ยุวกาชาด (บาลีวันละคำ 4,769)

ยุวกาชาด
เผื่อเด็กรุ่นใหม่จะไม่รู้จักคำนี้
อ่านว่า ยุ-วะ-กา-ชาด
ประกอบด้วยคำว่า ยุว + กา + ชาด
(๑) “ยุว”
อ่านว่า ยุ-วะ รากศัพท์มาจาก ยุ (ธาตุ = ปะปน, ผสม) + อ (อะ) ปัจจัย แผลง อุ ที่ ยุ เป็น โอ แปลง โอ เป็น อุว
: ยุ > โย > ยุว + อ = ยุว แปลตามศัพท์ว่า “ผู้ปะปนกัน” คือมีลักษณะผสมกันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ หรือพ้นจากวัยเด็ก แต่ยังไม่เข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ความหมายก็คือ คนหนุ่มคนสาว (a youth)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ยุว-, ยุวา, ยุวาน : (คำนาม) ชายหนุ่ม. (คำวิเศษณ์) หนุ่ม, รุ่น. (ป.; ส. ยุวนฺ, ยุวานก).”
(๒) “กา”
เป็นคำไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “กา” ไว้ 5 คำ ขอยกมาเฉพาะ “กา ๕” ซึ่งมีความหมายตรงกับ “กา” ในคำว่า “อนุกาชาด” ดังนี้ –
“กา ๕ : (คำกริยา) ทำเครื่องหมายเป็นรูปกากบาท, ทำเครื่องหมายไว้ให้สังเกตได้ เช่น ดูเฉพาะที่กาไว้.”
คำว่า “กา” ที่หมายถึง “ทำเครื่องหมายเป็นรูปกากบาท” ก็กร่อนมาจาก “กากบาท” นั่นเอง
คำว่า “กากบาท” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กากบาท : ชื่อเครื่องหมายอย่างตีนกา มีรูป + หรือ x; ใช้ + เป็นเครื่องหมายวรรณยุกต์บอกเสียงจัตวา”
(๓) “ชาด”
เป็นคำไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ดังนี้ –
“ชาด : (คำนาม) วัตถุสีแดงสดชนิดหนึ่ง เป็นผงก็มี เป็นก้อนก็มี ใช้ทำยาไทยหรือประสมกับน้ำมันสำหรับประทับตราหรือทาสิ่งของ. (คำวิเศษณ์) สีแดงสดอย่างหนึ่ง เรียกว่า สีแดงชาด.”
การประสมคำ :
๑ กา + ชาด = กาชาด แปลตามศัพท์ว่า “ทำเครื่องหมายสีแดงลงไป”
“ทำเครื่องหมาย” = กา
“สีแดง” = ชาด
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“กาชาด : (คำนาม) เครื่องหมายรูปกากบาท (+) สีแดงชาดบนพื้นขาว เป็นเครื่องหมายกาชาดสากล.”
๒ ยุว + กาชาด = ยุวกาชาด แปลว่า “คนรุ่นหนุ่มสาวที่มีกากบาทสีแดงเป็นเครื่องหมาย”
หมายเหตุ: คำแปล “กาชาด” และ “ยุวกาชาด” ที่แสดงไว้นั้น เป็นการแปลตามที่ – “ต้องการจะแปล” เท่านั้น
คำเช่นนี้เราพูดกันเป็นคำไทยจนเข้าใจลงตัวตรงกันหมดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องแปล แต่ถ้ามีใครเกิดอยากรู้ “ต้องการจะแปล” ขึ้นมา ก็แปลได้ตามที่แปลไว้นั้น และอาจแปลยักเยื้องเป็นอย่างอื่นอีกก็ได้
คำว่า “ยุวกาชาด” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ :
เอกสารของสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน กล่าวถึงประวัติการก่อตั้ง “ยุวกาชาด” ไว้ตอนหนึ่ง ดังนี้ –

…………..
ในปี พ.ศ. 2462 หลักจากที่ประเทศไทยได้สมัครเป็นสมาชิกกับสันนิบาตสภากาชาด (ปัจจุบันเรียกว่าสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ) แล้วปี พ.ศ.2464 ได้มีการประชุมของสันนิบาตสภากาชาด โดยที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนะว่า “สภากาชาดทุกชาติควรจัดตั้งกาชาดสำหรับเด็กเพื่อฝึกอบรมเยาวชนรู้จักการกินดีอยู่ดี รักษาสุขภาพอนามัย มีความเมตตาสงสารเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ว่าชาติ ศาสนาใด ๆ มีศรัทธาเสียสละและบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมโดยจัดกิจกรรมและดำเนินการให้สอดคล้องกับระบบการศึกษาของแต่ละประเทศ”
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ยุวกาชาดจึงถือกำเนิดขึ้นด้วยวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก คือ Education For Peace & Good Health, Good Service, International Friendship โดยใช้ชื่อว่า Junior Red Cross รับสมัครเด็กชาย – หญิง ที่มีอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าเป็นสมาชิก
…………..
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ที่คำว่า “ยุวกาชาดไทย” (อ่านเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 เวลา 20:30 น.) กล่าวถึง “ยุวกาชาด” ไว้ดังนี้ –
…………..
ยุวกาชาดไทย : (อังกฤษ: The Thai Red Cross Youth movement) คือบรรดาเยาวชนที่ดำเนินกิจกรรมในการอุทิศตน และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในด้านต่างๆ โดยการรับเอาเฉพาะกลุ่มยุวชน และเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 8 – 25 ปี ทั้งชายและหญิง
กิจการยุวกาชาดในประเทศไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2465 ในชื่อ “กองอนุสภากาชาดสยาม” โดยพระดำริของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต อุปนายกผู้อำนวยการสภากาชาดสยาม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น “อนุกาชาด” และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น “ยุวกาชาด” เมื่อปี พ.ศ. 2521
…………..
ดูก่อนภราดา!
: หนุ่มสาวอย่าดูถูกคนชรา
: แน่หรือว่าจะได้อยู่ไปจนถึงวันนั้น
#บาลีวันละคำ (4,769)
3-7-68
…………………………….
…………………………….
