บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

อะไรกันเล่าที่ขาดหายไป

อะไรกันเล่าที่ขาดหายไป

—————————

พระพุทธศาสนาคือคำสอนของพระพุทธเจ้า ท่านประมวลไว้ในพระไตรปิฎก

แต่ในพระไตรปิฎกนั้นไม่ได้มีเฉพาะคำตรัสของพระพุทธเจ้า หากแต่ยังมีถ้อยคำของท่านผู้อื่นที่ท่านผู้ทำสังคายนาได้นำมาประมวลรวมไว้ด้วย และบอกไว้ชัดเจนว่า เรื่องไหนข้อความตอนไหนเป็นถ้อยคำของใคร

พระไตรปิฎกของพระพุทธศาสนาเถรวาท-คือพระพุทธศาสนาที่นับถือแพร่หลายเป็นปึกแผ่นอยู่ในเมืองไทยของเรา-บันทึกไว้เป็นภาษาบาลี 

และนี่เองคือเหตุผลที่แท้จริงของการที่พวกเราเรียนบาลีกัน- 

คือเรียนบาลีก็เพื่อเข้าถึงพระไตรปิฎก

………………….

พระไตรปิฎกหรือประมวลคำสอนนั้นเปรียบเหมือนคลังมหาสมบัติ

พระภิกษุสามเณรผู้บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนาอยู่ในฐานะเป็นผู้เฝ้าคลังมหาสมบัตินั้น 

พระภิกษุสามเณรจึงมีภาระที่จะต้องสำรวจตรวจตราว่า ในคลังนั้นท่านเก็บสมบัติชิ้นไหนไว้ตรงไหนบ้าง สมบัติแต่ละชิ้นมีค่ามีราคามีคุณแค่ไหนอย่างไร เป็นหน้าที่ที่จะต้องศึกษาเรียนรู้ให้ทั่วถึงถูกถ้วน 

สามารถเชยชมชิมรสแห่งสมบัติเหล่านั้นได้ด้วยตัวเองด้วย

และสามารถนำสมบัติเหล่านั้นออกมาแสดงให้ผู้ประสงค์จะได้เชยชมได้รู้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้งด้วย 

ผู้จะได้เชยชมสมบัติอาจแบ่งได้เป็น ๒ จำพวก 

ขอให้ผู้เฝ้าสมบัตินำออกมาให้ชม จำพวกหนึ่ง

เข้าไปชมสมบัติด้วยตนเอง จำพวกหนึ่ง 

จำพวกแรกคือ ผู้ที่ไม่อาจจะศึกษาพระไตรปิฎกได้โดยตรง ต้องฟังหรืออ่านจากที่มีผู้นำมาบรรยายหรือแปลไว้เป็นภาษาไทย หรือภาษาของชาตินั้นๆ ที่ตนสามารถอ่านได้

จำพวกหลังคือ ผู้ที่ศึกษาภาษาบาลีจนสามารถอ่านพระไตรปิฎกเข้าใจได้ด้วยตนเอง

………………….

ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้มีหลายเรื่อง เช่น –

๑ ผู้เฝ้าสมบัติไม่ได้สำรวจตรวจตราคลังสมบัติที่ตนเฝ้าอยู่ และไม่รู้ว่าในคลังนั้นมีสมบัติอะไรบ้าง ได้แต่เฝ้าไว้เฉยๆ

๒ ผู้เฝ้าสมบัติไม่สามารถนำสมบัติในคลังออกมาแสดงให้ผู้ประสงค์จะได้เชยชมให้รู้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้งได้ ก็คือได้แต่เฝ้าไว้เฉยๆ นั่นแหละ

๓ แต่ที่อันตรายยิ่งกว่านั้นก็คือ มีผู้เอาสมบัติจากที่อื่นหรือแม้แต่สมบัติที่ตนเองประดิษฐ์ขึ้นออกมาแสดง ว่านี่คือสมบัติในคลัง โดยเข้าใจว่า-และมักอ้างว่า-ผู้คนต้องการจะได้เชยชมสมบัติแบบนั้น

๔ ฝ่ายผู้ที่สามารถเข้าไปเชยชมสมบัติได้ด้วยตนเองเล่า ก็พากันละเลยเฉยเมินไม่เข้าไปศึกษาสำรวจตรวจตราในคลัง เอาแต่ยินดีชื่นชมกันอยู่ที่หน้าประตูห้องคลังว่าท่านผู้ไหนใครผู้นั้นได้รับกุญแจวิเศษมา สามารถเปิดประตูคลังได้ ช่างเก่งแท้หนอ

………………….

ดูก่อนภราดา!

คลังยังมีอยู่

สมบัติในคลังก็ยังมีอยู่ครบ

คนเฝ้าคลังก็มีอยู่มาก

คนที่ได้กุญแจไขเข้าคลังก็มีมาก

คนที่อยากเชยชมสมบัติในคลังก็มีอยู่ทั่วทุกที่

แต่อะไรกันเล่าที่ขาดหายไป?

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

๑๐:๓๕

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *