บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

บทความชุด :

ถ้าจะรักษาพระศาสนา

จงรักษาวิถีชีวิตสงฆ์

-๑๑-

อย่ามัวแต่หลงทางกันอยู่ตรงนี้ (๒)

——————————–

ถึงเวลาที่เราจะต้องถอยไปตั้งหลักกันใหม่ให้ถูกต้อง

คือชาวบ้านต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่า ทำไมเราจึงศรัทธาพระ เหตุผลที่ถูกต้องอยู่ตรงไหน

และพระเองก็ต้องตอบโจทย์ให้ได้ด้วยเช่นกันว่า ทำไมเมื่อเป็นพระชาวบ้านจึงศรัทธา

ต้องไม่ใช่แค่-เพราะเห็นพระเป็นบุรุษไปรษณีย์เอาบุญไปส่งให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว หรือเป็นธนาคารรับฝากบุญให้เราไปเบิกใช้ในชาติหน้า หรือเห็นว่าพระเป็นผู้บันดาลความขลังความศักดิ์สิทธิ์ให้ได้

แต่ต้องถามต่อไปอีกว่า พระมีคุณสมบัติอะไรจึงได้สิทธิ์มาทำหน้าที่นั้น-ในเมื่อตอนที่เกิดมาก็เป็นชาวบ้านเหมือนเรา ไม่ได้เป็นพระมาตั้งแต่เกิดสักหน่อย

ถ้าใครตอบว่า เพราะท่านห่มผ้ากาสาวพัสตร์อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์ ก็ต้องถามต่อไปอีกว่า ท่านใช้สิทธิ์อะไรมาห่มผ้ากาสาวพัสตร์

ถามไล่ไปเรื่อยๆ ให้ถึงที่สุด 

ในที่สุดจะต้องได้คำตอบที่ถูกต้องว่า เพราะท่านเป็นผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควร ปฏิบัติชอบ ตามพระธรรมวินัยอันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า-เพื่อดำเนินไปสู่ความพ้นทุกข์-นั่นเอง

ต้องเป็นคำตอบนี้เท่านั้น 

ตอบอย่างอื่น ผิด

ถ้าวิถีชีวิตสงฆ์เป็นตัวตัดสินศรัทธาของชาวบ้าน

การปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควร ปฏิบัติชอบ ก็เป็นตัวตัดสินวิถีชีวิตสงฆ์

……………………

เวลานี้ชาวบ้านศรัทธาพระโดยไม่รู้เหตุผลที่ถูกต้อง

ฝ่ายพระก็ไม่รู้เหตุผลที่ถูกต้องว่าทำไมพอเป็นพระ ชาวบ้านจึงศรัทธา

สถานการณ์จึงดำเนินไปเหมือนกับว่าต่างฝ่ายต่างสมประโยชน์กัน

ฝ่ายหนึ่งต้องการศรัทธาพระ

อีกฝ่ายหนึ่งก็ต้องการเป็นพระเอาไว้ให้ศรัทธา

ถ้าถามว่า ทำไมจึงศรัทธา ก็ตอบว่าศรัทธาเพราะเห็นว่าเป็นพระ

ถ้าถามว่า ทำไมจึงเป็นพระ ก็ตอบว่าเป็นพระเพราะเห็นว่าเขาศรัทธา

ทำไมจึงศรัทธา ศรัทธาเพราะเห็นว่าท่านเป็นพระ

ทำไมจึงเป็นพระ เป็นพระเพราะเห็นว่าเขาศรัทธา

ต้องไม่ใช่วนอยู่แค่นี้

แต่จะต้องออกจากวังวนนี้ไปสู่คำตอบที่ถูกต้อง

คำตอบที่ถูกต้องคือ :

ทำไมจึงศรัทธา –

ศรัทธาเพราะปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควร ปฏิบัติชอบ

ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควร ปฏิบัติชอบ เพราะจะนำไปสู่การพ้นทุกข์

ทำไมจึงเป็นพระ –

เป็นพระเพื่อจะได้ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควร ปฏิบัติชอบ

ปฏิบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติควร ปฏิบัติชอบ เพราะจะนำไปสู่การพ้นทุกข์

เป็นคำตอบที่นำไปสู่เป้าหมายเดียวกัน

เป็นเหตุผลที่ถูกต้องที่ชาวบ้านมีศรัทธาต่อพระ

และเป็นเหตุผลที่ถูกต้องที่เข้ามาเป็นพระให้เขาศรัทธา

……………………

เวลานี้มีท่านจำพวกหนึ่งออกมาบอกว่า – 

พระทุกวันนี้ล้วนเป็นปุถุชน 

ไม่มีใครสามารถปฏิบัติตามสิกขาวินัยได้ครบถ้วนหรอก 

พระต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคม 

ถึงท่านจะบกพร่องไปบ้างก็ยังมีศีลมากกว่าชาวบ้าน 

อย่าไปเคร่งครัดอะไรกันนักหนา 

เอาแค่มีพระไว้ให้ชาวบ้านได้ทำบุญก็พอแล้ว

……………..

คิดแค่มีพระไว้ให้ชาวบ้านได้ทำบุญ

แต่ไม่ได้คิดต่อไปว่า-แล้วทำไมต้องทำบุญกับพระ

ทำบุญกับโรงพยาบาล ทำบุญกับโงเรียน ทำบุญกับคนโซ ทำบุญกับคนขอทาน แม้กระทั่งทำบุญกับหมูหมากาไก่ ก็ได้มิใช่หรือ

ถ้าคิดอย่างที่ว่านั่น ก็เท่ากับเปิดทางให้ยุคผ้าเหลืองน้อยห้อยหูมาถึงเร็วเข้านั่นเอง (หรือเผลอๆ เวลานี้อาจจะถึงยุคนั้นเข้าไปแล้วก็ได้)

ประเด็นนี้ต้องตั้งหลักคิดให้ถูก มิเช่นนั้นจะหลงทาง

หลักก็คือ พระธรรมวินัยเป็นหลักที่จะต้องยึดไว้ให้มั่นคงและครบถ้วน เพราะเป็นมาตรฐานของพระพุทธศาสนา

ต้องศึกษาเรียนรู้ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจปฏิบัติตามให้เต็มที่ คือพยายามพัฒนาตัวเองขึ้นไปสู่มาตรฐาน

จะทำได้แค่ไหน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องคงมาตรฐานของท่านไว้ แล้วตั้งเป้าหมายที่จะขึ้นไปสู่มาตรฐานนั้น

ไม่ใช่ดึงมาตรฐานลงมาหาตัวเอง

ไม่ใช่ถอดใจไปตั้งแต่เริ่มต้นว่า ทำไม่ได้ ไม่มีใครทำได้ และข้าพเจ้าก็จะไม่ทำ 

อ้างโน่นนี่นั่น-โดยเฉพาะอ้างสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป

เมื่อสมัครใจเข้าไปทำ ก็ต้องทำ ไหวหรือไม่ไหวก็ต้องทำ

ทำไม่ได้ ก็อย่าเข้าไป

ทำไม่ไหว ก็ถอยออกมา 

ง่ายๆ ตรงไปตรงมา

ไม่มีใครว่าอะไร

ไม่ได้เสียหายอะไร

ทำไม่ได้ ไม่ถอย แต่ดึงมาตรฐานลงมา นั่นต่างหากที่เสียหาย

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๒๐ พฤษภาคม ๒๕๖๔

๑๐:๓๗

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *