บาลีวันละคำ

โมไนย (บาลีวันละคำ 4,637)

โมไนย

ไม่มีใครรู้จัก แต่มีในพจนานุกรม

อ่านว่า โม-ไน

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “โมไนย” ไว้ บอกไว้ดังนี้ – 

โมไนย : (คำนาม) ความเป็นปราชญ์, คุณธรรมของนักปราชญ์. (ป. โมเนยฺย; ส. เมาเนย).”

โมไนย” บาลีเป็น “โมเนยฺย” อ่านว่า โม-เนย-ยะ รากศัพท์มาจาก มุนิ + เณยฺย ปัจจัย

(๑) “มุนิ” อ่านว่า มุ-นิ รากศัพท์มาจาก –

(1) มุนฺ (ธาตุ = รู้; ผูก) + อิ ปัจจัย

: มุนฺ + อิ = มุนิ แปลตามศัพท์ว่า (1) “ผู้รู้ทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่น” (2) “ผู้รู้ประโยชน์ทั้งสอง” (3) “ผู้ผูกจิตของตนไว้มิให้ตกไปสู่อำนาจของราคะโทสะเป็นต้น

(2) โมน (ความรู้) + อี ปัจจัย, รัสสะ อี เป็น อิ, แผลง โอ ที่ โม-(น) เป็น อุ (โมน > มุน)

: โมน > มุน + อี = มุนี > มุนิ แปลตามศัพท์ว่า “ผู้มีความรู้หรือมีโมเนยยธรรม

มุนิ” หมายถึง ผู้บำเพ็ญพรต, ผู้ศักดิ์สิทธิ์, นักปราชญ์, คนฉลาด (a holy man, a sage, wise man)

มุนิ” ในภาษาไทยใช้เป็น “มุนิ” และ “มุนี” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

มุนิ, มุนี : (คำนาม) นักปราชญ์, ฤษี, พระสงฆ์. (ป., ส.).”

(๒) มุนิ + เณยฺย ปัจจัย, ลบ ที่ เยฺย (เณยฺย > เอยฺย), ลบสระหน้า คือ อิ ที่ –นิ แล้วแผลง อุ ที่ มุ– เป็น โอ (มุนิ > มุน > โมน)

: มุนิ > มุน > โมน + เณยฺย > เอยฺย : โมน + เอยฺย = โมเนยฺย แปลตามศัพท์ว่า “ความเป็นมุนี” “ความเป็นนักปราชญ์” 

โมเนยฺย” ใช้ในภาษาไทยเป็น “โมไนย” 

ขยายความ :

โมไนย” = ความเป็นปราชญ์, คุณธรรมของนักปราชญ์ เป็นคำที่มีความหมายดี นักตั้งชื่อทั้งหลายจะขึ้นทะเบียนไว้อีกสักชื่อหนึ่ง ก็ไม่น่าจะเสียหายแต่ประการใด

แถมให้อีกหน่อยหนึ่งว่า ในหมู่นักศึกษาธรรมจะรู้จักคำว่า “โมไนย” กันดี ในคำเต็ม ๆ ว่า “โมไนยปฏิปทา” (โม-ไน-ยะ-ปะ-ติ-ปะ-ทา) หมายถึง หลักปฏิบัติเพื่อบรรลุความเป็นนักปราชญ์ แต่ผลเลิศหมายถึงหลักปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ในคัมภีร์กล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ชาวโลกเกิดโกลาหล (ความตื่นเต้น) ว่ามี 5 อย่าง คือ –

…………..

1 กัปปโกลาหล เกิดก่อนโลกแตกแสนปี

2 จักกวัตติโกลาหล เกิดก่อนมีพระเจ้าจักรพรรดิร้อยปี

3 พุทธโกลาหล เกิดก่อนพระพุทธเจ้าจะอุบัติพันปี

4 มงคลโกลาหล เกิดก่อนพระพุทธเจ้าตรัสเรื่องมงคลสิบสองปี

5 โมเนยยโกลาหล เกิดก่อนพระพุทธเจ้าตรัสโมไนยปฏิปทา (หลักปฏิบัติของนักปราชญ์) เจ็ดปี

ที่มา: ปรมัตถโชติกา ขุททกปาฐวัณณนา หน้า 161-162

…………..

อ่านภาษาไทยที่พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลชุด 91 เล่ม เล่ม 39 หน้า 165-166

หรือที่ลิงก์ข้างล่างนี้ –

…………..

https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=5&p=3#%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%B5_%E0%B9%95

…………..

จะเห็นว่า 1 ใน 5 ของโกลาหล คือโกลาหลเรื่อง “โมไนยปฏิปทา” แสดงให้เห็นว่า “โมไนยปฏิปทา” เป็นเรื่องสำคัญมากเรื่องหนึ่งในพระพุทธศาสนา

นักเรียนบาลีท่านใดมีอุตสาหะนำเรื่อง “โมไนยปฏิปทา” มาอธิบายขยายความเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักกันในสังคมไทย แบบเดียวกับที่เรารู้จักเรื่องมงคลสูตรซึ่งก็เป็น 1 ในโกลาหล ก็จะเป็นมหากุศลควรแก่การอนุโมทนายิ่งนัก เพราะเรียนบาลีก็เพื่อจะมาทำงานเช่นนี้แล

แต่การเรียนบาลีในเมืองไทยเรานี้ เป็นทั้ง “มีเสน่ห์” เป็นทั้ง “หมดสนุก” เป็นทั้ง “มืดสนิท”

“มีเสน่ห์” ตรงที่มีคนสนับสนุนส่งเสริมการเรียนอย่างคึกคักเข้มแข็งชนิดที่ไม่มีชาติไหนในโลกเทียบได้ ใกล้ประกาศผลสอบแต่ละปีเป็นที่ตื่นเต้นโกลาหลว่าปีนี้จะมีพระภิกษุสอบประโยค 9 ได้กี่รูป จะมีสามเณรนาคหลวงกี่รูป จะมีแม่ชีและฆราวาสสอบบาลีศึกษา 9 ได้กี่คน

“หมดสนุก” ตรงที่มีแต่คนวางเฉย ไม่มีใครสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้สอบได้นำความรู้บาลีไปศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎก

“มืดสนิท” ตรงที่-วุฒิ ศักดิ์ และสิทธิ์ อันเกิดจากการสอบได้นั้น เรามองเห็นช่องทางที่จะเอาไปใช้ประโยชน์ได้สารพัด ยกเว้นเรื่องเดียวที่เรามองไม่เห็น คือช่องทางใช้ความรู้บาลีไปศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎก-อันเป็นแหล่งเดียวในโลกที่ใช้ภาษาบาลี

…………..

ดูก่อนภราดา!

: มีทางให้เดิน ปลื้มใจ

: ไม่มีคนเดิน ปวดใจ

#บาลีวันละคำ (4,637)

21-2-68 

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *