แยกคำ สวรรคต (บาลีวันละคำ 4,736)

แยกคำ สวรรคต
จะเห็นกฎพิลึก ๆ
“สวรรคต” อ่านว่า สะ-หฺวัน-คด
บาลีเป็น “สคฺคคต” อ่านว่า สัก-คะ-คะ-ตะ
แยกศัพท์เป็น สคฺค + คต
(๑) “สคฺค” อ่านว่า สัก-คะ แปลตามศัพท์ว่า (1) “ที่ดำรงอยู่ยืนนานและสวยงาม” (2) “แดนอันแสนดีเลิศล้ำด้วยกามคุณ” (3) “แดนที่มีอารมณ์อันเลิศ” (คือได้พบเห็นสัมผัสแต่สิ่งที่น่าเพลิดเพลินเจริญใจ) (4) “แดนที่ติดข้อง”
“สคฺค” สันสกฤตเป็น “สฺวรฺค” ภาษาไทยเขียนอิงสันสกฤตเป็น “สวรรค์” (สะ-หฺวัน)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สวรรค-, สวรรค์ : (คำนาม) โลกของเทวดา, เมืองฟ้า. (ส. สฺวรฺค; ป. สคฺค).”
ตามปกติคำว่า “สคฺค” หมายถึง สวรรค์ที่ยังเกี่ยวข้องกับกาม 6 ชั้น คือ จาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตดี
แต่ความหมายในวงกว้าง “สคฺค” หมายถึงเทวโลกทุกภพภูมิ
(๒) “คต” บาลีอ่านว่า คะ-ตะ แปลว่า “ไปแล้ว”
สคฺค + คต = สคฺคคต แปลตามศัพท์ว่า “ไปแล้วสู่สวรรค์”
“สคฺคคต” ในภาษาไทย ถ้าเขียนแยกคำก็จะเป็น สวรรค + คต รวมกันก็ควรจะเป็น “สวรรคคต” (ค 2 ตัว) แต่คำนี้ในภาษาไทยใช้เป็น “สวรรคต” (ค ตัวเดียว)
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“สวรรคต, เสด็จสวรรคต : (ราชาศัพท์) (คำกริยา) ไปสู่สวรรค์, ตาย, (ใช้แก่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมราชินี หรือผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเป็นการเฉพาะ เช่น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฏราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาสุดารัตนราชประยูร). (ส. สฺวรฺค + คต ว่า ไปสู่สวรรค์)”
อภิปรายขยายความ :
“สคฺคคต” ศัพท์เดิมในบาลีมี ค 2 ตัว คือ ค ที่ท้ายคำ สคฺค ( = สวรรค์) ตัวหนึ่ง และ ค ที่ต้นคำ คต อีกตัวหนึ่ง
แต่ในภาษาไทย “สวรรคต” มี ค ตัวเดียว
ถ้าแยกคำก็จะเห็นได้ชัดว่าชอบกลอย่างยิ่ง กล่าวคือ –
สวรรคต แยกเป็น สวรรค + ต ก็ไม่ใช่
เพราะคำเดิม สวรรค + คต
ไม่ใช่ สวรรค + ต
สวรรคต แยกเป็น สวรร + คต ก็ไม่ใช่
เพราะคำเดิม สวรรค + คต
ไม่ใช่ สวรร + คต
การสะกดคำไทยที่มาจากบาลีสันสกฤต มีหลักที่เรารู้กันอยู่คือ “ตัดตัวสะกดออกตัวหนึ่ง” เช่น –
จิตฺต เราใช้เป็น จิต
รฏฺฐ เราใช้เป็น รัฐ
แต่หลักนี้ควรใช้เฉพาะแต่ละคำ คือตัดตัวสะกดเฉพาะในคำเดิมของตัว
แต่คำว่า “สวรรคต” นี้ เป็นการตัดตัวสะกดคร่อมคำ หรือข้ามคำ หรือข้ามแดน เพราะคำเดิม คือ สวรรค + คต เมื่อสมาสเป็นคำเดียวกันก็ควรสะกดเป็น “สวรรคคต”
“สวรรคคต” แยกศัพท์ออกก็จะเป็น สวรรค + คต ยังคงรูปเดิมของแต่ละศัพท์
สวรรค + คต สมาสกันเป็น “สวรรคคต” กำหนดให้อ่านว่า สะ-หฺวัน-คด ก็ไม่ผิดกติกาอันใด
แต่เมื่อตัดตัวสะกดออกแล้วลองแยกคำดู ก็จะเห็นทันทีว่ารูปคำผิดไปจากคำเดิม
อีกคำหนึ่งที่ตกอยู่ในอาการอย่างเดียวกันนี้ คือคำว่า “ปัจจุสมัย” แปลว่า “เวลาใกล้รุ่ง” คำเดิมมาจาก ปัจจุส (ใกล้รุ่ง) + สมัย (เวลา)
“ปัจจุส-” เป็นคำหนึ่ง มี “ส” เป็นตัวสะกด “สมัย” เป็นอีกคำหนึ่ง มี “ส” เป็นพยัญชนะต้น นั่นคือ มี ส 2 ตัว แต่เป็นคนละคำกัน เมื่อสมาสเข้าด้วยกันควรเป็น “ปัจจุสสมัย” (ส 2 ตัว) ตามศัพท์เดิมของแต่ละคำ
ถ้าลองแยกคำ “ปัจจุสมัย” ออกเป็น 2 คำตามเดิม จะไม่สามารถแยกให้ได้รูปเดิม กล่าวคือ –
ปัจจุส + มัย ก็ผิด เพราะคำหลังคือ “สมัย” ไม่ใช่ “มัย”
ปัจจุ + สมัย ก็ผิด เพราะคำหน้าคือ “ปุจจุส” ไม่ใช่ “ปัจจุ”
ทำไมจึงตัดตัวสะกดข้ามคำ?
คณะกรรมการชำระพจนานุกรมฯ คงต้องมีเหตุผลและมีคำอธิบาย แต่เหตุผลและคำอธิบายนั้นรู้เห็นกันเฉพาะในโต๊ะประชุม ประชาชนผู้ใช้พจนานุกรมฯ ไม่มีโอกาสจะได้รับรู้ด้วย
ความจริง เหตุผลและคำอธิบายนั้นเป็นหลักวิชา เป็นหลักความรู้อันมีค่าที่ประชาชนควรได้รับรู้ไว้เป็นความรู้ทั่วไปด้วย แต่จะเป็นเพราะกฎกติกา หรือระเบียบ หรือข้อจำกัดอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้หลักวิชาความรู้นั้นไปไม่ถึงประชาชน นับว่าเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง
ชาติของเรามีหลักวิชาความรู้สาขาต่าง ๆ อยู่อย่างสมบูรณเพียบพร้อมไม่ขาดแคลนเลย
แต่เราขาดแคลนวิธีการที่จะบริหารจัดการให้ประชานเข้าถึงความรู้นั้นได้โดยสะดวกง่ายดาย
การตัดตัวสะกดคร่อมคำ หรือข้ามคำ หรือข้ามแดนเช่นนี้ ยังไม่ได้ยินว่ามีใครยกขึ้นมาเป็นปัญหาชี้ชวนกันให้ดู
ที่ผู้เขียนบาลีวันละคำยกขึ้นมาให้ดูนี้ มิได้มีเจตนาจะสร้างปัญหา แต่มีเจตนาจะชวนให้คิด ให้ช่วยกันสังเกต พิจารณาและหาความรู้
เพราะท่านย่อมว่า ภาษาเป็นสมบัติวัฒนธรรมประจำชาติอันคนในชาติควรให้ความสำคัญและเห็นคุณค่า
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ของเราดีมีอยู่ไม่รู้ค่า
: ไปหลงคว้าของเขาเอามาขัน
: ลิงกับแก้วพลอยกับไก่คงคล้ายกัน
: ถ้าถึงวันสิ้นโคตรจะโทษใคร
#บาลีวันละคำ (4,736)
31-5-68
…………………………….
…………………………….
