พระราชเสาวนีย์ (บาลีวันละคำ 4,889)

พระราชเสาวนีย์
“คำสั่งของพระราชินี”
อ่านว่า พฺระ-ราด-ชะ-เสา-วะ-นี
กระกอบด้วยคำว่า พระ + ราช + เสาวนีย์
(๑) “พระ”
มีผู้ให้ความเห็นว่าน่าจะมาจาก “วร” (วะ-ระ) ในบาลีสันสกฤต แปลว่า “ผู้ประเสริฐ” แปลง ว เป็น พ ออกเสียงว่า พะ-ระ แล้วกลายเสียงเป็น พฺระ (ร กล้ำ)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกความหมายของ “พระ” ไว้ 13 อย่าง ในที่นี้คำว่า “พระ” เป็นคำใช้ประกอบหน้าคำอื่นแสดงความยกย่องพระเจ้าแผ่นดินหรือของที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าแผ่นดินและเจ้านายชั้นสูง เช่น พระมหากษัตริย์ พระราชวงศ์
(๒) “ราช”
บาลีอ่านว่า รา-ชะ แปลตามรากศัพท์ว่า –
(1) “ผู้รุ่งเรืองโดยยิ่งเพราะมีเดชานุภาพมาก”
ความหมายนี้ประกอบขึ้นจาก ราชฺ (ธาตุ = รุ่งเรือง) + อ (อะ) ปัจจัย = ราช
หมายความว่า ผู้เป็นพระราชาย่อมมีเดชานุภาพมากกว่าคนทั้งหลาย
(2) “ผู้ยังคนทั้งหลายให้ยินดี”
ความหมายนี้ประกอบขึ้นจาก รญฺชฺ (ธาตุ = ยินดี พอใจ) + ณ ปัจจัย, ลบ ณ ลบ ญฺ (รญฺชณ > รญฺช > รช) แผลง ร เป็น รา = ราช
หมายความว่า เป็นผู้อำนวยความสุขให้ทวยราษฎร์ จนคนทั้งหลายร้องออกมาว่า “ราชา ราชา” (พอใจ พอใจ)
“ราช” หมายถึง พระราชา, เจ้านายผู้ปกครอง (king, a ruling potentate) ใช้นำหน้าคำให้มีความหมายว่า เป็นของพระเจ้าแผ่นดิน, เกี่ยวกับพระเจ้าแผ่นดิน หรือเป็นของหลวง
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ราช ๑, ราช– : (คำนาม) พระเจ้าแผ่นดิน, พญา (ใช้แก่สัตว์) เช่น นาคราช คือ พญานาค สีหราช คือ พญาราชสีห์, คำนี้มักใช้ประกอบกับคำอื่น, ถ้าคำเดียวมักใช้ว่า ราชา.”
(๓) “เสาวนีย์”
อ่านว่า เสา-วะ-นี บาลีเป็น “สวนีย” อ่านว่า สะ-วะ-นี-ยะ รากศัพท์มาจาก สุ (ธาตุ = ฟัง) + อนีย ปัจจัย (แปลว่า ควร, พึง), แผลง อุ ที่ สุ เป็น โอ แล้วแปลง โอ เป็น อว (สุ > โส > สว)
: สุ > โส > สว + อนีย = สวนีย แปลตามศัพท์ว่า “อันบุคคลพึงฟัง” หมายถึง น่าฟัง (pleasant to hear)
ขยายความว่า เสียงก็ดี ถ้อยคำก็ดี ที่นับเป็น “สวนีย” เพราะควรแก่การฟัง ชวนให้อยากฟัง ถ้าเป็นถ้อยคำ นอกจากน่าฟัง คือชวนให้อยากฟังแล้ว ความหมายยังขยายออกไปถึง “ต้องฟัง” ด้วย หมายความว่า ถ้อยคำนั้น จะน่าฟังหรือไม่น่าฟังก็ตาม ใครจะอยากฟังหรือไม่อยากฟังก็ตาม แต่ก็ต้องฟัง ถ้อยคำชนิดนี้คือ คำพูดหรือคำสั่งของผู้เป็นนาย ผู้เป็นหัวหน้า หรือผู้บังคับบัญชา ซึ่งผู้อยู่ในบังคับจะต้องฟัง โดยนัยนี้ “สวนีย” จึงหมายรวมถึง คำสั่ง (order, word of command) ด้วย
ในภาษาไทย “สวนีย” แผลงเป็น “เสาวนีย” อาจเป็นเพราะ สว– อ่านว่า สะ-วะ- แต่ออกเสียงเพี้ยนเป็น เสา-วะ (ลองออกเสียงแล้วฟังดู) จึงเลยสะกดเป็น “เสาวนีย” (เสา-วะ-นี-ยะ) ไม่ต้องการออกเสียง -ยะ- จีงใส่การันต์ที่ ย ได้รูปเป็น “เสาวนีย์” อ่านว่า เสา-วะ-นี
การประสมคำ :
๑ ราช + เสาวนีย์ = ราชเสาวนีย์ (ราด-ชะ-เสา-วะ-นี) แปลว่า “คำสั่งของพระราชา”
๒ พระ + ราชเสาวนีย์ = พระราชเสาวนีย์
เติมคำว่า “พระ” เข้าข้างหน้าแสดงความยกย่องของที่เกี่ยวข้องกับพระเจ้าแผ่นดิน
ขยายความ :
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 ไม่ได้เก็บคำว่า “พระราชเสาวนีย์” แต่เก็บคำว่า “เสาวนีย์” บอกไว้ว่า –
“เสาวนีย์ : (คำนาม) คำสั่งของพระราชินี, ใช้ว่า พระราชเสาวนีย์; (กลอน) คำสั่งของท้าวพระยา. (ป. สวนีย).”
เป็นอันว่า ในภาษาไทย “เสาวนีย์” หมายถึง คำสั่งของพระราชินี และใช้คำเต็มว่า “พระราชเสาวนีย์”
…………..
ดูก่อนภราดา!
: พูดด้วยน้ำใจดี มีวาจาน่าฟัง
: ไม่ต้องสั่ง คนก็พร้อมที่จะทำตาม
#บาลีวันละคำ (4,889)
31-10-68
…………………………….
…………………………….
