บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

บุคคลหาได้ยากที่ผมหาได้

บุคคลหาได้ยากที่ผมหาได้

——————————-

และความแก่คงจะไม่ใช่ปัจจัยเดียว

…………….

เมื่อสัปดาห์ก่อนผมมีกิจจำเป็นจะต้องเข้ากรุงเทพฯ ผมไปพักบ้านลูกชายที่อยู่ในซอยวัดหลวงพ่อโตบางพลีเช่นเคย 

ตอนเช้าผมก็จะเดินออกกำลังแบบเดียวกับที่ทำตามปกติที่ราชบุรี ถ้าไม่ไปทางวัดหลวงพ่อโตก็จะไปทางตลาดกิ่งแก้ว 

ทั้งสองแห่งนี้อยู่คนละทิศทางกัน วัดหลวงพ่อโตไปทางใต้ ตลาดกิ่งแก้วไปทางเหนือ 

เดินออกกำลังด้วย ถือโอกาสหาของกินเป็นมื้อเช้าติดมือกลับบ้านด้วย 

ตั้งอารมณ์-เหมือนพระออกบิณฑบาต 

วันนั้น (๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓) ผมซื้ออาหารที่ตลาดกิ่งแก้วหิ้วติดมือแล้วก็ขึ้นสะพานข้ามถนนเทพรัตนตรงหน้าตลาดกลับมาทางฟากห้างมาร์เก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิ เป็นช่วงเวลาที่ฝนตกหนักพอดี 

ความจริงฝนตกตั้งแต่อยู่ในตลาดแล้ว ในตลาดมีหลังคาจึงไม่ทันรู้ว่าฝนตก พอออกมาจะขึ้นสะพานจึงรู้ว่าฝนตก 

บนสะพานมีหลังคา ฝนไม่เปียก เดินได้สบาย 

พอลงสะพาน คราวนี้เปียกแน่ 

แต่ฝนตกแค่นี้ไม่มีปัญหาสำหรับผม-ในฐานะลูกชาวนาชั้นสี่-ชั้นที่ไม่มีนาเป็นของตนเอง 

สมัยเป็นเด็กเลี้ยงวัวอยู่กลางทุ่ง ฝนตกแดดออกเป็นเรื่องปกติที่สุด ผมถูกธรรมชาติฝึกให้ทนแดดทนฝน ทนร้อนทนหนาวทนหิวทนอดจนเป็นปกติ 

เห็นใครโดนฝนนิดแดดหน่อย เรียกหาร่มหาหมวก 

บ่องตง – หมั่นไส้

(ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผมก็ใช้ภาษาแบบนี้เป็น!)

ลงสะพาน เดินผ่านหน้ามาร์เก็ต วิลเลจ สุวรรณภูมิท่ามกลางสายฝน ตอนนั้นห้างยังไม่เปิด

ยังไม่ทันพ้นหน้าห้าง ชายในชุดปฏิบัติงานคนหนึ่ง สวมเสื้อกันฝน ในมือถือร่มคันใหญ่ก็เดินรี่เข้ามาหาผม 

“ลุงจะไปไหน” เขาถามอย่างสุภาพ “ฝนกำลังตก เข้าไปหลบฝนที่ชายคาห้างก่อนดีไหม”

“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบ “ไปซอยหลวงพ่อโต” 

“ถ้าไม่รีบ หลบฝนก่อนเถอะครับ” เขาพูดพร้อมพยักพเยิด 

ผมนึกถึงมารยาทที่เคยได้รับการอบรมสั่งสอนมา 

…………….

กับคนเสมอกันหรือต่ำกว่า – “อย่าปฏิเสธน้ำใจอย่างไร้น้ำใจ” 

กับผู้ใหญ่กว่า -“ผู้ใหญ่ให้อะไร ห้ามปฏิเสธ” 

…………….

“เดี๋ยวเขาว่าเอา” ผมพยายามพูดให้ฟังดูครึกครื้น 

“ใครจะว่า ไปกับผมเถอะลุง เปียก” 

“เดี๋ยวเจ้าหน้าที่เขาว่าเอา” 

“ก็ผมนี่แหละเจ้าหน้าที่” คราวนี้เขาหัวเราะ 

เขากางร่มให้ผม กึ่งดึงกึ่งลากผมเข้าไปหลบฝนที่ริมห้าง ชี้ให้ผมนั่งที่เก้าอี้ 

ยิ้มให้อย่างมีไมตรี แล้วก็หายตัวไป 

ผมนั่ง-ฉลองศรัทธา-อยู่พักหนึ่ง พอดีว่าฝนเริ่มซาเม็ด ผมก็ออกเดินต่อไป 

ถึงปากซอยหลวงพ่อโต พอเลี้ยวเข้าปากซอย ผมก็เตรียมข้ามถนนเพื่อไปเดินอีกฟากหนึ่งซึ่งเป็นฟากเดียวกับทางเข้าบ้าน 

เช้าๆ รถออกจากซอยค่อนข้างหนาแน่น 

ตรงนั้นมีหนุ่มโรงงานยืนอยู่คนหนึ่ง เตรียมจะข้ามถนน เขามองมาทางผม 

“ลุงข้ามกับผม” เขาบอก แล้วเข้ามายืนทางขวาของผม ยืนด้านนี้เวลาข้าม ถ้ารถมา รถจะถึงตัวเขาก่อน 

พอมีจังหวะรถว่าง เขาก็บอกให้ผมข้ามไปกับเขา 

ขึ้นทางเท้าฟากโน้นแล้วผมก็ขอบคุณเขา แล้วต่างคนก็ต่างไป

…………….

ผมเล่าเรื่องนี้ให้ท่านอาจารย์ผู้หญิงที่บ้านฟัง 

หมายเหตุ: “ท่านอาจารย์ผู้หญิงที่บ้าน” หมายถึงภรรยาผม

ท่านอาจารย์ผู้หญิงที่บ้านบอกว่า ผมเป็นคนแก่ ใครเห็นเขาก็สงสาร เป็นเรื่องธรรมดา 

…………….

ผมเป็นคนแก่น่ะใช่ 

แต่ความแก่คงจะไม่ใช่ปัจจัยเดียว – คุณว่าไหม?

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓

๐๙:๔๗

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *