ความโง่และความดื้อด้านของมนุษย์
ความโง่และความดื้อด้านของมนุษย์
—————————
ผมทักท้วงเรื่องคำว่า “จำวัด” (พระภิกษุสามเณรนอนหลับ) ที่สื่อทั้งหลายเอาไปใช้ในความหมายว่า “อยู่ประจำที่วัด” หรือ “พักอยู่ที่วัด” มาหลายปีแล้ว
ไม่มีใครฟัง
ทุกวันนี้สื่อทั้งหลายก็ยังใช้คำว่า “จำวัด” ในความหมายว่าอยู่ประจำที่วัดหรือพักอยู่ที่วัดอยู่นั่นแหละ
มิหนำซ้ำยังระบาดออกไปยังประชาชนทั่วไปอีกด้วย
ผู้คนกำลังจะใช้คำว่า “จำวัด” ในความหมายผิดๆ นี้กันทั่วไป
แต่ที่ร้ายกว่านั้นก็คือมีผู้พยายามแต่งคำอธิบายแก้ต่างให้ บอกว่าที่ใช้คำว่า จำวัด” ในความหมายว่าอยู่ประจำที่วัดหรือพักอยู่ที่วัดนั้นเป็นการถูกต้องแล้วด้วยเหตุผลอย่างนี้ๆๆๆๆๆ
เอากะพ่อสิ
แค่เปิดพจนานุกรมฯ ดู ก็จะรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก
ของง่ายๆ แค่นี้ ไม่ทำ
แต่ที่พยายามขุดหาเหตุผลข้างๆ คูๆ ยากกว่าตั้งเยอะ แบบนั้นทำได้
ก็เลยได้ข้อสรุปว่า ความโง่และความดื้อด้านของมนุษย์นี้ร้ายกาจนัก นอกจากจะทำตัวเองให้วิบัติแล้ว ยังชักพาสังคมให้พลอยวิบัติไปด้วย
ทำงานกับความโง่และความดื้อด้านของมนุษย์จึงต้องมีอุดมคติที่มั่นคง
มีเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง
ไม่หวังผลว่าจะมีใครฟังเราเชื่อเรา
แต่ทำหน้าที่ของเราเรื่อยไป
เหนื่อยก็พัก
หนักก็วาง
มีกำลังก็ลุกขึ้นทำต่อไป
นักเขียนคนไหนก็จำไม่ได้เคยกล่าวไว้ว่า – ลมพัด ใบไม้ไหว
ผมก็เลยเอามาคิดต่อ – พูดอะไรออกไป มีคนได้ยิน
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๒
๑๐:๓๑