เครื่องยนต์ติดแล้วขอรับ
เครื่องยนต์ติดแล้วขอรับ
————————-
อย่าปล่อยให้ดับไปเสียอีก
คำสั่งเจ้าคณะหนทุกหนที่ปรากฏในภาพประกอบนี้ กระผมต้องขออนุญาตใช้คำว่า “กราบแทบเท้า” อนุโมทนาสาธุการด้วยความปีติอย่างยิ่ง
“อะไรไม่ควรเป็นอะไร” ถ้าเจ้าพระคุณทั้งปวงพร้อมใจกันสั่งการแบบนี้ การคณะสงฆ์ก็จะขับเคลื่อนไปได้เป็นอันดี
ภาระต่อจากนี้ก็คือ การกำกับดูแลกวดขันให้เป็นไปตามคำสั่ง
ไม่ใช่สั่งแล้วละลายหายไปกับสายลม
หวังว่าคณะสงฆ์จะมีบุคลากรที่จะออกไปกำกับดูแลตามวงรอบได้อย่างทั่วถึง
ถ้าเหลือกำลังลาก-สำนักพุทธฯ ในแต่ละจังหวัดมีไว้ทำอะไรละขอรับ
——————-
คำสั่งนี้อุปมาเหมือนอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย
ต่อไปขอกราบอาราธนาให้ดำริถึง “อะไรควรเป็นอะไร” ซึ่งอุปมาเหมือนประแป้งแต่งตัวให้สวยงาม
กล่าวรวมๆ ว่าพระภิกษุสามเณรในคณะสงฆ์ไทยควรมีคุณสมบัติ-เช่นความรู้ความสามารถ-อย่างไรในอันที่จะช่วยกันรักษาพระศาสนาให้ดำรงมั่นคงต่อไปได้ และจะเป็นที่ตั้งแต่งศรัทธาเลื่อมใสของปวงชนยิ่งๆ ขึ้น
จะสร้างพระเณรรุ่นใหม่ให้มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถทางไหนอย่างไร เพื่อเป็นทายาทรับผิดชอบการพระศาสนา
ต้องเริ่มคิดตั้งแต่วันนี้แล้วขอรับ
ไม่ใช่บวชเข้ามาแล้วเรียนหรือไม่เรียนอะไรก็ได้ ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ-อย่างที่กำลังเป็นอยู่ในทุกวันนี้
ถ้าไม่เอาคันถธุระ ก็ต้องเอาวิปัสสนาธุระ
แนวทางดำเนินนี้บูรพาจารย์ท่านวางไว้ให้แล้ว รู้กันอยู่แล้ว
ที่ผ่านมาจะอยู่กันมาอย่างไร จะเป็นอะไรกันอย่างไร
(เมื่อก่อนมันก็เป็นอย่างนี้ มันเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยโน้นๆ–)
ก็ให้มันผ่านไป ไม่ควรยกขึ้นมาอ้างเพื่อจะได้เป็นอย่างเดิมๆ อีก
แต่ต้องมองว่าต่อไปนี้ควรเป็นอย่างไร
……………..
ยกตัวอย่าง
ปัญหาที่คณะสงฆ์ไม่เคยมีคำตอบ-
ทุกวันนี้จำนวนพระภิกษุสามเณรลดลง
ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้
จะไม่เหลือพระเณรไว้เฝ้าวัดแน่
คณะสงฆ์มีแผน มีโครงการ มีนโยบายอย่างไร?
อย่าตอบว่า-ก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ เพราะที่ผ่านมาและกำลังเป็นอยู่มันก็เป็นมาตามธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่เห็นจะต้องไปทำอะไรกับมัน
ลดก็ลดไป
หมดก็หมดไป
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ทำไมจะต้องไปทำอะไรกับมัน
……………..
ถ้าตอบแบบนี้ ก็-อวํสิโร
เลิกพูดกัน
——————-
อนึ่ง กระผมขอฝากเรื่องที่ใฝ่ฝันมานานนักหนา นั่นคือขอได้โปรดมีดำริตั้ง “กองวิชาการคณะสงฆ์” (หรือจะใช้ชื่ออื่นใดตามที่เห็นสมควร) ขึ้นมาโดยพลัน
เพื่อรวบรวมและวินิจฉัยข้อปัญหาทั้งปวงเกี่ยวกับพระธรรมวินัยที่เกิดขึ้นในเวลานี้
เพื่อที่คณะสงฆ์จะได้มีแนวปฏิบัติและแนวคำสอนไปในทางเดียวกันทั่วสังฆมณฑล
และแก้ปัญหาข้อสงสัยทั้งปวงของประชาชนอันเกี่ยวข้องกับหลักพระธรรมวินัยซึ่งยังหาข้อยุติที่ถูกต้องตรงกันไม่ได้นั้นให้กระจ่างแจ้งสืบไป
……………..
ยกตัวอย่าง การทอดกฐินที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้
ต่างวัดต่างก็ทำกันไปตามแต่จะมีกลเม็ดอะไรอย่างไรเพื่อหาเงิน
บางวัดเตรียมทอดกฐิน ๒ ครั้งก็มี
พระธรรมวินัยว่าอย่างไร ไม่รับรู้
……………..
ความจริงคณะสงฆ์มีกองธรรม กองบาลี
มีแม่กองธรรม แม่กองบาลีรับผิดชอบ
แต่ปีหนึ่งทำงานเรื่องเดียว คือจัดการสอบปีละ ๒ ครั้งตามฤดูกาลเท่านั้น
(จัดการสอบเท่านั้น ไม่ได้จัดการสอนหรือการศึกษา)
พ้นฤดูกาลไปแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
ไม่ได้มีหน้าที่จับต้องงานวิชาการพระพุทธศาสนาแต่ประการใด
เสียดายทรัพยากรบุคคลและทรัพยากรอื่นๆ ที่มีในมือ
แต่ขาดการบริหารจัดการที่ดี
ถ้าไม่ตั้งกองวิชาการพระพุทธศาสนา ก็ปรับขยายภารกิจหน้าที่ของกองธรรม-กองบาลี ให้ทำงานมากกว่าจัดการสอบ คือให้มีหน้าที่ทำงานวิชาการพระพุทธศาสนาด้วย
ปัญหาเกี่ยวกับพระธรรมวินัยทั้งปวง ให้เป็นหน้าที่ของกองธรรม-กองบาลีจัดการรวบรวม ค้นคว้าหาคำตอบที่ยุติถูกต้องตามพระธรรมวินัย แล้วเสนอคณะสงฆ์ให้ประกาศเผยแพร่ให้วัดต่างๆ และประชาชนรับรู้และปฏิบัติตามเป็นแนวทางเดียวกัน
เป็นวิธีรักษาพระพุทธศาสนาที่ตรงประเด็นที่สุด
——————-
ในที่สุดนี้ ขอปวารณาต่อคณะสงฆ์ว่า เจ้าพระคุณทั้งปวงประสงค์จะให้รับใช้ในเรื่องใดอันสมควรแก่กิจของพระศาสนา ขอได้โปรดเรียกใช้กระผมตลอดจนบรรดาคนที่ไปจากวัดและได้ดีไปจากวัดทั้งปวง ตามที่เห็นสมควรนั้น เทอญ
นมัสการด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๔ ตุลาคม ๒๕๖๐
:
หมายเหตุ:
ภาพประกอบจากเฟซบุ๊กของ Zamar Sib Oon
…………………………….