เรื่องไม่ธรรมดา
เรื่องไม่ธรรมดา
—————
คณะสงฆ์ไทยจัดให้มีการศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณรที่นับว่าเป็นมาตรฐานมาแต่เดิม ๒ อย่าง คือ พระปริยัติธรรมแผนกธรรม และพระปริยัติธรรมแผนกบาลี
เรียนพระปริยัติธรรมก็คือเรียนตัวพระศาสนา
ตัวพระศาสนามี ๓ ส่วนคือ –
๑ ไม่ทำชั่วทุกชนิด
๒ ทำความดีให้มาก
๓ ทำจิตของตนให้สะอาด
สรุปสั้นๆ เรียนพระปริยัติธรรมก็คือเรียนไม่ทำทุจริต
เมื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมเปิดดำเนินการเป็นระบบ มีการจัดการศึกษา มีผู้จบการศึกษา มีผู้รับรองผลการศึกษา และมีผู้ต้องการคนที่จบการศึกษา ก็จึงเกิดความต้องการที่จะจบการศึกษา เพราะจบการศึกษาไปแล้วเกิดมีศักดิ์และสิทธิ์ขึ้นมา คนก็อยากได้ศักดิ์และสิทธิ์นั้น
ถึงกับมีการทำทุจริตเพื่อให้สอบได้
เรียกว่าทำทุจริตกันในกระบวนการเรียนไม่ทำทุจริตนั่นเลย
เมื่อมีการยกเรื่องทำทุจริตเช่นว่านั้นขึ้นมาพูดกัน ผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษาก็บอกว่า เป็นเรื่องธรรมดา โดยอธิบายว่าคนที่ยังเป็นปุถุชนก็ต้องทำทุจริตได้เป็นธรรมดา
เป็นคำอธิบายที่ใครฟังแล้วก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดาจริง
แต่ถ้าคิดให้ลึกสักหน่อยจะเห็นว่า หาใช่เรื่องธรรมดาไม่
การทำทุจริตในการสอบ มีทุกสนามสอบ มีทุกสาขาวิชาที่สอบ มีทุกระดับการสอบ มีทุกตำแหน่งที่สอบ นี่คือเรื่องธรรมดาจริงๆ ไม่มีใครปฏิเสธได้
แต่นั่นหมายถึงสาขาวิชาทั่วไป
ทำทุจริตเพื่อให้สอบได้สอบผ่านในสาขาวิชานั้นๆ
การเรียนพระปริยัติธรรมเป็นการเรียนไม่ทำทุจริต คือเรียนวิชาที่สอนคนไม่ให้ทำทุจริต
การทำทุจริตในกระบวนการเรียนที่สอนคนไม่ให้ทำทุจริต มีผู้ออกมาอธิบายว่าเป็นเรื่องธรรมดา??
เป็นคำอธิบายที่ไม่ธรรมดาจริงๆ!!
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย
๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖
๒๐:๒๕
……………………………………….
……………………………………….