วรนุช (บาลีวันละคำ 4,682)

วรนุช
ร่วมระลึกถึง ผ่องศรี วรนุช
อ่านว่า วอ-ระ-นุด
แยกศัพท์เท่าที่ตาเห็นเป็น วร + นุช
(๑) “วร”
บาลีอ่านว่า วะ-ระ รากศัพท์มาจาก วรฺ (ธาต = ปรารถนา) + อ (อะ) ปัจจัย
: วรฺ + อ = วร แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะอันบุคคลปรารถนา” เป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า ประเสริฐ, วิเศษ, เลิศ, อริยะ (excellent, splendid, best, noble) เป็นคำนาม (ปุงลิงค์; นปุงสกลิงค์) แปลว่า ความปรารถนา, พร, ความกรุณา (wish, boon, favour)
ในภาษาไทย “วร” คงใช้เป็น “วร” ก็มี แปลง ว เป็น พ ตามหลักนิยมของไทยเป็น “พร” ก็มี พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “วร” และ “พร” บอกไว้ว่า –
(1) วร– [วะระ-, วอระ-] : (คำนาม) พร; ของขวัญ. (คำวิเศษณ์) ยอดเยี่ยม, ประเสริฐ, เลิศ. (ป., ส.).
(2) พร [พอน] : (คำนาม) คำแสดงความปรารถนาให้ประสบสิ่งที่เป็นสิริมงคล เช่น ให้พร ถวายพระพร, สิ่งที่ขอเลือกเอาตามประสงค์ เช่น ขอพร. (ป. วร).
ขยายความแทรก :
เป็นที่รู้กันในหมู่คนไทยที่รู้หลักภาษาบาลีว่า ในภาษาบาลี คำขยายหรือที่เรียกเป็นคำศัพท์ว่า “คำวิเศษณ์” (ไวยากรณ์บาลีเรียก “วิเสสนะ”) ต้องอยู่ข้างหน้าคำที่ถูกขยาย (ภาษาไวยากรณ์บาลีเรียกว่า “วิเสสนบุพบท” = บทที่มีคำขยายอยู่หน้า) เช่นคำว่า “วร” ที่กำลังพูดถึงในที่นี้เป็นคำวิเศษณ์ ก็อยู่ข้างหน้าคำนามที่ถูกขยาย เช่น –
วรชายา = ภรรยาที่ประเสริฐ
วรดนู = หญิงที่ประเสริฐ คือหญิงงาม
วรปัญญ์ = ผู้มีปัญญาเลิศ
วราวุธ = อาวุธอย่างประเสริฐ
แต่หลักที่คนส่วนมากไม่ทราบก็คือ คำขยายในภาษาบาลีที่อยู่หลังคำที่ถูกขยาย (ตรงกันข้ามกับที่เข้าใจกัน) ก็มี โดยเฉพาะคำว่า “วร” ที่อยู่หลังคำที่ถูกขยายก็อย่างเช่น –
ชินวร = พระชินเจ้าผู้ประเสริฐ เป็นคำที่ใช้เรียกพระพุทธเจ้า (the noble victor) คำนี้คือที่เราใช้ในภาษาไทยและอ่านว่า ชิน-นะ-วอน
ธมฺมวร = ธรรมอันประเสริฐ (the best norm)
นครวร = อริยนคร (the noble city)
รตนวร = แก้วอันเลิศ (the best of gems)
ราชวร = พระราชาที่มีพระนามกระเดื่อง (famous king)
ลักษณะเช่นนี้ภาษาไวยากรณ์บาลีเรียกว่า “วิเสสนุตรบท” = บทที่มีคำขยายอยู่หลัง โดยเฉพาะบทที่มีคำว่า “วร” เป็นคำขยายอยู่หลังเช่นนี้จะพบได้ทั่วไปในคัมภีร์บาลี
(๒) “นุช”
อ่านว่า นุด พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“นุช : (คำที่ใช้ในบทกลอน; ตัดมาจาก อนุช) (คำนาม) น้อง (โดยมากใช้แก่ผู้หญิง).”
ตามพจนานุกรมฯ “นุช” ตัดมาจาก “อนุช”
“อนุช” บาลีอ่านว่า อะ-นุ-ชะ ประกอบขึ้นจาก อนุ + ช
(ก) “อนุ” อ่านว่า อะ-นุ เป็นคำอุปสรรค มีความหมายว่า –
(1) ภายหลัง, ข้างหลัง (after, behind)
(2) ไปยัง, ตรงไปยังเป้าหมาย, ดำเนินต่อไป, ข้ามไปยัง, ข้างหน้า (for, towards an aim, on to, over to, forward)
นักเรียนบาลีท่องกันมาว่า “อนุ = น้อย, ภายหลัง, ตาม”
(ข) “ช” อ่านว่า ชะ รากศัพท์มาจาก ชนฺ (ธาตุ = เกิด) + กฺวิ ปัจจัย, ลบ นฺ ที่สุดธาตุและ กวิ
: ชนฺ + กฺวิ = ชนกฺวิ > ชน > ช แปลตามศัพท์ว่า “(สิ่งที่) เกิด–”
ขยายความแทรก :
“ช” คำเดียวแปลว่า “เกิด” โดยปกติแล้วจะไม่ใช้เดี่ยว ๆ คือจะมีแต่คำว่า “ช” ตัวเดียวไม่ได้ จะต้องมีคำอื่นอยู่ข้างหน้า หรือเป็นคำที่ใช้ต่อท้ายคำอื่น จึงจะแปลว่า “เกิด” ได้ เช่น –
“วาริช” แปลว่า “สิ่งที่เกิดในน้ำ” “สิ่งที่เกิดจากน้ำ” หรือ “สิ่งที่เกิดเพราะน้ำ” แล้วแต่ว่าคำไหนจะมีความกลมกลืนดีกว่ากัน
“ภูริช” แปลว่า (1) “เกิดจากแผ่นดิน” (2) “เกิดจากปัญญา”
อนุ + ช = อนุช ภาษาไทยอ่านว่า อะ-นุด แปลตามศัพท์ว่า “ผู้เกิดภายหลัง” (born after)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้เป็น “อนุช” และ “อนุชา” บอกไว้ดังนี้ –
(1) อนุช : (คำนาม) “ผู้เกิดภายหลัง”, น้องสาว, นิยมใช้ว่า นุช. (ป., ส.).
(2) อนุชา : (คำนาม) “ผู้เกิดภายหลัง”, น้องชาย, ราชาศัพท์ใช้ว่า พระอนุชา. (ป., ส.).
พึงทราบว่า ในภาษาบาลี “อนุช” เป็นคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ คือคำขยาย (วิชาวากยสัมพันธ์เรียกว่า “วิเสสนะ”) คำนามที่ตนขยายเป็นลิงค์อะไร ก็เปลี่ยนรูปไปตามลิงค์นั้น ๆ
รูปศัพท์ “อนุช” ในบาลี ถ้าขยาย “คน” ก็หมายถึงคนนั้นเป็นผู้ชาย คือน้องชาย ถ้าเป็นน้องสาว จึงจะเป็น “อนุชา” (อนุช + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ = อนุชา)
แต่หลักนิยมในภาษาไทยตามคำนิยามของพจนานุกรมฯ ตรงกันข้าม “อนุช” คือ น้องสาว “อนุชา” คือ น้องชาย
ทำไมจึงกลับตาลปัตรเช่นนี้? เป็นหน้าที่ของผู้รักภาษาจะต้องหาเหตุผลกันต่อไป
วร + อนุช ลบ อ– ที่ อนุช
: วร + อนุช = วรอนุช > วรนุช แปลตามศัพท์ว่า “น้องผู้ประเสริฐ” = น้องผู้งามดี, น้องผู้ดีงาม, น้องผู้เป็นคนดี
ขยายความ :
“วรนุช” ที่เป็นคำทั่วไป มีที่มาและความหมายดังที่แสดงมา

ส่วน “วรนุช” ที่เป็นชื่อเฉพาะ (proper name) เช่นเป็นชื่อคน หรือเป็นนามสกุลเป็นต้น จะมีที่มาและความหมายอย่างไรย่อมเป็นไปตามเจตนาของเจ้าของชื่อหรือผู้ตั้งชื่อ
“วรนุช” เป็นนามสกุลของนักร้องลูกทุ่งหญิงชื่อดังระดับศิลปินแห่งชาติ คือ ผ่องศรี วรนุช
ผ่องศรี วรนุช เกิดเมื่อ 5 มิถุนายน พ.ศ.2482
ถึงแก่กรรมเมื่อ 6 เมษายน พ.ศ.2568
ผู้เขียนบาลีวันละคำขอน้อมคารวะและร่วมไว้อาลัยด้วยบาลีวันละคำประจำวันที่ 7 เมษายน 2568 คือคำว่า “วรนุช”
…………..
ดูก่อนภราดา!
: เราไม่อาจเกิดเป็นพี่น้องร่วมท้องกันได้ทุกคน
: แต่เราอาจรักกันเหมือนพี่น้องร่วมท้องได้ทุกคน
#บาลีวันละคำ (4,682)
7-4-68
…………………………….
…………………………….