บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

รำพึงรำพันถึงการเรียนบาลี

รำพึงรำพันถึงการเรียนบาลี

—————————

หมู่นี้ พอได้ยินใครพูดถึงการเรียนบาลี หรือการสนับสนุนพระเณรที่เรียนบาลี ผมเกิดความรู้สึกที่เรียกกันว่า “เซ็ง”

ขออนุญาตอธิบายความในใจ

ผมเคยอธิบายถึงเป้าหมายปลายทางของการเรียนบาลีไว้ในที่ต่างๆ หลายครั้ง แต่ก็ไม่เบื่อที่จะพูดซ้ำอีก

ภาษาบาลีเป็นภาษาหนึ่งในโลกที่มนุษย์สามารถใช้สื่อสารกันได้ แต่ภาษาบาลีเป็นภาษาที่ไม่มีชนชาติไหนในโลกใช้สื่อสารในชีวิตประจำวัน

ภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ บรรดาที่เปิดสอนเปิดเรียนกันอยู่ทุกวันนี้ ผู้เรียนสามารถเอาไปใช้พูดจาสื่อสารกับผู้คน หรือเอาไปอ่านเขียนเรียนรู้สรรพตำราวิชาการและหนังสือทั่วไปที่เขียนเป็นภาษานั้นๆ ได้ทั้งสิ้น

แต่ภาษาบาลี เรียนแล้วเอาไปพูดจาสื่อสารกับใครไม่ได้ เพราะไม่มีมนุษย์กลุ่มไหนพูดภาษาบาลี

เอาไปอ่านตำราหรือหนังสือทั่วไปก็ไม่ได้ เพราะไม่มีตำราหรือหนังสืออะไรเลยที่ชนชาติไหนเมืองไหนเขาเขียนเป็นภาษาบาลี

สรุปว่า เรียนบาลีแล้วเอาไปสื่อสารขาออกคือพูดจากับใครก็ไม่ได้ เอาไปสื่อสารขาเข้าคืออ่านฟังเรียนรู้รับอะไรเข้าตัวมาก็ไม่ได้ เหตุผลข้อใหญ่ก็เพราะไม่มีแหล่งภาษาบาลีอยู่ในโลกนี้-เหมือนแหล่งภาษาอื่นๆ 

แหล่งภาษาบาลีในโลกนี้มีอยู่แห่งเดียว คือพระไตรปิฎก รวมทั้งคัมภีร์อื่นๆ ที่แตกลูกออกไปจากพระไตรปิฎก แต่จุดศูนย์รวมอยู่ที่พระไตรปิฎก

พระไตรปิฎกคืออะไร?

พระไตรปิฎกคือประมวลคำสอนในพระพุทธศาสนา

คำสอนในพระพุทธศาสนาคืออะไร?

คือสอนไม่ให้ทำชั่วทุกอย่าง

คือสอนให้ทำความดีให้มากที่สุด

และคือสอนให้ทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใสไร้กิเลสทั้งปวง ซึ่งเมื่อทำได้ถึงขั้นนั้นแล้วก็จะเป็นอิสระจากปัญหาทั้งปวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอิสระจากการเวียนเกิดเวียนตาย

นี่สรุปสั้นๆ

รายละเอียดทั้งปวงมีอยู่ในพระไตรปิฎก

เรียนบาลีก็คือเรียนภาษาที่ใช้บันทึกพระไตรปิฎก

คือเรียนเพื่อจะได้ศึกษาพระไตรปิฎกได้อย่างทะลุปรุโปร่งไม่ติดตันหรือเข้าใจผิดพลาดคลาดเคลื่อน

ศึกษาพระไตรปิฎกเพื่อจะได้รู้ว่าหลักคำสอนที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนาคืออย่างไร

รู้หลักคำสอนที่ถูกต้องแล้ว ตนเองจะได้เอามาประพฤติปฏิบัติให้ถูกต้องเพื่อให้เกิดผลที่พึงประสงค์ตามเป้าหมายของพระพุทธศาสนา

แล้วเอาหลักคำสอนที่ถูกต้องนั้นไปแสดง ประกาศ เผยแผ่แก่มวลมนุษยชาติให้แพร่หลายต่อๆ ไปอีก

ทั้งหมดนี้คือเป้าหมายของการเรียนบาลี

แต่จนถึงวันนี้ การพูดถึงการเรียนบาลีก็ดี การสนับสนุนพระเณรที่เรียนบาลีก็ดี ไม่มีใครพูดถึงเป้าหมายนี้แม้แต่คำเดียว

จะเรียนบาลีเพื่อให้ได้ศักดิ์และสิทธิ์จากการสอบได้ประโยคนั้นประโยคนี้ ก็เอา ก็ต้องเอา ผมไม่ได้คัดค้าน และไม่ได้ขัดข้องขัดคอใครใดๆ ทั้งสิ้น

จะสนับสนุนพระเณรหรือฆราวาสญาติโยมที่เรียนบาลีเพื่อให้ได้ศักดิ์และสิทธิ์จากการสอบได้ประโยคนั้นประโยคนี้ ก็สนับสนุนไป ผมไม่ได้คัดค้านและไม่ได้ขัดข้องขัดคอใครใดๆ ทั้งสิ้น มีแต่อนุโมทนา ตัวผมเองก็สนับสนุน และไม่ได้สนับสนุนเฉพาะตัวเอง หากแต่ชักชวนญาติพี่น้องให้ช่วยกันสนับสนุนด้วย

ผมเพียงแต่ขอร้อง วิงวอน อ้อนวอน กราบเท้า หรือจะให้กราบอะไรอีกก็เอา คือขอให้ช่วยกันสนับสนุน ส่งเสริม ชักชวน จูงใจ ชี้แนะให้นักเรียนบาลีมุ่งหน้าไปให้ถึงเป้าหมายที่เป็นปลายทางที่ถูกต้องแท้จริงของการเรียนบาลี นั่นคือการศึกษาพระไตรปิฎก

พระไตรปิฎกคืออะไร ศึกษาไปทำไม กรุณาย้อนกลับไปอ่านที่เพิ่งพูดไว้เมื่อกี้

แต่จนถึงวันนี้ การพูดถึงการเรียนบาลีก็ดี การสนับสนุนพระเณรที่เรียนบาลีก็ดี ไม่มีใครพูดถึงเป้าหมายนี้แม้แต่คำเดียว 

มีแต่เน้นย้ำกันที่เรียนบาลีเพื่อให้สอบได้ และสอบได้เพื่อให้ได้ศักดิ์และสิทธิ์ 

แม้แต่ตัวความรู้อันเกิดจากการเรียนบาลีแท้ๆ ก็พูดถึงในฐานะเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น 

… เรียนไปมันก็ต้องได้ความรู้เข้าบ้างนั่นแหละ …

ครั้นพอพูดถึงการเรียนบาลีเพื่อการศึกษาพระไตรปิฎก ก็มีแต่คนออกมาแก้แทนให้ว่า 

… เรื่องอย่างนี้มันต้องเป็นไปตามอัธยาศัย …

ฝากอนาคตของพระศาสนาไว้กับอัธยาศัย

ลองเล็งแลอัธยาศัยของพระเณรหรือชาวบ้านที่เรียนบาลีทุกวันนี้ดูกันเอาเถิดว่าเป็นอย่างไร

เพราะฉะนั้น หมู่นี้ พอได้ยินใครพูดถึงการเรียนบาลี หรือการสนับสนุนพระเณรที่เรียนบาลี ผมจึงเกิดความรู้สึกที่เรียกกันว่า “เซ็ง”

พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย

๑๓ มีนาคม ๒๕๖๕

๑๑:๓๔

…………………………………………

รำพึงรำพันถึงการเรียนบาลี

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *