จะได้คำตอบจากที่ไหน
จะได้คำตอบจากที่ไหน
————————
เคยไปไหว้พระที่วัดใช่ไหมครับ
เข้าไปยังสถานที่ที่มีคนไปไหว้พระกัน ส่วนมากไปมือเปล่า ดอกไม้ธูปเทียนทางวัดจัดไว้บริการ (ราคาตามศรัทธา)
บางแห่งมีเจ้าหน้าที่ของวัดหยิบส่งให้
บางแห่งคนไปไหว้พระหยิบเอง
คุณแน่ใจหรือครับว่า ดอกไม้ที่เจ้าหน้าที่ของวัดหยิบส่งให้หรือคุณหยิบเองก็ตาม เป็นดอกไม้มือหนึ่ง?
ดอกไม้ที่คนไหว้พระเอาไปวางบูชาพระเสร็จแล้วนั้น สักพักก็จะมีคนเก็บออกไป แล้วเอาไปวางให้คนมาทีหลังหยิบเอาไปบูชาพระอีก หมุนเวียนอยู่อย่างนั้น เวลานี้วัดทุกแห่งใช้วิธีนี้
เพราะฉะนั้น ดอกไม้ที่เจ้าหน้าที่ของวัดหยิบส่งให้หรือคุณหยิบเองก็ตาม อาจเป็นดอกไม้มือสอง มือสาม มือสี่ มือห้า หรือมือที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้
ถามว่า เอาดอกไม้ไปเวียนบูชาพระแบบที่ว่านี้ –
เหมาะสมหรือไม่
ถูกต้องหรือไม่
ได้บุญหรือไม่
วิธีหาคำตอบของคนทุกวันนี้ก็คือ
เอาไมโครโฟนไปจ่อปากท่านเจ้าคุณวัดโน้น
เอาไมโครโฟนไปจ่อปากท่านมหาประโยค ๙ วัดนั้น
แล้วก็เอามาอ้างกัน
ท่านเจ้าคุณวัดโน้นท่านว่าไม่ได้
ท่านมหาประโยค ๙ วัดนั้นท่านว่าได้
แต่ไม่เคยมีใครอ้างว่า ในพระไตรปิฎกอรรถกถาฎีกา-อันเป็นตัวหลักคำสอนในพระศาสนา-ท่านว่าอย่างไร
ตามหลักแล้ว ท่านเจ้าคุณหรือท่านมหาจะตอบอย่างไร ท่านก็ต้องอ้างอิงไปที่พระไตรปิฎกอรรถกถาฎีกา-อันเป็นตัวหลักคำสอนในพระศาสนานั่นเอง ไม่ใช่ตอบไปตามความคิดเห็นของตัวท่านเอง
เรื่องใดประเด็นไหน ตรวจดูพระไตรปิฎกอรรถกถาฎีกาทั่วถ้วนแล้ว ไม่พบคำตอบ ก็ต้องประชุมกัน ปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อหาข้อยุติว่า เรื่องนั้นประเด็นนั้นควรปฏิบัติอย่างไร
แต่เวลานี้เราไม่ทำ
ศึกษาตรวจสอบในพระไตรปิฎกอรรถกถาฎีกา ก็ไม่ทำ
ประชุมปรึกษาหารือเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน ก็ไม่ทำ
แต่ชอบทำไปตามความเห็นของตัวบุคคล หรือตามความเข้าใจความพอใจของตัวเอง
พระพุทธศาสนาในเมืองไทยกำลังตกอยู่ในสภาพเช่นว่านี้
นี่แค่ยกตัวอย่างเรื่องเดียว
เอาดอกไม้เวียนบูชาพระ –
เหมาะสมหรือไม่
ถูกต้องหรือไม่
ได้บุญหรือไม่
จะได้คำตอบจากที่ไหน?
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๑๐ มีนาคม ๒๕๖๓
๑๑:๓๙