อาจิณกรรม (บาลีวันละคำ 4,658)

อาจิณกรรม
อะไรควรทำอยู่เสมอ
อ่านว่า อา-จิน-นะ-กำ
ประกอบด้วยคำว่า อาจิณ + กรรม
(๑) “อาจิณ”
อ่านว่า อา-จิน ถ้ามีคำอื่นมาสมาสข้างท้าย อ่านว่า อา-จิน-นะ- (ต่อด้วยคำนั้น ๆ) เช่น “อาจิณกรรม” อ่านว่า อา-จิน-นะ-กำ (ไม่ใช่ อา-จิน-กำ)
“อาจิณ” บาลีเป็น “อาจิณฺณ” อ่านว่า อา-จิน-นะ ประกอบด้วย อา + จิณฺณ
(ก) “อา” เป็นคำอุปสรรค ไม่ใช้เดี่ยว ๆ แต่ใช้ประกอบกับคำอื่นเสมอ นักเรียนบาลีท่องจำกันมาว่า “อา = ทั่ว, ยิ่ง, กลับความ”
– อา = “ทั่ว” เช่น “อาภา” = สว่างทั่ว, สว่างไสวรอบทิศ
– อา = “ยิ่ง” เช่น “อาตาป” = ความร้อนอย่างยิ่ง
– อา = “กลับความ” หมายถึง คำเดิมมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่เมื่อมี “อา” ไปนำหน้า ความหมายกลับเป็นตรงกันข้าม เช่น –
“คม” = ไป : “อาคม” = มา
“ทาน” = ให้ : “อาทาน” = เอา, ฉวยเอา
พึงทราบว่า คำอุปสรรค “อา” นี้ เมื่อไปนำหน้าคำนามคำกริยาใด ๆ ย่อมทำให้คำนั้น ๆ มีความหมายยักเยื้องไปต่าง ๆ เป็นอเนกนัยแล
(ข) “จิณฺณ” อ่านว่า จิน-นะ รากศัพท์มาจาก จรฺ (ธาตุ = เที่ยวไป, ประพฤติ) + ต ปัจจัย, ลง อิ อาคมระหว่างธาตุกับปัจจัย (จรฺ + อิ + ต), ลบที่สุดธาตุ, แปลง ต เป็น ณฺณ
: อา + จรฺ = อาจรฺ + อิ + ต = อาจริต > อาจิต > อาจิณฺณ แปลตามศัพท์ว่า “ประพฤติทั่วถึงแล้ว” หมายถึง ปฏิบัติ, กระทำ (เป็นนิสัย) (practiced, performed, [habitually] indulged in)
“อาจิณฺณ” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อาจิณ”
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“อาจิณ, อาจิณ– : (คำวิเศษณ์) เป็นปรกติ, ติดเป็นนิสัย, เสมอ ๆ, เนือง ๆ. (ป. อาจิณฺณ; ส. อาจิรฺณ).”
(๒) “กรรม”
บาลีเป็น “กมฺม” อ่านว่า กำ-มะ สันสกฤตเป็น “กรฺม” (กระ-มะ, ก ควบ ร กลืนเสียง ระ ลงคอ) ไทยเขียนอิงสันสกฤตเป็น “กรรม”
“กมฺม” รากศัพท์มาจาก กรฺ (ธาตุ = กระทำ) + รมฺม (รำ-มะ, ปัจจัย) ลบ รฺ ที่สุดธาตุและ ร ที่ต้นปัจจัย
: กร > ก + รมฺม > มฺม : ก + มฺม = กมฺม
“กมฺม” แปลว่า การกระทำ, สิ่งที่ทำ, การงาน (the doing, deed, work) นิยมพูดทับศัพท์ว่า “กรรม”
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
(1) กรรม ๑, กรรม– ๑ : (คำนาม) (๑) การ, การกระทำ, การงาน, กิจ, เช่น พลีกรรม ต่างกรรมต่างวาระ, เป็นการดีก็ได้ ชั่วก็ได้ เช่น กุศลกรรม อกุศลกรรม.(๒) การกระทำที่ส่งผลร้ายมายังปัจจุบัน หรือซึ่งจะส่งผลร้ายต่อไปในอนาคต เช่น บัดนี้กรรมตามทันแล้ว ระวังกรรมจะตามทันนะ.(๓) บาป, เคราะห์, เช่น คนมีกรรม กรรมของฉันแท้ ๆ.(๔) ความตาย ในคำว่า ถึงแก่กรรม.
(2) กรรม ๒, กรรม– ๒ : (คำที่ใช้ในไวยากรณ์) (คำนาม) ผู้ถูกกระทำ เช่น คนกินข้าว ข้าว เป็นกรรมของกริยา กิน.
อาจิณฺณ + กมฺม = อาจิณฺณกมฺม (อา-จิน-นะ-กำ-มะ) แปลว่า “กรรมที่ทำเป็นอาจิณ” หมายถึง กรรมที่ทำอยู่เสมอ
“อาจิณฺณกมฺม” ใช้ในภาษาไทยเป็น “อาจิณกรรม” (อา-จิน-นะ-กำ)
คำว่า “อาจิณกรรม” ยังไม่ได้เก็บไว้ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
ขยายความ :
เพื่อให้เห็นภาพรวมของกรรม จะได้รู้ว่า “อาจิณกรรม” คือส่วนไหนของกรรม ขอนำคำอธิบายเรื่อง “กรรม ๑๒” ในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต มาเสนอไว้ในที่นี้ ดังนี้ –
(ปรับย่อหน้าวรรคตอนเพื่อให้อ่านง่าย)
…………..
กรรม ๑๒ : กรรมจำแนกตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการให้ผล พระอรรถกถาจารย์รวบรวมแสดงไว้ ๑๒ อย่าง คือ
หมวดที่ ๑ ว่าโดยปากกาล คือ จำแนกตามเวลาที่ให้ผล ได้แก่
๑. ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม กรรมให้ผลในปัจจุบันคือในภพนี้
๒. อุปปัชชเวทนียกรรม กรรมให้ผลในภพที่จะไปเกิด คือในภพหน้า
๓. อปราปริยเวทนียกรรม กรรมให้ผลในภพต่อ ๆ ไป
๔. อโหสิกรรม กรรมเลิกให้ผล
หมวดที่ ๒ ว่าโดยกิจ คือ จำแนกการให้ผลตามหน้าที่ ได้แก่
๕. ชนกกรรม กรรมแต่งให้เกิดหรือกรรมที่เป็นตัวนำไปเกิด
๖. อุปัตถัมภกกรรม กรรมสนับสนุน คือเข้าสนับสนุนหรือซ้ำเติมต่อจากชนกกรรม
๗. อุปปีฬกกรรม กรรมบีบคั้น คือเข้ามาบีบคั้นผลแห่งชนกกรรมและอุปัตถัมภกกรรมนั้นให้แปรเปลี่ยนทุเลาเบาลงหรือสั้นเข้า
๘. อุปฆาตกกรรม กรรมตัดรอน คือกรรมแรงฝ่ายตรงข้ามที่เข้าตัดรอนการให้ผลของกรรมสองอย่างนั้นให้ขาดหรือหยุดไปทีเดียว
หมวดที่ ๓ ว่าโดยปากทานปริยาย คือจำแนกตามลำดับความแรงในการให้ผล ได้แก่
๙. ครุกกรรม กรรมหนักให้ผลก่อน
๑๐. พหุลกรรม หรือ อาจิณณกรรม กรรมทำมากหรือกรรมชินให้ผลรองลงมา
๑๑. อาสันนกรรม กรรมจวนเจียน หรือกรรมใกล้ตาย ถ้าไม่มีสองข้อก่อนก็จะให้ผลก่อนอื่น
๑๒. กตัตตากรรม หรือ กตัตตาวาปนกรรม กรรมสักว่าทำ คือเจตนาอ่อนหรือมิใช่เจตนาอย่างนั้น ให้ผลต่อเมื่อไม่มีกรรมอื่นให้ผล
…………..
ดูก่อนภราดา!
: การให้ผลเป็นหน้าที่ของกรรม
: การลงมือทำเป็นหน้าที่ของคน
#บาลีวันละคำ (4,658)
14-3-68
…………………………….
…………………………….