จะวิ่งตามชาวบ้าน หรือจะวิ่งนำชาวบ้าน
วันนี้ (๒๖ เมษายน ๒๕๖๔) มีคุณครูเกษียณแล้วท่านหนึ่งท่านจำเป็นจะต้องทำหน้าที่พิธีกรในงานศพ ถามผมว่า เวลาเชิญท่านผู้เป็นประธานขึ้นไปทอดผ้าควรจะเรียกผ้าผืนนั้นว่า ผ้าไตรบังสุกุล หรือผ้ามหาบังสุกุล
ผมตอบท่านไปว่า ถ้าผมเป็นพิธีกรผมจะเรียกผ้าทุกผืนเหมือนกันหมดว่า “ผ้าบังสุกุล” เพราะชื่อผ้าชนิดนั้นคือ “ผ้าบังสุกุล”
คำว่า “ผ้าไตรบังสุกุล” หรือ “ผ้ามหาบังสุกุล” เป็นคำที่เกิดจากเหตุผลบางประการของพิธีกรบางคน ซึ่งผมไม่ความประสงค์จะถกเถียงด้วย แต่ผมเห็นว่าเป็นเหตุผลที่ไม่จำเป็น แต่ใครจะใช้คำเช่นนั้นก็เชิญตามสบาย
ผมยังได้ขออนุญาตคุณครูท่านนั้น-ขอเสนอแนะเพิ่มเติมไปว่า คำที่นิมนต์พระขึ้นไป “ทำอะไรกับผ้า” นั้น ผมขอเสนอให้ใช้คำว่า –
“ขอนิมนต์…ชักผ้าบังสุกุล”
เลิกใช้คำว่า “ขอนิมนต์…พิจารณาผ้าบังสุกุล” กันได้แล้ว
เหตุผลมีเป็นประการใด ผมเคยเขียนไว้แล้ว ตามลิงก์นี้ครับ
………………………….
ชักผ้า-วัฒนธรรมทางภาษาของชาติ
https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/2616428111784243
………………………….
คุยกับคุณครูท่านไปแล้ว ผมก็มานั่งคิดคนเดียวต่อ – เป็นการคิดต่อออกไปจากเรื่องที่คุยกัน
ผมคิดยังงี้ครับ
งานศพในบางภูมิภาคในเมืองไทย จะมีนักการเมืองมาทอดผ้าบังสุกุลเป็นร้อยๆ
เจ้าภาพจะถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่มีนักการเมืองมาทอดผ้า
เขาบอกว่าเป็นความประสงค์ของเจ้าภาพ
บางศพผู้ตายสั่งลูกหลานไว้เลยว่า ตอนทอดผ้าให้เชิญนักการเมืองมากันให้มากๆ
ยิ่งมากันมาก ยิ่งมีเกียรติมาก
การที่ชาวบ้านถือกันว่า-การทำเช่นนั้นเป็นเกียรติ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะไม่เป็นความจริง
แต่ควรสงสัยว่า นักการเมือง-ซึ่งเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้นำประชาชน-ควรจะวิ่งตามชาวบ้าน หรือจะวิ่งนำชาวบ้าน
—————–
เวลานี้แม้แต่นักเผยแผ่พระศาสนารุ่นใหม่ๆ ในบ้านเราก็เริ่มจะมีทัศนะว่า ในการสอนธรรมะแก่ชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องยกคำบาลี ไม่จำเป็นต้องอ้างคัมภีร์
พูดอะไรก็ได้ และทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ชาวบ้านชอบและมีความสุขก็พอแล้ว
นักเทศน์ควรยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน?
นักเผยแผ่พระศาสนา-ควรจะวิ่งตามชาวบ้าน หรือจะวิ่งนำชาวบ้าน?
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๒๖ เมษายน ๒๕๖๔
๑๘:๑๖