บทความเรื่อง กรอบของพระสงฆ์ไทย
กฎ-ระเบียบคณะสงฆ์ไทย
ผมบวชเณรที่วัดหนองกระทุ่ม อำเภอปากท่อ หลวงปู่ป๋อง-พระครูขันตยาภิรัต-เป็นพระอุปัชฌาย์ บวชเสร็จหลวงปู่ก็สั่งให้ไปอยู่กับหลวงลุงดีที่เขาพลอง
หลวงลุงดีเป็นพระวัดหนองกระทุ่ม หลวงปู่ส่งไปเป็นเจ้าอาวาสวัดไพรสะเดาซึ่งเป็นวัดสร้างใหม่ พอวัดไพรสะเดามั่นคงดีแล้วหลวงลุงดีก็ขอกลับวัดหนองกระทุ่ม หลวงปู่สั่งให้ไปอยู่ที่เขาพลอง ไปเฝ้ารักษากุฏิของสงฆ์
ก่อนหน้านั้น ที่ถ้ำเขาพลองมีพระรูปหนึ่งมาพักจำพรรษา แล้วเกิดบอกหวยใต้ดินแม่นขึ้นมา ผู้คนแห่ไปขอหวยมืดฟ้ามัวดิน แม่นจนเจ้ามือไม่รับแทง มีเจ้าภาพสร้างกุฏิสองชั้นถวายไว้หน้าถ้ำ
ภายหลังพระรูปนั้นเกิดฟั่นเฟือนอย่างไรไม่ทราบหายตัวไป กุฏิหลังนั้นก็เลยถูกทิ้งร้าง
เขาพลองอยู่ในเขตปกครองของหลวงปู่ (หลวงปู่เป็นเจ้าคณะตำบล) หลวงปู่ก็เลยให้หลวงลุงดีไปอยู่ที่นั่น มีกุฏิหลังเดียว ไม่ใช่วัด ไม่ใช่สำนักสงฆ์ แต่เป็นเหมือนส่วนแยกของวัดหนองกระทุ่ม
เล่ามายาวเพียงเพื่อจะบอกว่า ผมไปอยู่กับหลวงลุงดีทำหน้าที่เหมือนเณรอุปัฏฐาก หลวงลุงสั่งไว้ข้อหนึ่งว่า วันพระอย่าออกจากวัดไปไหน
ตอนนั้นยังไม่รู้เหตุผล แต่ก็ปฏิบัติตามโดยดี วันพระตัดกิจทั้งปวงในภายนอก อยู่เฝ้ากุฏิตลอดวัน
อีกหลายปีต่อมา ผมไปอ่านหนังสือแถลงการณ์คณะสงฆ์จึงได้ทราบว่ามีประกาศคณะสงฆ์เป็นใจความว่า ตามวัดต่างๆ วันพระมักมีญาติโยมมาทำบุญ คณะสงฆ์จึงสั่งให้พระเณรอย่าออกจากวัดไปไหนๆ ให้อยู่วัดต้อนรับญาติโยม-เป็นที่มาขอคำสั่ง-วันพระห้ามออกจากวัด
หลวงลุงดีท่านเคยเป็นเจ้าอาวาส ท่านจึงรู้เรื่องนี้และถือปฏิบัติเคร่งครัดสืบต่อมา
นี่เป็นตัวอย่างเล็กๆ เพียงเรื่องเดียวที่แสดงให้เห็นว่า พระสงฆ์ไทยต้องปฏิบัติตามกฎ-ระเบียบของคณะสงฆ์ด้วย
ใครจะอ้างว่าพระธรรมวินัยไม่ได้ห้ามออกนอกวัดในวันพระ เพราะฉะนั้นพระเณรออกนอกวัดวันพระจึงไม่ผิด
ไม่ผิดพระธรรมวินัย แต่ผิดระเบียบคณะสงฆ์ไทย (ถ้าระเบียบหรือคำสั่งนี้ยังไม่ยกเลิก)
ตัวอย่างอื่นๆ โปรดช่วยกันนึกว่ามีอะไรอีกบ้างที่คณะสงฆ์สั่งไม่ให้ทำ แต่ไปทำเข้า หรือสั่งให้ทำ แต่ไม่ทำ
ไม่ใช่พระธรรมวินัยก็จริง แต่ผิดนะครับ