คุณูปการแก่พระพุทธศาสนา

คุณูปการแก่พระพุทธศาสนา
——————————
เมื่อวานนี้ (๒๑ มีนาคม ๒๕๕๗) มีการประกาศผลสอบบาลีสนามหลวง
สถานที่ประกาศก็คือวัดสามพระยาในกรุงเทพฯ
ก่อนหน้านั้นก็มีการประชุมตรวจข้อสอบกันที่วัดสามพระยาเช่นกัน
ผมเข้าใจว่า อาคารที่ใช้เป็นที่ประชุมตรวจข้อสอบและทำพิธีประกาศผลก็คือ “ศาลาอบรมสงฆ์”
ศาลาอบรมสงฆ์นี้ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีของไทยสมัยโน้น เป็นผู้สร้างถวายวัดสามพระยา สมัยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินธรมหาเถระ) เป็นเจ้าอาวาส เพื่อใช้เป็นที่อบรมวิทยาการให้แก่พระสงฆ์ที่จะเป็นผู้บริหารการพระศาสนาต่อไป ทั้งนี้ตามแนวคิดแนวนโยบายที่ก้าวหน้าของท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ
สมัยโน้นเป็นศาลาโล่งๆ แต่สร้างอย่างแข็งแรงมาก
เห็นศาลาอบรมสงฆ์ ก็เลยนึกถึงจอมพล ป.
สมัยจอมพล ป. ราชการเคยหยุดงานวันโกนวันพระ นับได้ว่าเป็นยุคที่ผู้บริหารบ้านเมืองเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา
สมัยจอมพล ป. เช่นกันที่รัฐบาลริเริ่มสร้างพุทธมณฑลเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่ง ๒๕ พุทธศตวรรษ
และยังเป็นอนุสรณ์ที่มองเห็นได้มาจนถึงทุกวันนี้
หน่วยงานและข้าราชการที่ไปทำงานอยู่ในบริเวณพุทธมณฑลจะระลึกถึงคุณูปการของจอมพล ป. กันบ้างหรือไม่ ก็ไม่ทราบ
ถามว่า ผู้บริหารบ้านเมืองในปัจจุบันนี้ นับจากนี้ถอยไปถึงสมัยจอมพล ป. มีรัฐบาลไหนบ้างที่สร้างคุณูปการแก่พระพุทธศาสนาในลักษณะเดียวกันนี้ ?
อาจจะมีผู้ยกเอากรณีรัฐบาลยกฐานะ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยและ มหามกุฏราชวิทยาลัย ให้เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐขึ้นมาอ้างว่าเป็นคุณูปการแก่พระพุทธศาสนา
แต่ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก เพราะนั่นเป็นผลแห่งความพากเพียรพยายามของพระสงฆ์เอง
รัฐบาลขัดไม่ได้ก็จำต้องอนุมัติ
หาใช่กุศลจิตที่ผู้บริหารคิดอ่านขึ้นเองไม่
ตรงกันข้าม กลับมีแต่ความพยายามที่จะขัดขวางเส้นทางของพระพุทธศาสนา
ตัวอย่างชิ้นเบ้อเริ่มเทิ่มก็คือ การไม่ยอมให้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญว่า ประเทศไทยมีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
ผมเห็นมีแต่ผลงานที่ผู้บริหารบ้านเมืองเห็นพระพุทธศาสนาเป็นลูกเมียน้อย
เช่น ชาวไทยมุสลิมเดินทางไปแสวงบุญทำพิธีฮัจญ์ ที่นครมักกะฮ์ (เมกกะ) ประเทศซาอุดีอาระเบีย รัฐบาลดูแลตลอดตั้งแต่ไปจนกลับ มีกฎระเบียบออกไว้ชัดเจน
แต่ชาวพุทธไปแสวงบุญที่อินเดีย รัฐบาลไม่เคยมีระเบียบช่วยอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว
ใครนึกออกบอกได้ว่ามีรัฐบาลไหนบ้างทำอะไรที่เป็นคุณูปการต่อพระพุทธศาสนา กรุณาแจกแจงสู่กันฟัง เพื่ออนุโมทนาโดยทั่วกัน
อย่าเอาประเภทชุบมือเปิบ หรือแบบรับสมอ้างนะครับ
งานบางอย่างคณะสงฆ์ท่านคิดอ่านทำกันเอง รัฐบาลเพียงสนับสนุนตามหน้าที่เท่านั้น
แบบนั้นไม่นับ
เอาชนิดที่เป็นชิ้นโบแดง เป็นดำริของผู้บริหาร แล้วก็ผลักดันกันจนสำเร็จเป็นผลงานออกมา และเห็นได้ว่าเป็นคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
มีอะไรบ้างครับ ?
ผมเชื่อว่านักการเมืองสมัยจอมพล ป. ก็ต้องมีที่โกงกิน
แม้แต่ตัวจอมพล ป.เองก็เถอะ คงจะต้องเคยเบียดบังเอาผลประโยชน์ของชาติมาเป็นของส่วนตัวบ้าง
แต่ท่านก็ยังนึกถึงพระพุทธศาสนา และทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาไว้เป็นอันมาก
แต่นักการเมืองสมัยนี้ บริหารบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตัวล้วนๆ
ไม่มีที่จะคิดฝากคุณงามความดีไว้แก่แผ่นดินเลยแม้แต่น้อย
๒๒ มีนาคม ๒๕๕๗
