หลักการของกฐิน
กฐินมาแล้ว (๒)
กฐินมาแล้ว (๒)
———–
ใกล้จะออกพรรษา ใกล้จะถึงหน้ากฐิน
หาความรู้เรื่องกฐินกันไว้ก่อน
———–
ตอนที่ ๒ : พระขอกฐิน
———–
กฐินต้องมาจากข้างนอก ไม่ใช่ออกไปจากข้างใน
หมายความว่าอย่างไร?
หมายความว่า ชาวบ้านเกิดศรัทธาจัดกฐินไปทอดกันเอง
ไม่ใช่วัดไปบอกให้ชาวบ้านมาทอด
เวลานี้กำลังมีการกระทำผิดพระธรรมวินัยในเรื่องนี้กันทั่วไป
นั่นคือ พระบอกบุญเชิญชวนให้ชาวบ้านไปทอดกฐินที่วัดของตน
โปรดทราบไว้เลยนะขอรับว่า การกระทำเช่นนั้นผิดพระธรรมวินัย
กฐินเป็นพุทธานุญาต เป็นพุทธบัญญัติ และมีข้อกำหนดเป็นเงื่อนไขสำคัญหลายอย่าง
หนึ่งในนั้นก็คือ ห้ามมิให้พระเอ่ยปากขอกฐินเพื่อตัวเอง
คำว่า “เอ่ยปากขอ” นี้กินความหมดทุกวิธีการ
เอ่ยปากตรงๆ กับเจ้าตัว
ฝากคนไปบอก
เขียนจดหมายถึงตรงๆ
เขียนไปลงหนังสือพิมพ์
ออกสื่อทุกรูปแบบ รวมทั้งในเฟซบุ๊กนี่ด้วย
และไม่ว่าจะพูดตรงๆ หรือพูดเป็นนัยๆ
พูดตรงๆ ก็เช่น
โยมจ๊ะโยมจ๋า ปีนี้วัดของอาตมายังไม่มีคนจองกฐิน ใครมีศรัทธาขอเจริญพรเชิญมาเป็นเจ้าภาพกันนะจ๊ะ
พูดเป็นนัยๆ ก็เช่น
ปีนี้ญาติโยมไปทอดกฐินวัดอื่นกันโม้ด
ปีนี้พระที่วัดอาตมาน่ากลัวจะไม่ได้อานิสงส์กฐิน
ทำบุญอะไรจะประเสริฐไปกว่าทอดกฐินเป็นไม่มีนะโยมนะ
ฯลฯ
เวลานี้สื่อออนไลน์สะดวก ลูกเล่นก็เยอะ
พระเขียนเอง แต่ลงชื่อเป็นญาติโยมเขียน
ชักชวนโยมสลับวัดกัน เพื่อจะเลี่ยงบาลี
วัด ก. ชวนโยมไปทอดกฐินวัด ข.
วัด ข. ชวนโยมไปทอดกฐินวัด ก.
หรือจะใช้ลูกเล่นลีลาลึกลับซับซ้อนอะไรอีกก็ตามที
ถ้าทำด้วยเจตนาลึกๆ จะให้เขาเอากฐินมาทอดที่วัดของตนเป็นเป้าหมาย
โปรดทราบว่าผิดทั้งนั้น
ถ้าเขาเอากฐินมาทอดตามคำขอ กฐินนั้นก็ไม่เป็นกฐิน
แต่ในกรณีที่มีเจ้าภาพเป็นเนื้อเป็นตัวแน่แล้ว ทางวัดจะเชิญชวนญาติโยมให้ไปร่วมงานไปร่วมอนุโมทนา-อย่างนี้ทำได้ ไม่ผิด
ขอเชิญไปร่วมอนุโมทนานะครับ
ไม่ใช่ขอเชิญไปร่วมเป็นเจ้าภาพ
เวลานี้เห็นในเฟซบุ๊กนี่ มีบางวัดบอกว่า-ขอเชิญไปร่วมเป็นเจ้าภาพ
ซ้ำยังขอเชิญร่วมบริจาคเงินอีกด้วย
แล้วยังมีกฐินเป็นกองๆ อีกต่างหาก
ไปกันใหญ่เลย
“เชิญไปร่วมเป็นเจ้าภาพ” มีผลเท่ากับเชิญไปเป็นเจ้าภาพนั่นเอง
“เชิญไปเป็นเจ้าภาพ” ก็คือออกปากขอกฐินนั่นเอง
กิจเหล่านี้ ถ้าเจ้าภาพเขาบอกเขาเชิญกันเอง ทางวัดไม่รู้เรื่องด้วย ก็ขออนุโมทนา
แต่ถ้าวัดเป็นฝ่ายเชิญ เป็นฝ่ายขอ ก็ขอได้โปรดเข้าใจร่วมกันว่า-ไม่ถูกต้องนะครับ
————
คนเก่าๆ เขารู้ดีว่าพระขอกฐินเพื่อตัวเองไม่ได้ เพราะฉะนั้นจึงมีคนจำพวกหนึ่งที่มีกุศลจิตปรารถนาจะอนุเคราะห์พระให้ได้รับอานิสงส์กฐินตามพระธรรมวินัย จัดเตรียมผ้ากฐินและสิ่งของบริวารตามกำลัง พอใกล้จะหมดเขตกฐินก็เที่ยวตระเวนไปตามวัดต่างๆ บรรดาที่คาดหมายว่ายังไม่มีใครทอดกฐิน เมื่อพบวัดเช่นนั้นก็จัดการทอดกฐินในทันทีที่ไปถึง
กฐินที่ทอดโดยไม่ได้จองไม่ได้แจ้งล่วงหน้าเช่นนี้ ท่านเรียกกันว่า “กฐินจร”
แล้วก็เรียกเพี้ยนไปเป็น “กฐินโจร” แล้วเลยอธิบายลากเข้าความว่า เหมือนโจรจู่โจมเข้าปล้นโดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว
ก็ครึกครื้นไปอีกแบบหนึ่ง
สมัยนี้การติดต่อสื่อสารยวดยานพาหนะสะดวกมาก ทราบว่ามีบุคคลที่มีกุศลจิตร่วมกลุ่มกันจัด “กฐินจร” ตามแบบโบราณกันชุกชุมอยู่ ควรแก่การอนุโมทนาสาธุ
เพราะฉะนั้น พระไม่ต้องออกปากขอกฐินให้ผิดพระธรรมวินัยหรอกขอรับ
ปฏิบัติพระธรรมวินัยให้เคร่งครัดไปเถิด ญาติโยมเขาจัดให้เอง
แล้วก็ไม่เฉพาะกฐินเรื่องเดียว ญาติโยมพร้อมสนับสนุนทุกเรื่อง
ขอให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยก็แล้วกัน
————
ขอฝากถึงบรรดาหน่วยงานราชการ ตลอดจนบริษัทห้างร้านต่างๆ โปรดทราบว่า ถ้าได้รับหนังสือหรือฎีกาบอกบุญจากวัดเชิญให้ไปเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่วัดไหน โปรดศึกษาให้ถ่องแท้ก่อนว่า กฐินที่บอกมานั้นมีเจ้าภาพเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ขอเชิญไปร่วมบุญหรือบริจาคสมทบทุนบริวารกฐิน
ถ้าแบบนี้ก็ทำไปตามกำลังของท่าน
แต่ถ้าเป็นหนังสือหรือฎีกาของวัดมาขอเชิญไปเป็นเจ้าภาพ หรือแม้แต่บอกว่า “ร่วมเป็นเจ้าภาพ”
กรุณาอย่าสนับสนุนครับ
การจะเชิญใครร่วมเป็นเจ้าภาพ เป็นหน้าที่ของตัวเจ้าภาพเชิญเอง
ไม่ใช่กิจของสงฆ์ที่จะไปบอกเชิญ
ทางวัดทำได้เพียงขอเชิญไปร่วมอนุโมทนาเท่านั้น
โปรดระลึกไว้ว่า พระบอกบุญขอกฐินเพื่อตัวเอง ผิดพระธรรมวินัยครับ
เรื่องกฐินนี้ พระคุณเจ้าที่มั่นคงในพระธรรมวินัยท่านจะเปลื้องตนออกมาอยู่นอกวง ปล่อยให้ชาวบ้านเขาคิดอ่านกันเองล้วนๆ ตัวท่านดำรงอยู่ในธรรมของปฏิคาหกอย่างบริสุทธิ์สะอาด
ขอน้อมนมัสการด้วยความเคารพมา ณ ที่นี้ด้วยขอรับ
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๘ กันยายน ๒๕๖๐
๑๐:๕๖
…………………………….