิดชู ยกย่อง เทิดทูน รักษา หวงแหนเท่าชีวิตก็ปานกัน

เอาละ เราทุกคนเห็นพ้องต้องกัน 

ทีนี้ก็มาถึงคำถาม 

ถามว่า ถ้าพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนานับถือ เชิดชู ยกย่อง เทิดทูนแนวคิดดังที่กล่าวมานี้ด้วย 

ท่านจะเห็นดีเห็นงามเห็นพ้องต้องกันด้วยหรือไม่?

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒

๑๙:๓๙

———

วิสุทธิมคฺคสฺส นาม ปกรณวิเสสสฺล (ปฐโม ภาโค) – หน้าที่ 44

สีลนิทฺเทโส วิสุทฺธิมคฺเค  

สนฺนิสฺสิตนฺติ ปจฺจยสนฺนิสฺสิตํ ฯ 

        เอวเมตสฺมึ   จตุพฺพิเธ   สีเล   สทฺธาย   ปาฏิโมกฺขสํวโร 

สมฺปาเทตพฺโพ ฯ   สทฺธาสาธโน   หิ   โส   สาวกวิสยาตีตตฺตา สิกฺขาปท-

ปตฺติยา ฯ  สิกฺขาปทํปตฺติยาจนปฏิกฺเขโป  เจตฺถ นิทสฺสนํ ฯ 

ตสฺมา   ยถาปตฺตํ   สิกฺขาปทํ   อนวเสสํ   สทฺธาย   สมาทิยิตฺวา 

ชีวิเตปิ อเปกฺขํ อกโรนฺเตน สาธุกํ สมฺปาเทตพฺพํ ฯ วุตฺตมฺปิ เหตํ 

                กิกีว อณฺฑํ จมรีว วาลธึ 

                ปิยํว ปุตฺตํ นยนํว เอกกํ 

                ตเถว สีลํ อนุรกฺขมานกา 

                สุเปสลา โหถ สทา สคารวาติ ฯ 

อปรมฺปิ   วุตฺตํ   เสยฺยถาปิ   มหาสมุทฺโท  ติธมฺโม  เวลํ  นาติกฺกมติ 

เอวเมว   โข   ปหาราท  ยํ  มยา  สาวกานํ  สิกฺขาปทํ  ปฺตฺตํ  ตํ 

มม  สาวกา  ชีวิตเหตุปิ  นาติกฺกมนฺตีติ๑ ฯ อิมสฺมึ จ ปนตฺเถ อฏวิยํ 

โจเรหิ พนฺธตฺเถรานํ วตฺถูนิ เวทิตพฺพานิ ฯ 

        มหาวตฺตนิอฏวิยํ   กิร   เถรํ   โจรา   กาฬวลฺลีหิ   พนฺธิตฺวา 

นิปชฺชาเปสุํ ฯ   เถโร   ยถานิปนฺโนว   สตฺต   ทิวสานิ   วิปสฺสนํ 

วฑฺเฒตฺวา   อนาคามิผลํ   สมฺปาปุณิตฺวา   ตตฺเถว   กาลํ   กตฺวา พฺรหฺม-

โลเก  นิพฺพตฺติ ฯ  อปรมฺปิ  เถรํ ตมฺพปณฺณิทีเป ปูติลตาย พนฺธิตฺวา 

นิปชฺชาเปสุํ ฯ  โส  ทวทาเห  อาคจฺฉนฺเต  วลฺลึ อจฺฉินฺทิตฺวาว วิปสฺสนํ 

ปฏฺเปตฺวา   สมสีสี   หุตฺวา   ปรินิพฺพายิ ฯ   ทีฆภาณกอภยตฺเถโร 

๑. องฺ.อฏฺก. ๒๓/๒๐๓ ฯ ปาลิยมฺปน เสยฺยถาปิ ปหาราท…ตธมฺโม…อิติ ทิสฺสติ ฯ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *