บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

ประวัติย่อหมอชีวก

โลหิตุปบาท (๑)

โลหิตุปบาท (๑)

————–

เรื่องพระเทวทัตกลิ้งหินบนยอดเขาคิชฌกูฏหมายสังหารพระพุทธองค์ มีบันทึกไว้ในพระไตรปิฎก 

แต่เรื่องตอนที่หมอชีวกรักษาอาการบาดเจ็บของพระพุทธองค์จากเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก

แต่ไปมีรายละเอียดอยู่ในคัมภีร์ชั้นอรรถกถา

ในพระไตรปิฎก เรื่องพระเทวทัตกลิ้งหินมีบันทึกไว้ที่คัมภีร์จุลวรรค ภาค ๒ พระวินัยปิฎก ตอนสังฆเภทขันธกะ พระไตรปิฎกเล่ม ๗ ข้อ ๓๗๒ 

ข้อความในพระวินัยปิฎกเป็นดั่งนี้ 

………………….

สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จจงกรมอยู่ ณ เขาคิชฌกูฏบรรพต ครั้งนั้นพระเทวทัตขึ้นสู่คิชฌกูฏบรรพตแล้วกลิ้งศิลาก้อนใหญ่ด้วยหมายใจว่า จักปลงพระชนม์พระสมณโคดมด้วยศิลานี้ 

ยอดบรรพตสองยอดน้อมมารับศิลานั้นไว้ 

สะเก็ดกระเด็นจากศิลานั้นต้องพระบาทพระผู้มีพระภาค ทำพระโลหิตให้ห้อขึ้นขณะนั้น 

พระผู้มีพระภาคทรงแหงนขึ้นไป ได้ตรัสกะพระเทวทัตว่า 

……………

พหุํ  ตยา  โมฆปุริส  อปุญฺญํ  ปสุตํ, 

ยํ  ตฺวํ  ทุฏฺฐจิตฺโต  วธกจิตฺโต  

ตถาคตสฺส  รุหิรํ  อุปฺปาเทสิ.

ดูก่อนโมฆบุรุษ เธอสั่งสมบาปมิใช่บุญไว้มากนัก 

เพราะมีจิตคิดประทุษร้าย มีจิตคิดฆ่า 

ยังโลหิตของตถาคตให้ห้อขึ้น 

……………

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้จัดเป็นอนันตริยกรรมข้อที่ ๑ ที่เทวทัตสั่งสมแล้ว เพราะเธอมีจิตคิดประทุษร้าย มีจิตคิดฆ่า ทำโลหิตของตถาคตให้ห้อขึ้น 

……………

เรื่องต่อจากนี้ก็คือ พวกภิกษุได้พากันมาเดินจงกรมบ้าง สวดสาธยายพระธรรมบ้าง รอบๆ บริเวณที่พระพุทธองค์ประทับ เพื่อเป็นการระวังป้องกันภัย 

พระพุทธองค์ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย-ตามสำนวนในพระไตรปิฎกว่า 

……………

อฏฺฐานเมตํ  ภิกฺขเว  อนวกาโส,  โย  ปรุปกฺกเมน  ตถาคตํ  ชีวิตา  โวโรเปยฺย,  น  ปรุปกฺกเมน  ภิกฺขเว  ตถาคตา  ปรินิพฺพายนฺติ.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่ผู้ใดใครผู้อื่นจะปลงชีวิตตถาคตนั้นมิใช่ฐานะมิใช่โอกาส พระตถาคตทั้งหลายย่อมไม่ปรินิพพานด้วยความพยายามของผู้อื่น

……………

พูดสั้นๆ ง่ายๆ ว่า-ใครจะพยายามฆ่าพระพุทธเจ้านั้นไม่มีทางทำได้สำเร็จ 

ลงมือได้ พยายามได้ 

แต่ลงท้ายจะทำไม่สำเร็จ 

ไม่ใช่เฉพาะพระพุทธเจ้าพระองค์นี้ แต่กับพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จะเป็นเช่นนี้เหมือนกันหมด เพราะเป็นหลักธรรมดา

ครั้นแล้วพระพุทธองค์ก็รับสั่งให้ภิกษุทั้งหลายกลับไปอยู่ตามที่ของตนๆ ตามปกติเถิด พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลที่ไม่ต้องให้ใครมาคอยระวังป้องกันภัยให้

ความในพระไตรปิฎกที่บรรยายเหตุการณ์พระเทวทัตกลิ้งหินมีเพียงเท่านี้ 

……………

มีพระสูตรอีก ๒ แห่งในคัมภีร์สังยุตนิกาย สคาถวรรค พระไตรปิฎกเล่ม ๑๕ ข้อ ๑๒๒ และข้อ ๔๕๒ ชื่อ สกลิกสูตร ชื่อเดียวกันและอยู่ในหมวดสคาถวรรคด้วยกันทั้ง ๒ สูตร เป็นเรื่องว่าด้วยพระบาทของพระพุทธองค์ถูกสะเก็ดหินกระทบได้รับบาดเจ็บสาหัส ในข้อ ๑๒๒ กล่าวถึงเหล่าเทวดาพากันมาเฝ้า ข้อ ๔๕๒ กล่าวถึงมารมาเฝ้า 

ในตัวพระสูตรไม่ได้เอ่ยถึงว่าทำไมพระบาทของพระพุทธองค์จึงถูกสะเก็ดหินกระทบ และไม่ได้เอ่ยถึงการรักษาพยาบาล 

แต่ในอรรถกถาของสูตรแรก (คัมภีร์สารัตถปกาสินี ภาค ๑ หน้า ๑๐๗-๑๐๘) ขยายความไว้ว่า เป็นเหตุการณ์เดียวกับที่พระเทวทัตกลิ้งหินจากยอดเขาคิชฌกูฏนั่นเอง 

แต่อรรถกถาฉบับนี้ก็ไม่ได้เอ่ยถึงการรักษาพยาบาลแต่อย่างใด แต่ก็บอกรายละเอียดเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดเหตุ พวกภิกษุได้พาพระพุทธองค์เสด็จไปพักที่สวนมัททกุจฉิ 

ถึงตอนนี้ มีชื่อสถานที่ ๓ แห่งที่ควรรู้จัก คือเขาคิชฌกูฏ สวนมัททกุจฉิ และชีวกัมพวัน 

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๘ เมษายน ๒๕๖๓

๑๕:๑๖

ช่วงวันเวลาที่คนไทยต้องร่วมกันให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์ของไทยและของโลก

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *