อ่านโคลงโลกนิติ พินิจพระธรรมบท (๒)
อ่านโคลงโลกนิติ พินิจพระธรรมบท (๒)
—————————————-
ขอนำข้อความในหนังสือ “พุทธวจนะในธรรมบท” ของท่านอาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก อันเป็นข้อความตอนเดียวกันกับที่เอาไปแต่งเป็นโคลงโลกนิติ ท่านแปลเป็นภาษาไทยและอังกฤษ มาเสนอไว้เพื่อเจริญปัญญา ดังต่อไปนี้
………………………………
(๑) โย จ วสฺสสตํ ชีเว
ทุสฺสีโล อสมาหิโต
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
สีลวนฺตสฺส ฌายิโน ฯ
ผู้มีศีล มีสมาธิ
มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปี
ของคนทุศีล ไร้สมาธิ
Though one should live a hundred years,
Without conduct and concentration,
Yet, better is a single day’s life
Of one who is moral and meditative.
(๒) โย จ วสฺสสตํ ชีเว
ทุปฺปญฺโญ อสมาหิโต
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
ปญฺญวนฺตสฺส ฌายิโน ฯ
ผู้มีปัญญา มีสมาธิ
มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปี
ของผู้ทรามปัญญา ไร้สมาธิ
Though one should live an hundred years,
Without wisdom and concentration,
Yet, better is a single day’s life
Of one who is wise and meditative.
(๓) โย จ วสฺสสตํ ชีเว
กุสีโต หีนวีริโย
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
วีริยํ อารภโต ทฬฺหํ ฯ
ผู้มีความเพียรมั่นคง
มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปี
ของผู้เกียจคร้าน ไร้ความเพียร
Though one should live a hundred years,
Sluggish and inactive
Yet, better is a single day’s life
Of one who intensely exerts himself.
(๔) โย วสฺสสตํ ชีเว
อปสฺสํ อุทยพฺพยํ
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
ปสฺสโต อุทยพฺพยํ ฯ
ผู้พิจารณาเห็นความเกิด-ดับแห่งสังขาร
มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปี
ของผู้ไม่พิจารณาเห็น
Better is a single day’s life of one
Who discerns the rise and fall of things
Than a hundred years’life of one
Who is not comprehending.
(๕) โย จ วสฺสสตํ ชีเว
อปสฺสํ อมตํ ปทํ
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
ปสฺสโต อมตํ ปทํ ฯ
ผู้พบทางอมตะ
มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปี
ของผู้ไม่พบ
Better is a single day’s life of one
Who sees the Deathless
Than a hundred years’s life of one
Who sees not that state.
(๖) โย จ วสฺสสตํ ชีเว
อปสฺสํ ธมฺมมุตฺตมํ
เอกาหํ ชีวิตํ เสยฺโย
ปสฺสโต ธมฺมมุตฺตมํ ฯ
ผู้เห็นพระธรรมอันประเสริฐ
มีชีวิตอยู่วันเดียว
ประเสริฐกว่าชีวิตตั้งร้อยปี
ของผู้ไม่เห็น
Better is a single day’s life of one
Who understands the truth sublime
Than a hundred years’s life of one
Who knows not that truth, so high.
………………………………
อ่านโดยตลอดแล้วจะเห็นว่า ต้นฉบับเดิมอันเป็นที่ “ที่มา” ของโคลงโลกนิติที่ยกมาอ้างนั้น ท่านไม่ได้พูดถึง “เด็ก” กับ “ผู้ใหญ่” แต่ประการใดทั้งสิ้น
ท่านพูดถึง “มีชีวิตอยู่ ๑๐๐ ปี” (วสฺสสตํ ชีเว) กับ “มีชีวิตอยู่วันเดียว” (เอกาหํ ชีวิตํ)
ท่านบอกว่า ระหว่าง ๑๐๐ ปี กับ ๑ วัน อะไรจะประเสริฐกว่ากัน ดูที่ตรงไหน
คนทุศีล ไร้สมาธิ ทรามปัญญา เกียจคร้าน ไร้ความเพียร ไม่เห็นความเกิดดับแห่งสังขาร ไม่พบทางอมตะ ไม่เห็นพระธรรมอันประเสริฐ
แบบนี้ อยู่ไป ๑๐๐ ปีก็ไร้สาระ
คนมีศีล มีสมาธิ มีปัญญา มีความบากบั่น มีความเพียร เห็นความเกิดดับแห่งสังขาร พบทางอมตะ เห็นพระธรรมอันประเสริฐ
แบบนี้ มีชีวิตอยู่วันเดียวก็ประเสริฐ
จะเห็นชัดว่า ไม่มีเด็ก ไม่มีผู้ใหญ่
มีแต่คนมีคุณธรรมหรือไม่มีคุณธรรม
ผู้ใหญ่อยู่มา ๑๐๐ ปี ไม่เคยมีคุณธรรมที่ว่านั่นเลย ๑๐๐ ปีของเขาก็ไร้สาระ
แต่ผู้ใหญ่คนเดียวกันนั่นแหละ วันสุดท้ายที่จะตาย เขาเกิดมีคุณธรรมที่ว่านั้นขึ้นมา วันสุดท้ายวันเดียวของเขาก็เป็นชีวิตที่ประเสริฐกว่า ๑๐๐ ปีที่ผ่านมา
“ชีวิตร้อยปี” ไม่ได้แปลว่าคือ “ผู้ใหญ่” “ชีวิตวันเดียว” ก็ไม่ได้หมายถึง “เด็ก” อย่างที่ผู้แต่งโคลงโลกนิติเอาไปแปลง
เวลานี้เหมือนกับจะพยายามตั้งหัวข้อโต้วาทีกันว่า “ระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก ใครดีกว่ากัน”
ไปๆ มาๆ กลายเป็นจับผู้ใหญ่กับเด็กมาชนกัน
ซึ่งไม่ใช่ประเด็นหรือไม่ตรงประเด็นที่จะอ้างโคลงโลกนิติดังกล่าวนั้น ยิ่งถ้าตามไปดูในคัมภีร์ที่มาด้วยแล้ว ต้องบอกว่าผิดประเด็นไปเลย
………….
ตอนหน้า: ถ้าไม่ใช่เรื่องระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก แล้วประเด็นอยู่ตรงไหน
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๓
๑๔:๑๖
…………………………….
…………………………….