บาลีวันละคำ

ประสาทพร (บาลีวันละคำ 4,829)

ประสาทพร

บางทีก็พูดกันเพลินไป

อ่านว่า ปฺระ-สาด-พอน 

ประกอบด้วยคำว่า ประสาท + พร 

(๑) “ประสาท” 

บาลีเป็น “ปสาท” (ปะ-สา-ทะ) รากศัพท์มาจาก (คำอุปสรรค = ทั่วไป, ข้างหน้า, ก่อน, ออก) + สทฺ (ธาตุ = ยินดี, ชื่นชม; เลื่อมใส, ผ่องใส) + ปัจจัย, ลบ , ทีฆะ อะ ต้นธาตุเป็น อา (สทฺ > สาท)

: + สทฺ = ปสทฺ + = ปสทณ > ปสท > ปสาท แปลตามศัพท์ว่า (1) “ภาวะที่ทำให้ยินดีโดยพิเศษ” (2) “ภาวะเป็นเครื่องผ่องใสแห่งนัยน์ตา” (คือทำให้ตาผ่องใส)

ปสาท” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –

(1) ความชัด, ความแจ่มใส, ความบริสุทธิ์ (clearness, brightness, purity) 

(2) ความดีใจ, ความพอใจ, ความสุขหรือความครึ้มใจ, ความดี, ศรัทธา (joy, satisfaction, happy or good mind, virtue, faith)

(3) การพักผ่อน, ความสำรวมใจ, ความสงบเยือกเย็น, ความราบรื่นไม่ไหวหวั่น (repose, composure, allayment, serenity)

บาลี “ปสาท” สันสกฤตเป็น “ปฺรสาท

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกความหมายไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

ปฺรสาท น. ‘ประสาท,’ ความแจ่มใสหรือเข้าใจง่าย, ความสะอาด, ความสุกใส; ความอนุเคราะห์, ความกรุณา; ความสุข, ความอยู่เย็นเปนสุข; วสังกรม, ประศานติหรือความสงบอารมณ์; กาพย์อันรจนาตามพฤตติ์ที่งามแต่ง่าย; ไวศัทย์, ความเข้าใจง่าย; สังโยค, สมาคม; อาหารอันพึงบูชาแต่ประติมาหรือบูชาครู; clearness, cleanliness, brightness; favour, kindness; well-being, welfare; composure, calmness of mind; poetry written in an elegant but easy style; perspicuity; connection, association; food offered to an idol or to a spiritual teacher.”

ในที่นี้ภาษาไทยใช้อิงสันสกฤตเป็น “ประสาท” 

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บคำว่า “ประสาท” ไว้หลายคำ บอกไว้ดังนี้ –

(1) ประสาท ๑, ประสาท– ๑ : (คำนาม) ส่วนของร่างกาย มีลักษณะคล้ายเส้นใย มีหน้าที่นําคําสั่งและความรู้สึกไปสู่หรือออกจากสมองหรืออวัยวะส่วนอื่นของร่างกาย, โดยปริยายหมายความว่า จิตใจ, ความรู้สึก. (ส. ปฺรสาท; ป. ปสาท).

(2) ประสาท ๒, ประสาท– ๒ : (คำนาม) ความเลื่อมใส. (ส. ปฺรสาท; ป. ปสาท).

(3) ประสาท ๓ : (คำนาม) ยินดีให้, โปรดให้, เช่น ประสาทปริญญา ประสาทพร. (ส. ปฺรสาท; ป. ปสาท).

ในที่นี้ “ประสาท” ใช้ในความหมายตามข้อ (3) 

(๒) “พร” 

บาลีเป็น “วร” อ่านว่า วะ-ระ รากศัพท์มาจาก วรฺ (ธาต = ปรารถนา) + (อะ) ปัจจัย

: วรฺ + = วร แปลตามศัพท์ว่า “ภาวะอันบุคคลปรารถนา” เป็นคำวิเศษณ์ แปลว่า ประเสริฐ, วิเศษ, เลิศ, อริยะ (excellent, splendid, best, noble) เป็นคำนาม (ปุงลิงค์; นปุงสกลิงค์) แปลว่า ความปรารถนา, พร, ความกรุณา (wish, boon, favour)

ในภาษาไทย “วร” คงใช้เป็น “วร” ก็มี แปลง เป็น ตามหลักนิยมของไทยเป็น “พร” ก็มี พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 เก็บไว้ทั้ง “วร” และ “พร” บอกไว้ว่า – 

(1) วร– [วะระ-, วอระ-] : (คำนาม) พร; ของขวัญ. (คำวิเศษณ์) ยอดเยี่ยม, ประเสริฐ, เลิศ. (ป., ส.).

(2) พร [พอน] : (คำนาม) คำแสดงความปรารถนาให้ประสบสิ่งที่เป็นสิริมงคล เช่น ให้พร ถวายพระพร, สิ่งที่ขอเลือกเอาตามประสงค์ เช่น ขอพร. (ป. วร).

ประสาท + พร = ประสาทพร (ปฺระ-สาด-พอน) เป็นคำประสมแบบไทย แปลจากหน้าไปหลังว่า “ให้พร” 

อภิปรายขยายความ :

ประสาท” ที่หมายถึง “ส่วนของร่างกาย มีลักษณะคล้ายเส้นใย” และที่หมายถึง “ความเลื่อมใส” เป็นความหมายตามบาลีสันสกฤต ส่วน “ประสาท” ที่หมายถึง “ยินดีให้, โปรดให้” เช่นในคำว่า “ประสาทพร” นี้ เป็นความหมายที่กลายไปในภาษาไทย 

แต่อย่างไรก็ตาม ความหมายของ “ปฺรสาท” ในสันสกฤตตามที่ สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ มีอยู่ 2 คำที่ว่า ความอนุเคราะห์, ความกรุณา แปลเป็นอังกฤษว่า favour, kindness (ดูข้างต้น) ก็อาจตีความให้หมายถึง “ยินดีให้, โปรดให้” ด้วยก็ได้ เพราะฉะนั้น จะว่าความหมายของ “ประสาท” ที่หมายถึง “ยินดีให้, โปรดให้” เป็นความหมายที่กลายไปในภาษาไทย ก็คงพูดได้ไม่เต็มปาก

เวลาพูดถึงคำว่า “ประสาทพร” ถ้าไม่พูดเพลินไปท่าเดียว หากแต่คิดคำนึงถึงความหมายตามถ้อยคำไปด้วย ก็จะช่วยให้เกิดปัญญาไปด้วยในตัว

คำว่า “ประสาทพร” มีความหมายว่า “ให้พร” แต่มีนัยที่แฝงอยู่ว่า ผู้ให้พรนั้นไม่ใช่คนธรรมดา แต่มักเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเป็นผู้อยู่ในฐานะสูงศักดิ์กว่าผู้รับพร

ในพิธีมงคลสมรส มีสำนวนเก่าที่ใช้ในการบรรยายลำดับพิธีตอนหนึ่งว่า “หลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร” คำนี้คงมุ่งถึง “พร” ที่พระสงฆ์ “ประสาท” ให้ในระหว่างพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพรที่บรรดาญาติผู้ใหญ่ประสาทให้คู่บ่าวสาว

ถ้าคนเสมอกันเช่นเพื่อนฝูงมิตรสหายหรือคนที่อายุน้อยกว่าอวยพรให้ คงใช้คำว่า “ประสาทพร” ไม่ได้

ขอเชิญชวนท่านผู้รู้ทั้งหลายโปรดพิจารณาด้วยเถิด

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ประพฤติความสัตย์สุจริต 

: เป็นพรที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้วในตัว

#บาลีวันละคำ (4,829)

1-9-68

…………………………….

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

…………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้