บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

บทความเรื่อง ศึกษาโลกธรรมสูตร เพื่อปลดสมณศักดิ์

ศึกษาโลกธรรมสูตร เพื่อปลดสมณศักดิ์ (๕)

————————————–

เฉพาะในเมืองไทยเรานี้ สมณศักดิ์มาจากพระราชา

ใครสนใจว่า-พระราชาพระราชทานสมณศักดิ์มาตั้งแต่ครั้งไหน ด้วยเหตุผลอะไร ก็ไปศึกษาวิเคราะห์กันเอาเถิด

แต่ได้ข้อยุติแน่นอนว่า สมณศักดิ์มาจากพระราชา

ผมมองเป็นภาพออกมาว่า-เหมือนสายพิรุณที่โรยรินมาจากฟากฟ้า

เราห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้

แต่ใครที่ไม่อยากเปียก หาวิธีป้องกันได้

ใช่หรือไม่

ระหว่างวิธี-หาทางทำไม่ให้ฝนตก

กับวิธี-หาร่มมากาง หาเสื้อกันฝนมาสวม หรือหลบเข้าที่มุงที่บัง หลบเข้าชายคา

ท่านคิดว่า วิธีไหนทำสำเร็จได้ง่ายกว่ากัน

แน่นอน ถ้าคิดจะเอาชนะกันให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด หาทางทำไม่ให้ฝนตกแก้ปัญหาได้เด็ดขาดกว่า

เมื่อฝนไม่ตก ก็ไม่ต้องเป็นภาระในการหาร่มมากาง หาเสื้อกันฝนมาใส่ ฯลฯ เรียกว่า-แก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันเลยทีเดียว จบ

ถ้าใช้วิธีนี้ ก็ต้องพยายามทำกันต่อไป-ทำให้ฝนไม่ตก

แต่ในระหว่างที่ยังทำไม่สำเร็จ ฝนยังคงตกอยู่ตามธรรมดาของฝน จะทำอย่างไร?

ด่าฝนไปเรื่อยๆ แม่งตกมาทำซากอะไร ทำให้กูเปียกหมด

หรือว่า-ก็ต้องหาร่มมากาง หาเสื้อกันฝนมาใส่ ฯลฯ แก้ปัญหากันไปตามธรรมชาติธรรมดา

วิธี-หาร่มมากาง หาเสื้อกันฝนมาใส่ ฯลฯ นี้ ดีตรงที่-ฝนจะตกหรือไม่ตกก็ช่างฝน เรามีวิธีไม่เปียกได้ก็แล้วกัน

ใครที่อยากให้ฝนตก อยากเปียกฝน เขาก็ไม่เสียประโยชน์ ได้เปียกสมปรารถนา

ใครจะหาวิธีทำฝนไม่ให้ตกได้สำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็ไม่ต้องว่าอะไรกัน ใครอยากทำก็ให้เขาทำไป หรือเราอยากไปร่วมขบวนการทำด้วย ก็เอา เป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลที่แท้จริง

ผมนึกถึงใบบัวกับน้ำ

ใบบัวไม่เคยปฏิเสธน้ำ

ใบบัวรับน้ำด้วยความเต็มใจ

แต่ใบบัวไม่ซับน้ำ

………………….

ได้คติอะไรจากใบบัวไม่ซับน้ำ?

ได้คติว่า เรียกร้องให้เลิกสมณศักดิ์ ก็ต้องเรียกร้องกันต่อไป อย่าเลิก

แต่ควรเพิ่มงานขึ้นอีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ ช่วยกันเรียกร้องให้เลิกเมาสมณศักดิ์

นึกถึงพุทธศาสนสุภาษิตที่ท่องกันมาตั้งแต่เรียนนักธรรมชั้นตรี

………………….

ยโส ลทฺธา น มชฺเชยฺย.

ได้ยศแล้ว ไม่ควรเมา

………………….

อัญเชิญพุทธศาสนสุภาษิตบทนี้มาขึ้นป้ายชูได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวสังคมวิจารณ์ในทางเสื่อมเสียเหมือนถือป้ายชูเรื่องอื่นๆ

และตามความเป็นจริง พระเถระที่ได้รับสมณศักดิ์แล้วท่านไม่เมาก็มีอยู่เป็นอันมาก

ท่านที่ไม่เคยเมาหรือเลิกเมาได้ซึ่งมีอยู่เป็นอันมากนั้น เป็นตัวอย่าง เป็นแรงบันดาลใจให้เห็นได้เป็นอย่างดี

ช่วยกันยกเอาปฏิปทา-ได้สมณศักดิ์แล้วไม่เมา-ของท่านเหล่านั้นขึ้นมายกย่องเชิดชู เป็นรูปธรรม เห็นได้จริง สัมผัสได้จริง สบายใจปลอดภัยกว่ายกท่านเป็นอริยสงฆ์หรือเป็นพระอรหันต์ดังที่ชอบทำกันเป็นไหนๆ

การเรียกร้องให้เลิกเมาสมณศักดิ์นี้ทำได้ทั้งชาววัดและชาวบ้าน เป้าหมายชัดเจน คือพุ่งตรงไปยังบรรดาท่านที่ได้สมณศักดิ์

เป็นการเรียกร้องที่ชอบธรรมด้วย เพราะเป็นการขอร้องให้ท่านปฏิบัติธรรมตรงเรื่องตรงประเด็น

………………….

ความจริง เบื้องลึกของการเรียกร้องให้เลิกสมณศักดิ์ก็มีสาเหตุใหญ่มาจากการเมาสมณศักดิ์นั่นเอง

ได้สมณศักดิ์แล้วเมา

แล้วเอาสมณศักดิ์ไปข่มไปทับไปเบียดเบียนท่านเหล่าอื่น

เบาะๆ ก็ก่อให้เกิดความหมั่นไส้

หนักขึ้นไปก็ก่อให้เกิดความอึดอัดขัดเคือง

หนักจนเกิดเรื่องก็ก่อให้เกิดความคับแค้น

เรียกร้องให้เลิกเมา จึงเป็นการเกาถูกที่คัน

แต่แน่นอน คนที่เลิกเมาไม่ได้ย่อมจะยังมีอยู่เป็นธรรมดา ก็ต้องช่วยกันตักเตือน หรือหาวิธีควบคุม และเป็นกำลังใจให้ท่านฝึกหัดขัดเกลาตนเองต่อไป

เพราะถ้ายังไม่เลิกเมาสมณศักดิ์ แม้จะเลิกสมณศักดิ์ได้ ก็คงจะหาเรื่องอื่นมาเมาได้อีกอยู่นั่นเอง

เรียกร้องให้ฝึกหัดขัดเกลาตนเองจนเลิกเมาสมณศักดิ์ได้ ขยายผลไปถึงค่อยๆ เลิกเมาโลกธรรมอย่างอื่นๆ ได้อีก

อย่างนี้สิจึงควรเรียกว่า-แก้ปัญหาที่ต้นเหตุกันเลยทีเดียว จบจริงๆ

………………….

อีกนิดหนึ่งครับ

ข้างต้นโน้น ผมบอกว่าเฉพาะในเมืองไทยเรานี้ สมณศักดิ์มาจากพระราชา

เราเรียกร้องให้เลิกสมณศักดิ์

แต่เท่าที่สดับตรับฟังมา ยังไม่เคยปรากฏว่ามีใครเข้าไปบอกพระราชาตรงๆ ว่าให้ทรงเลิกพระราชทานสมณศักดิ์เสียเถิด (ถ้าเคยมี ขอให้ท่านที่ทราบเรื่องถ่ายทอดสู่กันฟังเป็นความรู้ด้วยครับ)

แต่ที่น่าสังเกตมากที่สุดก็คือ เราไม่เคยขอให้พระราชาอธิบายเหตุผลที่ท่านพระราชทานสมณศักดิ์เลยแม้แต่ครั้งเดียว

เรามีโอกาสอธิบายเหตุผลของเรา

ทำไมเราไม่ให้โอกาสท่านอธิบายเหตุผลของท่านบ้าง?

เราเอาแต่ขอให้ใครๆ ฟังเหตุผลของเรา

ทำไมเราไม่ขอให้ท่านอธิบายเหตุผลของท่านให้เราฟังบ้าง?

………………….

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

๑๓:๓๙

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *