บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

แผ่นดินพุทธรอดได้-ถ้าบริหารจัดการดี

แผ่นดินพุทธรอดได้-ถ้าบริหารจัดการดี

————————

ภาพประกอบเรื่องนี้เป็นภาพในชุดที่ผมเรียกว่า “ส่งกำลังบำรุง”

คำว่า “ส่งกำลังบำรุง” ผมเข้าใจว่าเป็นศัพท์ทางทหารโดยเฉพาะ

ถ้าพูดถึงชื่อหน่วยงาน กองทัพเขาเรียก “กรมส่งกำลังบำรุง” ต่อด้วยชื่อเหล่าทัพ เช่น กรมส่งกำลังบำรุงทหารเรือ 

กรมนี้ไม่ได้มีหน้าที่แบกขนอะไรเอาไปให้ทหารที่กำลังรบกันที่ไหน แต่มีหน้าที่วางแผน อำนวยการ กำกับดูแลว่าทหารที่กำลังออกไปรบกันหรือออกไปปฏิบัติภารกิจที่ไหนๆ นั้นควรจะต้องมีอะไร ต้องใช้อะไรบ้าง และควรจะเป็นหน้าที่ของกรมกองไหนเป็นผู้จัดหาอย่างนี้เป็นต้น 

เรียกตามภาษาชาวบ้านๆ ก็ว่าเป็นฝ่ายออกหัวคิดวางแผน แต่เวลาจะขนปืนขนกระสุนดินดำเอาไปยิงกัน หรือขนเสบียงอาหารเอาไปเลี้ยงกัน ก็จะมีอีกพวกหนึ่งเข้ามาทำหน้าที่

ว่ากันสั้นๆ ง่ายๆ แค่นี้ก่อน

————

เมื่อผมคิดพิมพ์หนังสือแจกเป็นธรรมทาน ผมก็ออกหัวคิดทำต้นฉบับหนังสือ 

ญาติมิตรที่รู้ข่าว ใครพอสะดวกและพอมีกำลังก็ช่วยกันออกเงินค่าพิมพ์ 

เงินค่าพิมพ์นี้ผมถือเคร่งว่าต้องใช้ไปเพื่อเป็นค่าพิมพ์เท่านั้น ไม่เอามาใช้เป็นค่าอื่น 

ส่วนค่าส่งผมจะรับผิดชอบเอง 

มีอยู่คราวหนึ่งซองขาดตลาด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ที่ทำการไปรษณีย์ก็ไม่มีจำหน่าย ผมก็เลยเผลอบ่นออกไป 

ญาติมิตรที่รู้แกวก็เลยจัดหาส่งมาให้ แถมส่งแสตมป์มาด้วย 

ตั้งแต่นั้นมาก็จะมีญาติมิตรประเภทหนึ่งคอยชำเลืองดูว่าในกระบวนการจัดส่งหนังสือธรรมทานนี้ควรจะใช้อะไรหรือควรจะมีอะไร เช่นตราประทับชื่อผู้ส่ง ตราประทับ “สิ่งตีพิมพ์” ซึ่งใช้ได้ถาวร ตลอดจนกาวและซองเป็นต้นซึ่งเป็นของใช้หมดเปลือง 

ท่านเหล่านั้นก็จะคอยจัดหามาสนับสนุน หรือมาส่งกำลังบำรุง หลายท่านอุตส่าห์บุกบั่นมาจนถึงบ้านผม มาช่วยบรรจุซอง ปิดจ่าหน้าซอง จนถึงมาช่วยจัดทำจ่าหน้าซองตามข้อมูลที่ผมบันทึกไว้เมื่อมีผู้ขอหนังสือมา 

ความร่วมมือเหล่านี้ทำให้งานธรรมทานดำเนินไปด้วยความสะดวกยิ่งขึ้น

ล่าสุดเมื่อวานนี้ผมก็ได้รับซองกับแสตมป์ดังที่เห็นในภาพ

ท่านผู้ส่งกำลังบำรุงรายล่าสุดนี้กำชับมาว่าไม่ต้องเอาไปโพสต์ 

แต่ผมได้เห็นแง่มุมสำคัญที่อยากจะชี้ให้ญาติมิตรช่วยกันมอง

จุดแรก เจ้าภาพเป็นพระภิกษุ ซึ่งตามฐานะแล้วท่านเป็นผู้รับ ไม่ใช่ผู้ให้ 

ความจริงแล้วขบวนการธรรมธานนี้มีพระสงฆ์สามเณรร่วมบริจาคสนับสนุนอยู่เสมอ 

จุดนี้เป็นการบอกให้รู้ว่า น้ำใจที่เป็นกุศลนั้นย่อมมีมาได้จากบุคคลทุกชนชั้น

จุดที่สอง เจ้าภาพมี ๒ รายรวมกัน รายหนึ่งเป็นเจ้าภาพซอง รายหนึ่งเป็นเจ้าภาพแสตมป์ 

จุดนี้กระตุ้นให้นึกถึงคำกลอนที่ว่า 

โบราณว่าถ้าเหลือกำลังลาก

ให้ออกปากบอกแขกช่วยแบกหาม

……..

ธรรมทานนี้ผมทำคนเดียวไม่ไหว ผมก็ออกปากบอกแขกช่วยกันแบกหามไปได้

พอมาถึงขั้นส่งกำลังบำรุง ท่านช่วยคนเดียวไม่ไหว ท่านก็ออกปากบอกเพื่อนสหธรรมิกให้ช่วยกันช่วย ก็ช่วยกันไปได้อีก

————

ผมมองไกลออกไป

บ้านเมืองเรานี้ไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากรเลย

ผมได้อ่านมานานแล้ว ตามหลักเศรษฐศาสตร์เขาแบ่ง “กรรม” ออกเป็น ๓ อย่าง คือ

ผลิตกรรม [production] การผลิต, ผลผลิต, ผลิตผล

บริโภคกรรม [consumption] การจับจ่ายใช้สอย, การกินการใช้

ปริวรรตกรรม [circulation] การหมุนเวียน, การแจกจ่าย

เราผลิตของกินของใช้ได้พอกินพอใช้ และเกินกินเกินใช้ด้วยซ้ำไป-ไม่มีปัญหา

เรามีตลาด มีแหล่งที่จำเป็นจะต้องกินต้องใช้อยู่ทั่วไปทุกฤดูกาล-ก็ไม่มีปัญหา

แต่เรามีปัญหาเรื่องปริวรรตกรรม-การแจกจ่าย

ผลผลิตของเราไปกระจุกตัวอยู่ในที่หนึ่งจนเหลือกินเหลือใช้

ในขณะที่อีกหลายๆ ที่ไม่ค่อยจะพอกินพอใช้

ไม่ใช่เพราะเราขาดแคลนทรัพยากรหรือขาดแคลนผลผลิต

แต่เป็นเพราะเราบกพร่องในการบริหารจัดการ-ที่จะทำให้ผลผลิตและทรัพยากรกระจายตัวไปอย่างทั่วถึงและเหมาะสม

พูดสั้นๆ ตรงๆ-เราขาดการบริหารจัดการที่ดี

ขาดคนบริหารจัดการที่มีความสามารถและเด็ดขาด

ทางโลกหยุดไว้แค่นี้ก่อน

————

มาดูทางธรรม-ขอพูดให้ตรงประเด็นกับที่ตั้งใจจะพูดเลยทีเดียว คือเรื่องการพิทักษ์ปกป้องพระพุทธศาสนาและปกป้องแผ่นดินไทยให้คงเป็นแผ่นดินแห่งพระพุทธศาสนา

ใครยังไม่รู้ก็ขอได้โปรดรู้เสียนะครับว่า บัดนี้แผ่นดินพุทธของเรากำลังตกอยู่ในห้วงแห่งมหาภัยจากต่างศาสนาที่มีนโยบายจะทำแผ่นดินไทยให้เป็นแผ่นดินแห่งศาสนาของเขา

มีคนเอาเรื่องนี้มาเปิดเผยกันมากแล้ว 

ใครยังไม่รู้ ไปหาศึกษาดูเสียตั้งแต่บัดนี้

ปัญหาของเราก็คือ แล้วเราจะทำอย่างไรกัน 

จะปกป้องแผ่นดินพุทธได้ด้วยวิธีการอย่างไรกัน

ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือผู้บริหาร ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบ้านเมืองหรือฝ่ายคณะสงฆ์ ท่านยังไม่ตื่น

ท่านอาจจะรู้มาบ้างแล้ว แต่ไม่เห็นความสำคัญ ไม่เห็นว่าจะเป็นปัญหา ซ้ำอาจจะเห็นในทางตรงข้าม คือเห็นว่าแผ่นดินพุทธแห่งนี้ยังสุขสงบดี และยังมีความมั่นคงตลอดกาลนานเทอญอยู่

นี่คือท่านยังไม่ตื่น

และไม่มีวี่แววว่าเมื่อไรท่านจะตื่น

เพราะฉะนั้น ก็ไม่ต้องหวังและไม่ต้องรอ

ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตต้องลงมือปกป้องกันเอง

ผมเชื่อว่าเราไม่ขาดแคลนคนเก่ง คนดี คนมีความสามารถ

คนที่มีกำลังมหาศาล ทั้งกำลังทรัพย์และกำลังคน

คนที่มีความคิดแยบยล เป็นยอดนักวางแผน

คนที่มีความสามารถในสาขาวิชาและแนวการปฏิบัติการแบบต่างๆ

ตลอดจนคนที่พร้อมจะตกนรกแทนประชาชน-ที่เรียกว่าหน่วยกล้าตาย

ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้มีอยู่มากมายในแผ่นดินพุทธแห่งนี้

แต่เราไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ไปกระจุกตัวอยู่ที่ไหนบ้าง 

และจะระดมมาปฏิบัติการพิทักษ์แผ่นดินพุทธได้อย่างไร

ก็คือเราขาดการบริหารจัดการที่ดีนั่นเอง

ขบวนการธรรมทานเล็กๆ ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้จะมองให้เป็น model ของขบวนการพิทักษ์ปกป้องแผ่นดินพุทธก็น่าจะได้

น่าจะได้ในแง่ที่ว่า-ถ้าเรามีนักบริหารจัดการที่ดี เราจะสามารถระดมสรรพกำลังออกมาพิทักษ์ปกป้องแผ่นดินผืนนี้ให้คงเป็น “ดินแดนแห่งผ้ากาสาวพัสตร์” ได้ยั่งยืนมั่นคงตลอดไป

ใครรักพระพุทธศาสนา 

ใครรักแผ่นดินพุทธ 

เริ่มคิดเริ่มทำได้แล้วครับ

สำหรับท่านที่คิดว่า-อีกไม่กี่ปีข้าพเจ้าก็จะตายแล้ว ใครอยู่ข้างหลังก็ทำกันไปเถิด

ท่านสมควรอธิษฐานเพิ่มเติมลงไปด้วยว่า-ตายแล้วอย่าได้มาเกิดบนแผ่นดินนี้อีกเป็นอันขาด 

เพราะวันนั้นจะไม่มีแผ่นดินพุทธไว้รองรับท่านอีกแล้ว

บัดนี้ ได้เวลาอันเป็นศุภมงคลฤกษ์แล้ว ผมขออนุญาตเปิดยุทธการพิทักษ์แผ่นดินพุทธ ณ บัดนี้

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๘

แชร์กับ Sunant Phramaha / Watkhok Bangpahan

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *