บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

คำแสดงความอาลัย

คำแสดงความอาลัย

——————-

เมื่อหลวงพ่อคุณมรณภาพ มีญาติมิตรถามกันมาหลายท่านว่า ควรใช้ถ้อยคำแสดงความอาลัยอย่างไรจึงจะเหมาะสม

ผมยังไม่ได้ศึกษาว่ามีสำนักไหนหรือผู้รู้ท่านไหนกำหนดคำแสดงความอาลัยเมื่อพระสงฆ์มรณภาพไว้อย่างไรบ้างหรือไม่ 

ท่านผู้ใดทราบ ขอความรู้ด้วยครับ

————–

ที่จะว่าต่อไปนี้ เป็นความคิดเห็นเฉพาะหน้า แต่ก็ได้ตรึกตรองแล้วพอสมควร 

ควรไม่ควรประการใด โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง

————–

๑ คำว่า “สาธุ” ไม่ควรใช้อย่างยิ่ง 

คำแปลโดดเด่นของ “สาธุ” คือ “ดีละ” มีความหมายว่า 

ถูกต้องแล้ว 

เหมาะสมแล้ว 

เห็นชอบด้วย 

ใช้ในกรณีที่เห็นใครทำดีทำถูกก็แสดงความชื่นชมยินดี-โดยเฉพาะเมื่อใช้กับพระภิกษุสามเณร มีความหมายเท่ากับที่เราปรบมือแสดงความยินดีกับบุคคลทั่วไปนั่นเอง

๒ คำว่า 

“ขอร่วมส่งดวงวิญญาณของหลวงพ่อสู่นิพพาน” 

“ขอให้ดวงวิญญาณของหลวงพ่อจงไปสู่นิพพาน” 

หรือถ้อยคำอย่างอื่นที่มีคำว่า “สู่นิพพาน” รวมอยู่ด้วย 

เป็นคำที่ไม่ควรใช้อย่างยิ่งเพราะผิดหลักความจริง

นิพพานไม่ใช่ภพภูมิหรือโลกหน้าอีกชนิดหนึ่งที่บรรพชิตในพระพุทธศาสนาจะพึงเข้าถึงหรือไปเกิดไปอยู่เมื่อสิ้นชีพแล้ว 

นิพพานไม่ใช่สถานที่อันใครจะไปตั้งความปรารถนาดีให้ใครไปถึงได้

แต่นิพพานเป็นสภาพจิตหรือคุณภาพของจิตเมื่อปฏิบัติขัดเกลาอบรมตามหลักที่ถูกต้องจนได้ที่หรือถึงที่ ท่านผู้ใดจะบรรลุถึงนิพพานก็ต้องปฏิบัติขัดเกลาด้วยตัวเอง ไม่ใช่บรรลุได้ด้วยการแสดงความปรารถนาของผู้อื่น

กรณีนี้ต่างจากคำที่เรานิยมพูดกันว่า “ขอให้ดวงวิญญาณ..จงเข้าถึงสุคติในสัมปรายภพ” เพราะการเข้าถึงสุคติอาจเป็นไปได้ด้วยการอุทิศส่วนบุญให้ผู้ล่วงลับและผู้ล่วงลับอนุโมทนาส่วนบุญนั้น

๓ มีผู้เสนอให้ใช้คำว่า 

“ขอน้อมถวายความอาลัยพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสุดซึ้ง” 

คำนี้พอฟังได้ แต่มีข้อแย้งตรงที่ “ความอาลัย” เป็นนามธรรม ผู้รู้ท่านว่านามธรรมอาจแสดงให้ผู้อื่นรับรู้ได้ แต่จะหยิบยื่นให้กันเหมือนวัตถุไม่ได้ 

“ความอาลัย” สามารถแสดงออกให้ผู้อยู่หลังเช่นญาติมิตรของผู้ตายได้รับรู้ได้ แต่จะมอบให้แก่ผู้ตายไม่ได้ 

เมื่อพูดว่า “ถวายความอาลัย” จึงมีปัญหาว่าเราจะส่งความอาลัยไปถวายหลวงพ่อคูณได้อย่างไร

๔ ผมขอเสนอให้ใช้คำว่า 

“ขอร่วมแสดงธรรมสังเวชในการจากไปของ…(หลวงพ่อ)…”

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของคำว่า “ธรรมสังเวช” ไว้ว่า – 

“ความสังเวชโดยธรรม เมื่อเห็นความแตกดับของสังขาร (เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์).”

จริงอยู่ แม้ท่านจะบอกว่าธรรมสังเวช “เป็นอารมณ์ของพระอรหันต์” หมายความว่าปุถุชนหรืออริยบุคคลที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ไม่สามารถจะมีความรู้สึกถึงขั้นที่เรียกว่า “ธรรมสังเวช” ได้ 

แต่คำว่า “ร่วมแสดง” ก็พอจะอธิบายแบบเลี่ยงๆ ไปได้ว่า เราไม่ได้แสดงโดยตรง (เพราะเราไม่ใช่พระอรหันต์) เราเพียงแต่ขอ “ร่วม…” เท่านั้น 

คำอธิบายแบบนี้แม้จะฟังไม่ขึ้น แต่ก็น่าจะยอมให้ใช้ได้โดยอนุโลม

ยิ่งถ้าดูที่ความหมายเดิมแท้ของคำว่า “สังเวช” ด้วยแล้วจะเห็นว่ามีความหมายที่สมควรแก่เหตุการณ์เป็นอยางยิ่ง

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ.ปยุตฺโต อธิบายความหมายของคำว่า “สังเวช” ไว้ดังนี้ –

——–

สังเวช : ความสลดใจให้ได้คิด, ความรู้สึกเตือนสำนึกหรือทำให้ฉุกคิด, ความรู้สึกกระตุ้นใจให้คิดได้ ให้คิดถึงธรรม ให้ตระหนักถึงความจริงของชีวิต และเร้าเตือนให้ไม่ประมาท; ตามความหมายที่แท้ของศัพท์ สังเวช คือ “สังเวค” แปลว่าแรงเร่ง แรงกระตุ้น หรือพลังที่ปลุกเร้า หมายถึง แรงกระตุ้นเร้าเตือนใจ ให้ได้คิดหรือสำนึกขึ้นมาได้ ให้คิดถึงธรรม หรือตระหนักถึงความจริงความดีงาม อันทำให้ตื่นหรือถอนตัวขึ้นมาจากความเพลิดเพลิน ความหลงระเริงปล่อยตัวมัวเมา หรือความประมาท แล้วหักหันไปเร่งเพียรทำการที่ตระหนักรู้ว่าจะพึงทำด้วยความไม่ประมาทต่อไป 

แต่ในภาษาไทย สังเวช มีความหมายหดแคบลงและเพี้ยนไป กลายเป็นความรู้สึกสลดใจ หรือเศร้าสลด แล้วหงอยหรือหดหู่เสีย ซึ่งกลายเป็นตรงข้ามกับความสังเวชที่แท้.

——–

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของคำว่า “สังเวช”ในภาษาไทยไว้ว่า

สังเวช : รู้สึกเศร้าสลดหดหู่ต่อผู้ที่ได้รับทุกขเวทนา หรือต้องตายไป หรือต่อผู้ที่ตนเคารพนับถือซึ่งประพฤติตนไม่เหมาะสมเป็นต้น เช่น เห็นผู้คนประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกแล้วสังเวช พอรู้ข่าวว่าญาติผู้ใหญ่ของตนพัวพันคดีฉ้อราษฎร์บังหลวงก็สังเวช

—————

เมื่อพระสงฆ์มรณภาพ ผมขอเสนอให้เรามาช่วยกันใช้คำว่า 

“ขอร่วมแสดงธรรมสังเวชในการจากไปของ…(หลวงพ่อ)…”

เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำผิดๆ และช่วยกันดึงความหมายที่ถูกต้องของคำว่า “(ธรรม) สังเวช” นี้คืนมา

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๘

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้