๓๐ นาทีที่คุ้มค่าที่สุดในโลก
๓๐ นาทีที่คุ้มค่าที่สุดในโลก
——————————
เราแต่ละคนมีเวลาวันละ ๒๔ ชั่วโมง แต่ส่วนมากมักจะไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดว่า เราใช้เวลา ๒๔ ชั่วโมงทำอะไรไปบ้าง
ที่รู้กันคร่าวๆ ก็-ทำงาน ๘ ชั่วโมง นอน ๘ ชั่วโมง อีก ๘ ชั่วโมงเป็นเวลาอิสระ ใครอยากจะทำอะไรก็ทำไป
ผมอยากจะเชิญชวนให้ทำอะไรสักอย่างครับ
อันดับแรก เอาเวลา ๒๔ ชั่วโมงของแต่ละคนออกมาคลี่ดูกันอย่างละเอียดว่า เราใช้ทำอะไรไปบ้าง
ต่อจากนั้น ผมขอให้ท่านเจียดเวลาจาก ๒๔ ชั่วโมงออกมาสัก ๓๐ นาที บริหารจัดการให้ตัวเองมีเวลาว่างวันละ ๓๐ นาทีเท่านั้น
ไม่ถามละครับว่า-ทำได้หรือไม่ เพราผมเชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้
เป็นอันว่า บัดนี้ท่านมีเวลาว่างแน่ๆ วันละ ๓๐ นาที เลือกเอาเป็นช่วงเวลาที่สะดวกที่สุด ปลอดโปร่งที่สุดในแต่ละวันของท่าน
คำแนะนำของผมก็คือ ขอให้ท่านเอาเวลาวันละ ๓๐ นาทีนี้ “ศึกษาพระธรรมวินัย”
จะด้วยวิธีอ่าน วิธีฟัง หรือวิธีสนทนา แบบไหนก็ได้ที่ท่านสามารถทำได้สะดวกที่สุด
ในที่นี้ผมขอแนะนำวิธีอ่าน ขอให้ท่านอ่านหนังสือ “นวโกวาท” พระนิพนธ์ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วันละ ๓๐ นาที
ไม่สนุกหรอกครับ อาจจะน่าเบื่อหน่ายด้วยซ้ำไป
แต่ขอให้ฝืนใจสักนิด ขอให้คิดว่า-เรากำลังทำหน้าที่รักษาพระศาสนา ซึ่งในฐานะชาวพุทธแล้ว นับว่าเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดและมีเกียรติอย่างยิ่ง
คิดแบบง่ายๆ ก็ได้ว่า อ่านถวายพระพุทธเจ้า อ่านเป็นพุทธบูชา
อ่านทุกวัน วันละ ๓๐ นาที
อ่านไป ตรึกตรองตามไปด้วย
รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ไม่ต้องกังวล
การอ่าน “นวโกวาท” เป็นการฝึกสมาธิไปด้วยในตัว นั่นคือการปฏิบัติธรรมแบบหนึ่ง เป็นสมถะ
การขบคิดตรึกตรองตามไปเป็นการเจริญปัญญา ถือว่าเป็นวิปัสสนา
ได้ปฏิบัติธรรม ได้ความรู้ และได้รักษาพระศาสนาพร้อมกันไปทีเดียว โดยใช้เวลาเพียงวันละ ๓๐ นาทีเท่านั้น
จบเที่ยวหนึ่งแล้ว ก็อ่านทบทวนเที่ยวสอง เที่ยวสาม
เข้าใจดีพอสมควรแล้ว ก็เลือกหาเล่มอื่นๆ มาอ่านต่อไปอีก
ขอให้ทำทุกวัน ทำเป็นกิจวัตร ทำจนเป็นนิสัย
เวลาวันละ ๓๐ นาที-เมื่อบริหารจัดการให้ดี ให้ถูกต้อง-ผมเชื่อว่ามันจะไม่ทำให้ชีวิตของท่านล่มจม การงานเสียหาย หน้าที่อื่นๆ บกพร่อง รายได้ลดลง ฯลฯ แต่ประการใดทั้งสิ้น
แต่มันจะค่อยๆ สร้างชาวพุทธที่มีคุณสมบัติที่ดีพอจะรักษาพระศาสนาไว้ได้ขึ้นมาได้คนหนึ่ง
เป็นชาวพุทธที่มีความรู้ดีรู้ถูกต้องด้วย
เป็นชาวพุทธที่ได้ลงมือปฏิบัติธรรมด้วยตัวเองทุกวันด้วย
โดยไม่ต้องหนีโลกทิ้งสังคมไปไหน แต่อยู่กับมันอย่างมีความสุข
ที่ว่า-เป็นชาวพุทธที่มีคุณสมบัติที่ดีพอจะรักษาพระศาสนาไว้ได้ หมายความว่า (๑) เมื่อมีผู้รู้หลักพระธรรมวินัยที่ถูกต้อง และ (๒) มีผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่ถูกต้อง อยู่ตราบใด พระพุทธศาสนาที่ถูกต้องก็ชื่อว่ายังดำรงอยู่ในโลกตราบนั้น
และเราแต่ละคนนั่นแหละที่ช่วยกันทำให้เป็นเช่นนั้น โดยเสียเวลาในชีวิตประจำวันเพียงแค่วันละ ๓๐ นาทีเท่านั้น
เป็น ๓๐ นาทีที่คุ้มค่าที่สุดในโลก
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๑๗ เมษายน ๒๕๖๔
๑๙:๐๙