บาลีวันละคำ

บรรลุพระอรหัต (บาลีวันละคำ 3,153)

บรรลุพระอรหัต

ไม่ใช่บรรลุพระอรหันต์

“พระอรหันต์” กับ “พระอรหัต” ต่างกันอย่างไร?

(๑) “อรหันต์

อ่านว่า อะ-ระ-หัน พจนานุกรมฯ บอกว่า อ่านว่า ออ-ระ-หัน ก็ได้ ผู้เขียนบาลีวันละคำขอร้องให้อ่านว่า อะ-ระ-หัน ซึ่งเป็นการอ่านถูกหลักภาษา อย่าอ่านว่า ออ-ระ-หัน ซึ่งเป็นการอ่านแบบ “รักง่าย” (คือพอใจที่จะทำอะไรแบบง่ายๆ ไม่ศึกษาเรียนรู้ถึงหลักเกณฑ์เดิม แต่กลับพากันตั้งหลักเกณฑ์ใหม่เอาเองว่า ภาษาเป็นเรื่องสมมุติ ถ้าคนส่วนใหญ่เขาอ่านกันอย่างนั้นก็ถือว่าใช้ได้ ถูกต้อง ลองนึกดูว่า ถ้าต่อไปคนรักง่ายเกิดพากันอ่านว่า ออน-หัน หรือ ออ-รอ-หัน ก็กลายเป็นใช้ได้ ถูกต้องอีก “อรหันต์” อ่านว่า ออน-หัน และ ออ-รอ-หัน จะน่าขบขันสักเพียงไร)

อรหันต์” เขียนแบบบาลีเป็น “อรหนฺต” อ่านว่า อะ-ระ-หัน-ตะ รากศัพท์มาได้หลายทาง เช่น :

(1) อรหฺ (ธาตุ = สมควร) + อนฺต ปัจจัย = อรหนฺต แปลว่า “ผู้ควรแก่การบูชาพิเศษของเทพและมนุษย์ทั้งหลาย

(2) (คำนิบาต = ไม่, ไม่ใช่) > + รห (ธาตุ = สละ, ทอดทิ้ง) = อรห + อนฺต ปัจจัย = อรหนฺต แปลว่า “ผู้อันคนดีไม่ควรทอดทิ้ง

(3) อริ (= ข้าศึก) > อร + หนฺ (ธาตุ = กำจัด) = อรหน ลบที่สุดธาตุ > อรห + อนฺต ปัจจัย = อรหนฺต แปลว่า “ผู้กำจัดข้าศึกคือกิเลสได้แล้ว

(4) อร (= ดุม กำ กง อันประกอบเข้าเป็นวงล้อ) + หนฺ (ธาตุ = กำจัด, เบียดเบียน) = อรหน ลบที่สุดธาตุ > อรห + อนฺต ปัจจัย = อรหนฺต แปลว่า “ผู้หักซึ่งวงล้อแห่งสังสารวัฏได้แล้ว

(5) (คำนิบาต = ไม่ใช่, ไม่มี) > + รห (= การไปมา) = อรห + อนฺต ปัจจัย = อรหนฺต แปลว่า “ผู้ไม่มีการไปมา” คือไม่ไปเกิดในภพภูมิไหนๆ อีก

(6) (คำนิบาต = ไม่ใช่, ไม่มี) > + รห (= ความลับ, ที่ลับ, ความชั่ว) = อรห + อนฺต ปัจจัย = อรหนฺต แปลว่า “ผู้ไม่มีความลับ” (ไม่มีความไม่ดีไม่งามที่จะต้องปิดบังใครๆ) “ผู้ไม่มีที่ลับ” (สำหรับที่จะแอบไปทำความไม่ดีไม่งาม) “ผู้ไม่มีความชั่ว

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อรหนฺต” โดยวิธีทับศัพท์ว่า Arahant

อรหนฺต” ในภาษาไทยใช้ว่า “อรหันต์

พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ไทย-อังกฤษ ของท่าน ป.อ. ปยุตฺโต แปลคำว่า “พระอรหันต์” เป็นอังกฤษว่า an Arahant; Arahat; worthy one; the Holy One; perfected one; one who has attained Nibbāna.

พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อรหันต-, อรหันต์ : (คำนาม) ชื่อพระอริยบุคคลชั้นสูงสุดใน ๔ ชั้น คือ พระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เรียกว่า พระอรหันต์. (ศัพท์นี้ใช้ อรหา หรือ อรหัง ก็มี แต่ถ้าใช้เป็นคําวิเศษณ์หรืออยู่หน้าสมาสต้องใช้ อรหันต). (ป.; ส. อรฺหนฺต).”

(๒) “อรหัต

บาลีเป็น “อรหตฺต” อ่านว่า อะ-ระ-หัด-ตะ โปรดสังเกตว่าไม่ใช่ “อรหนฺต” แต่เป็น “อรหตฺต” ถ้าไม่ระวังให้ดีจะเริ่มสับสนตั้งแต่ตรงนี้

อรหตฺต” รากศัพท์มาจาก “อรหนฺต” นั่นเอง คือ “อรหนฺต” ลบ อนฺต ปัจจัย (อรหนฺต > อรห) + ตฺต ปัจจัย

ตฺต ปัจจัย เป็นปัจจัยในภาวตัทธิต ใช้แทนศัพท์ว่า “ภาว” = ความเป็น ศัพท์ที่ลงปัจจัยตัวนี้จึงต้องแปลว่า “ความเป็นแห่ง-” หรือ “ภาวะแห่ง-”

: อรหนฺต > อรห + ตฺต = อรหตฺต แปลตามศัพท์ว่า “ความเป็นแห่งพระอรหันต์” หรือ “ภาวะแห่งพระอรหันต์” หรือ “ความเป็นพระอรหันต์

พจนานุกรมบาลี-อังกฤษ แปล “อรหตฺต” ไว้ดังนี้

(1) the state or condition of an Arahant, i. e. perfection in the Buddhist sense = Nibbāna (ภาวะหรือความเป็นพระอรหันต์, คือ ความดีเลิศโดยสมบูรณ์ในความหมายของพระพุทธศาสนา = นิพฺพาน)

(2) final & absolute emancipation, Arahantship, the attainment of the last & highest stage of the Path (การหลุดพ้นสุดท้ายและโดยสมบูรณ์, ความเป็นพระอรหันต์, การบรรลุชั้นสุดท้ายและสูงสุดของมรรค)

อรหตฺต” ในภาษาไทยใช้ว่า “อรหัต” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –

อรหัต, อรหัต– : (คำนาม) ความเป็นพระอรหันต์. (ป. อรหตฺต; ส. อรฺหตฺตฺว).”

สรุป :

คงจะเห็นความแตกต่างได้ชัดแล้ว:

อรหนฺต > อรหันต์ = Arahant คือตัวบุคคล

อรหตฺต > อรหัต = Arahantship คือภาวะแห่งบุคคล

เพราะฉะนั้น ถ้าพูดว่า ปฏิบัติธรรมจนได้บรรลุ–

จึงต้องใช้ว่า “บรรลุพระอรหัต” คือบรรลุภาวะแห่งพระอรหันต์

ไม่ใช่ “บรรลุพระอรหันต์” ซึ่งจะต้องแปลว่า บรรลุไปที่ตัวพระอรหันต์ ซึ่งไม่อาจเป็นเช่นนั้นได้

…………..

ดูก่อนภราดา!

: ใช้คำผิดก็ไม่ตกนรก

: แต่ไม่ตกนรกด้วย ใช้คำถูกด้วย ดีกว่า

#บาลีวันละคำ (3,153)

29-1-64

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย