บาลีวันละคำ

ชาตะ – มรณะ (บาลีวันละคำ 903)

ชาตะ – มรณะ

คำที่จับคู่ผิด

ที่รูปของผู้ตายที่ตั้งในงานศพ หรือที่ด้านหน้าของที่บรรจุอัฐิ นิยมเขียนข้อความบอกวันเดือนปีที่เกิดและตาย เช่น –

——————————–

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

ชาตะ ๒๐ มิถุนายน ๒๔๘๘

มรณะ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๘๘

——————————-

ชาตะ” (ชา-ตะ) คือ เกิด

มรณะ” (มะ-ระ-นะ) คือ ตาย

ผู้รู้ภาษาบาลีย่อมจะเข้าใจได้ว่า ชาตะมรณะ เป็นคำบาลีที่จับคู่ผิดกาล (tense) กล่าวคือ –

ชาตะ” มาจาก ชนฺ (ธาตุ = เกิด) + ปัจจัยอดีตกาล, แปลง ชนฺ เป็น ชา

: ชนฺ > ชา + = ชาต > ชาตะ แปลว่า “เกิดแล้ว” = การเกิดได้มีขึ้นเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่กำลังเกิด หรือจักเกิด

มรณะ” มาจาก มรฺ (ธาตุ = ตาย) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), แปลง เป็น

: มรฺ + ยุ > อน = มรน > มรณ (มะ-ระ-นะ) แปลว่า “ความตาย” = เป็นการพูดลอยๆ ไม่ระบุกาล (ตายแล้ว กำลังตาย จักตาย)

ถ้าจะใช้คำให้ตรงข้อเท็จจริงและเข้าชุดกับ “ชาตะเกิดแล้วมรณะ จะต้องเป็น “มตะ” (มะ-ตะ) ซึ่งมาจาก มรฺ + ปัจจัย, ลบ –รฺ ที่สุดธาตุ

: มรฺ > + = มต > มตะ แปลว่า “ตายแล้ว” = การตายได้มีขึ้นเรียบร้อบแล้ว ไม่ใช่กำลังตาย หรือจักตาย

สรุปว่า ชาตะ ต้องจับคู่กับ มตะ :

ชาตะมตะ

ไม่ใช่ “ชาตะมรณะ

: การที่จะไม่ตายมีวิธีเดียว คือไม่เกิด

#บาลีวันละคำ (903)

7-11-57

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *