บาลีวันละคำ

ทีปัญชลี (บาลีวันละคำ 2,877)

ทีปัญชลี

แปลว่า “พนมเทียน”

อ่านว่า ที-ปัน-ชะ-ลี

ประกอบด้วยคำว่า ทีป + อัญชลี

(๑) “ทีป

อ่านว่า ที-ปะ รากศัพท์มาจาก ทีปฺ (ธาตุ = สว่าง, รุ่งเรือง) + ปัจจัย, ลบ

: ทีปฺ + = ทีปณ > ทีป (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า “ผู้สว่าง” หมายถึง ดวงประทีป, โคมไฟ, ตะเกียง (a lamp)

ทีป” ในบาลีนอกจากหมายถึงประทีปหรือตะเกียงแล้ว ยังใช้ในความหมายอื่นอีก (รากศัพท์อาจต่างกัน) ดังนี้ –

(1) เกาะ, ทวีป (an island, continent)

(2) พื้นดิน, ดินแข็ง (terra firma)

(3) ฐานที่มั่นคง, สถานที่สำหรับอาศัย, สรณะ, ที่พึ่ง (solid foundation, resting-place, shelter, refuge)

(4) รถที่หุ้มด้วยหนังเสือดำ (a car covered with a panther’s skin)

(5) ความปลอดพ้นจากทุกข์ภัย, นิพพาน (salvation)

ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

(1) ทีป ๑, ทีปะ ๑ : (คำแบบ) (คำนาม) แสงไฟ. (ป., ส.).

(2) ทีป ๒, ทีปะ ๒ : (คำแบบ) (คำนาม) เกาะ. (ป.; ส. ทฺวีป).

แถม :

ในบาลี นอกจากเป็น “ทีป” แล้ว ยังเป็น “ปทีป” อีกรูปหนึ่ง

ปทีป” (ปะ-ที-ปะ) รากศัพท์มาจาก (คำอุปสรรค = ทั่วไป, ข้างหน้า, ก่อน, ออก) + ทิปฺ (ธาตุ = สว่าง, รุ่งโรจน์) + ปัจจัย, ลบ , ทีฆะต้นธาตุ คือ อิ ที่ ทิ-(ปฺ) เป็น อี (ทิปฺ > ทีป)

: + ทิปฺ = ปทิปฺ + = ปทิปณ > ปทิป > ปทีป แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่สว่างไปทั่ว

ปทีป” (ปุงลิงค์) หมายถึง –

(1) แสงสว่าง (a light)

(2) ตะเกียง, โคมไฟ (a lamp)

บาลี “ปทีป” สันสกฤตเป็น “ปฺรทีป

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า

ปฺรทีป : (คำนาม) ‘ประทีป,’ โคมไฟ, ตะเกียง; a lamp.”

ปทีป” ในภาษาไทยใช้อิงสันสกฤตเป็น “ประทีป

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

ประทีป : (คำนาม) ไฟที่มีเปลวสว่าง (หมายเอาตะเกียง ไฟเทียน เป็นต้น), ตะเกียง, โคม. (ส. ปฺรทีป; ป. ปทีป).”

(๒) “อัญชลี” (อัน-ชะ-ลี)

บาลีเป็น “อญฺชลิ” (อัน-ชะ-ลิ) รากศัพท์มาจาก อญฺชฺ (ธาต = ประกาศ, เปิดเผย; ไป, เป็นไป) + อลิ ปัจจัย

: อญฺชฺ + อลิ = อญฺชลิ (ปุงลิงค์) แปลตามศัพท์ว่า (1) “กิริยาเป็นเครื่องประกาศความภักดี” (2) “กิริยาที่ประกาศความแจ่มแจ้ง” (คือประกาศความฉลาด) (3) “กิริยาที่เป็นไปเพื่อเชื่อมประสานเป็นอันเดียวกัน

ศัพท์นี้ในบาลีเป็น “อญฺชลี” (-ลี เสียงยาว) เหมือนในภาษาไทยก็มี

อญฺชลิอญฺชลี” หมายถึง การไหว้, ประคองอัญชลี, ยกมือขึ้นประนมซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการนับถือกัน, บรรจงสิบนิ้วรวมกันเข้าและยกขึ้นถึงศีรษะ (extending, stretching forth, gesture of lifting up the hands as a token of reverence, putting the ten fingers together and raising them to the head)

บาลี “อญฺชลิ” สันสกฤตก็เป็น “อญฺชลิ

สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ดังนี้ –

(สะกดตามต้นฉบับ)

อญฺชลิ : (คำนาม) การไหว้ (ด้วยหัสต์ทั้งสองอันประณม); อุทกาญชลิหรือน้ำตรวจอุทิศให้แก่ปิตฤ; appropriate salutation (with both hands placed side by side and raised to the forehead); a libation to the manes.”

ในภาษาไทยใช้เป็น “อัญชลี” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อัญชลี : (คำนาม) การประนมมือ, การไหว้, บางทีใช้เป็น อัญชุลี หรือ ใช้ละว่า ชุลี ก็มี. (ป., ส. อญฺชลิ).”

ทีป + อัญชลี = ทีปัญชลี แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งที่มีลักณะดุจกระพุ่มมือแห่งเปลวประทีป

อภิปราย :

ทีปัญชลี” เป็นคำที่ผู้เขียนบาลีวันละคำคิดขึ้นเพื่อเทียบกับนาม “พนมเทียน” โดยถอดคำต่อคำ คือ –

ทีป = เทียน

อัญชลี = พนม

ทีปัญชลี (ที-ปัน-ชะ-ลี) = พนมเทียน

มีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า –

๑ “ทีป” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงประทีป หรือ a lamp ทั่วไป แต่เล็งความหมายไปที่ “เทียน” (a candle) อันเป็นเครื่องจุดชนิดหนึ่งที่ให้เกิดแสงสว่างเช่นเดียวกับประทีปอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้หมายถึงตัวเทียนหรือเล่มเทียน แต่หมายถึงเฉพาะ “เปลวเทียน” (the flame of a candle)

๒ “อัญชลี” ในที่นี้ก็ไม่ได้หมายถึง การประนมมือ หรือมือที่กระพุ่ม หากแต่หมายถึง “ลักษณะของสิ่งที่เป็นพุ่มยอดแหลมอย่างดอกบัวตูม” (ตามคำนิยามคำว่า “พนม” ในพจนานุกรมฯ) ซึ่งในที่นี้หมายถึงเปลวเทียนที่มีลักษณะอย่าง “อัญชลี” และอัญชลีนั้นมีรูปทรงเป็นพุ่มยอดแหลมอย่างดอกบัวตูม

อธิบายดังกล่าวนี้เพื่อให้สอดคล้องกับคำอธิบายของ “พนมเทียน” เองที่เขียนไว้ในหนังสือ ศิวาราตรี (เล่ม ๑) ความว่า —

…………..

คนทั่วๆ ไปมักจะเข้าใจว่า ผมเอาคำกริยามาผสมกับคำนาม คือเอาเทียนมาใส่มือ แล้วก็พนม ไม่ใช่อย่างนั้นครับ เพราะฉะนั้นบางคนมักจะพูดล้อๆ ผมว่า นี่พนมธูปนะ คู่กับพนมเทียน แต่ความจริงพนมเทียนไม่ได้หมายความว่าเอาเทียนมาใส่มือแล้วยกขึ้นพนม หมายถึงเปลวไฟที่ติดอยู่ที่ปลายเทียน ซึ่งถ้าสังเกตจะเห็นเป็นรูปกรวยพุ่งขึ้นไป ตรงกลางป่องอวบ เขาเรียกพนมทั้งนั้น นี่คือที่มาของคำว่าพนมเทียน

…………..

“พนมเทียน” มีนามจริงว่า ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ เป็นนักเขียนนามอุโฆษ เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประจำปีพุทธศักราช 2540

“พนมเทียน” ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2563 อายุ 89 ปี

28 เมษายน 2563 ครบ 7 วัน บาลีวันละคำขอน้อมคารวะด้วยคำว่า “ทีปัญชลี” อันมีความหมายโดยประสงค์ว่า “พนมเทียน

อนึ่ง ญาติมิตรท่านใดมีลูกหลาน จะตั้งชื่อว่า “ทีปัญชลี” ผู้เขียนบาลีวันละคำย่อมยินดี ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่ประการใด

…………..

ดูก่อนภราดา!

: พนมเทียนพนมธรรม

จุดประจำอยู่กลางใจ

: เทียนจริงอาจดับไป

แต่เทียนใจอย่าดับจริง

#บาลีวันละคำ (2,877)

28-4-63

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย