บทความเรื่อง การยอมรับที่วิปริต
จะเห็นได้ว่า การไม่ทำทุจริตนั่นเองคือเป้าหมายแรกของการศึกษาพระปริยัติธรรม
และจะเห็นได้ว่า การทุจริตในการสอบพระปริยัติธรรมนั่นเองคือการทำลายเป้าหมายแรกของการศึกษาพระปริยัติธรรมไปด้วยแล้วในตัว
การทุจริตในการสอบพระปริยัติธรรม ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดา
ห้ามไม่ให้เกิดไม่ได้
แต่เมื่อเกิดการทุจริตขึ้นแล้ว ต้องถือว่าเป็นเรื่องวิปริตนะครับ
ไม่ใช่พากันไปยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดา
วิปริตผิดธรรมดาอย่างไร กรุณาย้อนไปอ่านเหตุผลข้างต้น
ลองฟังเรื่องเทียบเคียงเรื่องนี้ครับ อาจช่วยให้เข้าใจชัดเจนขึ้น
————–
วัดแห่งหนึ่งไม่มีพระอยู่จำพรรษา
ชาวบ้านจึงขอร้องให้ผู้ชายบางคนในหมู่บ้านบวชเพื่อจะได้มีพระอยู่ประจำวัดให้ชาวบ้านได้ทำบุญบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ผู้ชายคนหนึ่งบอกว่าเขายินดีบวช
ชาวบ้านก็ดีใจ พากันอนุโมทนา
แต่ชายคนนี้บอกว่า เขาเป็นคนหนุ่ม ต้องได้ร่วมเพศวันละ ๑ ครั้งเป็นอย่างน้อยจึงจะอยู่ได้อย่างเป็นสุข
ถ้ายอมให้เขาทำเช่นนั้นในระหว่างที่บวชอยู่ เขาก็ยินดีที่จะบวช
……….
คงไม่ต้องถามว่าชาวบ้านที่มีสติควรยอมรับข้อเสนอแบบนี้หรือไม่
————–
ผู้ทำทุจริตในการสอบพระปริยัติธรรม ก็คือผู้เหยียบย่ำพระปริยัติธรรมไปเรียบร้อยแล้วนั่นเอง
ถ้ายอมรับการกระทำแบบนี้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา ก็วิปริตแล้วแหละครับ
ผมรู้สึกว่า เวลานี้สังคมบ้านเราเกิดการยอมรับการทุจริตที่วิปริตทำนองนี้กันแล้วทั่วไป
ต้องไปหาหนังสือ พุทธทำนายโลก มาอ่านเพื่อตั้งสติสักหน่อย
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๖ มีนาคม ๒๕๕๘