บาลีวันละคำ

สขิละ (บาลีวันละคำ 2,925)

สขิละ

หนึ่งในคุณสมบัติของคนรับแขก

อ่านว่า สะ-ขิ-ละ

สขิละ” เขียนแบบบาลีเป็น “สขิล” อ่านว่า สะ-ขิ-ละ เหมือนกัน

สขิล” รากศัพท์มาจาก สข (เพื่อน, เพื่อนชาย = สขา เพื่อนหญิง = สขี) + อิล ปัจจัย

: สข + อิล = สขิล แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่นำมาซึ่งความเป็นสหาย

คำบางคำที่ประกอบด้วย “สขิล” เช่น “สขิลวาจตา” (สะ-ขิ-ละ-วา-จะ-ตา) แปลว่า “การใช้วาจาที่เป็นมิตร” (use of friendly speech)

สขิล” ใช้เป็นคุณศัพท์ :

แสดงลักษณะของวาจา มีความหมายว่า “ถ้อยคำที่นำมาซึ่งความเป็นสหาย” คือคำสุภาพเรียบร้อย นุ่มนวลชวนฟัง

แสดงลักษณะของบุคคล มีความหมายว่า “ผู้มีวาจานำมาซึ่งความเป็นสหาย” คือเป็นคนพูดจาดี สุภาพเรียบร้อย มีลักษณะน่าเข้าใกล้

ขยายความ :

สขิละ” เป็นหนึ่งในคุณสมบัติของพระพุทธองค์ แสดงไว้ในโสณทัณฑสูตรและกูฏทันตสูตร ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 9 ข้อ 182 และข้อ 203 ดังนี้ –

…………..

(1) เอหิสาคตวาที = กล่าวเชื้อเชิญ (a man of courtesy แปลตามตัว: one who habitually says: “come you are welcome”)

(2) สขิโล = ผูกไมตรี (kindly in speech)

(3) สมฺโมทโก = สุภาพ (polite)

(4) อพฺภากุฏิโก = ไม่หน้านิ่วคิ้วขมวด (not frowning, genial)

(5) อุตฺตานมุโข = ยิ้มแย้มแจ่มใส (speaking plainly, easily understood)

(6) ปุพฺพภาสี = ทักทายก่อน (speaking obligingly)

…………..

ผู้รู้ท่านพิจารณาแล้วลงความเห็นว่า นี่คือคุณสมบัติของคนที่ควรทำหน้าที่รับแขก

คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี ภาค 1 หน้า 424-425 อรรถกถาทีฆนิกาย ตอนอธิบายโสณทัณฑสูตร ขยายความคำว่า “สขิโล” ว่า –

…………..

สขิโลติ  ตตฺถ  กตมํ  สาขลฺยํ  ยา  สา  วาจา  เนลา  กณฺณสุขาติอาทินา  นเยน  วุตฺตสาขลฺเยน  สมนฺนาคโต  มุทุวจโนติ  อตฺโถ. 

คำว่า “สขิโล” หมายถึง ประกอบพร้อมด้วยถ้อยคำผูกไมตรี ที่ท่านกล่าวไว้โดยนัยเป็นต้นว่า “บรรดาวาจาเหล่านั้น คำพูดผูกไมตรีเป็นไฉน คำพูดผูกไมตรีคือวาจาที่หาโทษมิได้ เป็นวาจาดี ไพเราะเสนาะหู” ดังนี้ อธิบายว่า พระผู้มีพระภาคทรงมีพระดำรัสอ่อนโยน

…………..

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “สขิล” ว่า kindly in speech, congenial (มีถ้อยคำอ่อนโยน, เข้ากันได้)

คำว่า “สขิละ” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554

อภิปราย :

สขิละ” หมายถึง ผู้ที่พูดจาสุภาพ อ่อนโยน มีกิริยานุ่มนวล ชวนให้เข้าใกล้ ใครเห็นก็อยากพูดด้วยคุยด้วย พูดจาปราศรัยกับแขกก็ “พูดเรียกแขก” ไม่ใช่ “พูดไล่แขก

คนที่มีลักษณะ “สขิละ” ดังกล่าวนี้ย่อมเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะทำหน้าที่ต้อนรับแขกในกิจการทั้งปวงที่ต้องมีการติดต่อสัมพันธ์กับมวลชน

…………..

ดูก่อนภราดา!

: อ่อนโยน ไม่ใช่อ่อนแอ

: แข็งแรง ไม่ใช่แข็งกระด้าง

#บาลีวันละคำ (2,925)

15-6-63

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *