ปฐมฤกษ์ (บาลีวันละคำ 3,125)
ปฐมฤกษ์
เริ่มต้นดี
อ่านว่า ปะ-ถม-มะ-เริก
ประกอบด้วยคำว่า ปฐม + ฤกษ์
(๑) “ปฐม”
บาลี (ฐ ฐาน ไม่มีเชิง) อ่านว่า ปะ-ถะ-มะ รากศัพท์มาจาก –
(1) ปฐฺ (ธาตุ = พูด, กล่าว; สวด) + อม ปัจจัย
: ปฐฺ + อม = ปฐม แปลตามศัพท์ว่า (1) “สิ่งอันเขาพูดขึ้นในเบื้องต้น” (2) “บทอันเขาสวดโดยเป็นบทที่สูงสุด”
(2) ปถฺ (ธาตุ = นับ) + อม ปัจจัย, แปลง ถฺ เป็น ฐฺ
: ปถฺ + อม = ปถม > ปฐม แปลตามศัพท์ว่า “สิ่งอันเขานับในเบื้องต้น”
“ปฐม” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) เป็นปูรณสังขยา (เลขบอกลำดับที่): ที่หนึ่ง, ขึ้นหน้าที่สุด, ก่อน (the first, foremost, former)
(2) เป็นคุณนาม: ชั้นต้น, เป็นครั้งแรก (at first, for the first time)
(3) เป็นส่วนแรกของสมาส: ครั้งแรก, เร็วๆ นี้, ใหม่ๆ, เพิ่ง (first, recently, newly, just)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปฐม, ปฐม– : (คำวิเศษณ์) ประถม, ลำดับแรก, ลำดับเบื้องต้น; ชั้นที่ ๑, เรียกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นที่ ๑ ในตระกูลจุลจอมเกล้าว่า ปฐมจุลจอมเกล้า ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ. (ป.).”
(๒) “ฤกษ์”
เป็นรูปคำสันสกฤต ตรงกับบาลีว่า “อิกฺก” (อิก-กะ)
ในบาลี “อิกฺก” แปลว่า หมี (a bear) ยังไม่พบว่ามีใช้ในความหมายเกี่ยวกับดวงดาว
อย่างไรก็ตาม สํสกฤต-ไท-อังกฤษ อภิธาน บอกไว้ว่า –
(สะกดตามต้นฉบับ)
(1) นกฺษตฺร : (คำนาม) นักษัตร, ดาวทั่วไป; ดาวในจันทรบถหรือเรือนจันทร์; มุกดาผล, ไข่มุกด์; a star in general; an asterism in the moon’s path or lunar mansion; a pearl.
(2) ฤกฺษ : (คำคุณศัพท์) อันแทงแล้ว, ตัดแล้วหรือแบ่งแล้ว; pierced, cut or divided;- (คำนาม) ดาว, นักษัตร; ภูเขาในทวีปกัลป, ที่ประทับชั่วคราวของพระราม; หมี; a star, a constellation; a mountain in the peninsula, the temporary residence of Rāma; a bear.
ปฐม + ฤกษ์ = ปฐมฤกษ์
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปฐมฤกษ์ : (คำนาม) ช่วงเวลาแรกของฤกษ์. (คำคุณศัพท์) เริ่มแรก เช่น ฉบับปฐมฤกษ์.”
อภิปรายขยายความ :
“ปฐมฤกษ์” ถ้าเทียบเป็นบาลีก็น่าจะเป็น “ปฐมอิกฺก” หรือ “ปฐมิกฺก”
คือ ปฐม = ครั้งแรก + อิกฺก = ฤกษ์ : ปฐมอิกฺก = ปฐมฤกษ์
แต่ในบาลีก็ไม่มีศัพท์เช่นนี้
ถ้าจะพูดถึง “ฤกษ์” บาลีใช้คำว่า “นกฺขตฺต” ดังภาษิตที่นักเรียนธรรมและนักเรียนบาลีรู้จักกันดี คือ –
…………..
นกฺขตฺตํ ปฏิมาเนนฺตํ
อตฺโถ พาลํ อุปจฺจคา
อตฺโถ อตฺถสฺส นกฺขตฺตํ
กึ กริสฺสนฺติ ตารกา.
ประโยชน์ได้ล่วงเลยคนโง่-
ผู้มัวถือฤกษ์อยู่
ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์เอง
ดวงดาวจักทำอะไรได้
ที่มา: นักขัตตชาดก เอกนิบาต พระไตรปิฎกเล่ม 27 ข้อ 49
…………..
ในภาษิตนี้เห็นได้ชัดว่า “ฤกษ์” แปลมาจากคำว่า “นกฺขตฺต” พูดอีกอย่างหนึ่งว่า คำว่า “นกฺขตฺต” นั่นเองแปลว่า “ฤกษ์”
พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ อธิบายความหมายของคำว่า “นกฺขตฺต” ไว้ค่อนข้างละเอียด ดังนี้ :
…………..
the stars or constellations, a conjunction of the moon with diff. constellations, a lunar mansion or the constellations of the lunar zodiac, figuring also as Names of months & determinant factors of horoscopic and other astrological observation; further a celebration of the beginning of a new month, hence any kind of festival or festivity
(ดาวหรือกลุ่มดาว, การอยู่ใกล้กันของพระจันทร์กับกลุ่มดาวต่างๆ (นักษัตรโยค), ดาวฤกษ์หรือกลุ่มดาวของจักรราศีของพระจันทร์, เรียกเป็นชื่อของเดือนต่างๆ และเป็นตัวกำหนดของการทำนายหรือส่วนที่กำหนดการสังเกตเกี่ยวกับโหราศาสตร์และดาราศาสตร์; นอกจากนี้หมายถึงการฉลองในวันขึ้นเดือนใหม่, รวมถึงการรื่นเริงหรืองานฉลองเนื่องในโอกาสใดๆ ก็ตาม)
ดูรายละเอียดที่: “นักขัตฤกษ์” บาลีวันละคำ (989) 1-2-58
…………..
ภาษาไทยเรามีคำว่า “นักขัตฤกษ์” ความหมายที่เข้าใจกันดีคือ งานที่จัดขึ้นตามเทศกาลต่างๆ เรียกว่างานนักขัตฤกษ์ หรือวันนักขัตฤกษ์
เป็นอันว่าในชั้นนี้พึงสันนิษฐานได้ว่า “ฤกษ์” เป็นคำสันสกฤต ตรงกับบาลีว่า “นกฺขตฺต” เราเอาบาลีกับสันสกฤตมาพูดรวมกันเป็น “นักขัตฤกษ์” แบบเดียวกับเอา “อิทฺธิ” ในบาลีมาพูดรวมกับ “ฤทธิ” ในสันสกฤต เป็น “อิทธิฤทธิ์” นั่นเอง
ดังนั้น คำว่า “ปฐมฤกษ์” ถ้าพูดเป็นบาลีก็น่าจะเป็น “ปฐมนกฺขตฺต” (ปะ-ถะ-มะ-นัก-ขัด-ตะ) แต่ก็ยังไม่พบว่ามีศัพท์เช่นนี้ในบาลี
…………..
ดูก่อนภราดา!
: ถ้าเริ่มต้นดีเท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง จริงอย่างที่ว่ากัน ก็อย่าเพิ่งดีใจ
: เพราะเริ่มต้นดีก็ยังมีโอกาสล้มเหลวอีกครึ่งหนึ่งด้วยเช่นกัน
1-1-64