การศึกษาเพื่อการรักษาพระศาสนา (๑)
การศึกษาเพื่อการรักษาพระศาสนา (๖) ตอน -๙-
————————————
มองพระศาสนาให้ตรง ลงมือทำให้ถูก
——————-
-๙-
——————-
อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญไม่น้อยก็คือ มหาวิทยาลัยสงฆ์ (รวมทั้งระบบการศึกษาของคณะสงฆ์) ผลิตคนเอาไว้ทำอะไร
ถ้ามองว่า การจัดการศึกษาของคณะสงฆ์เป็นโรงงานผลิตสินค้า คำถามคือ จะเอาผลผลิตไปขายที่ไหน ขายให้ใคร หรือเอาไปใช้ทำอะไร
เป็นคำถามที่ไม่เคยมีคำตอบที่ชัดเจนแน่นอน
เคยมีคำที่กล่าวกันไว้-ซึ่งอาจหยิบฉวยมาเป็นคำตอบได้ส่วนหนึ่ง คือ “อยู่ก็เป็นศรีแก่พระศาสนา ลาสิกขาก็เป็นศรีแก่สังคม”
หมายความว่า พระภิกษุสามเณรที่จบการศึกษาได้รับปริญญาแล้ว หากบวชอยู่ต่อไปก็เป็นศักดิ์ศรีของพระศาสนา หากลาสิกขาออกไปเป็นชาวบ้านก็เป็นสมาชิกที่ดีมีคุณภาพของสังคม
คำตอบนี้ก็ยังไม่ชัดเจนอยู่นั่นเอง-หากจะถามต่อไปว่า ตกลงว่าเราจะผลิตพระภิกษุสามเณรที่มีคุณภาพให้พระศาสนา หรือว่าจะผลิตสมาชิกที่มีคุณภาพให้แก่สังคมกันแน่ หรือว่าจะกั๊กไว้ทั้งสองทาง
ถ้าดูตามเจตนารมณ์เดิมของการตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ ก็ชัดเจนว่า ต้องการผลิตพระภิกษุสามเณรที่มีคุณภาพให้พระศาสนาเพื่อให้พระภิกษุสามเณรที่มีคุณภาพเหล่านี้ใช้ “คุณภาพ” ที่ได้รับมาทำงานเผยแผ่พระธรรมวินัยต่อไป – นี่คือเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่เดิม
แต่เชื่อได้เลยว่า จนถึงบัดนี้เราไม่เคยตรวจสอบหรือทบทวนกันเลยว่าเราได้ทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้นี้หรือเปล่า
แม้แต่-ถ้าจะตั้งคำถามว่า คณะสงฆ์ของเรามีแผนการที่จะเผยแผ่พระธรรมวินัยไปในหมู่ประชาชนอย่างเป็นการเป็นงาน อย่างจริงจัง และอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้คนไทยมีความรู้หลักคำสอนที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนาอย่างทั่วถึง-บ้างหรือไม่ และถ้ามี ได้นำเอาผู้สำเร็จการศึกษาแล้วมาใช้งานมากน้อยแค่ไหนบ้างหรือไม่
ก็เชื่อได้เลยว่า ไม่มีคำตอบ
การที่คณะสงฆ์หรือผู้รับผิดชอบการพระศาสนาของเราไม่มีแผนการที่จะใช้คนที่ระบบการศึกษาผลิตออกมาได้ไปทำงานพระศาสนา หรือพูดตรงๆ ว่า ไม่ได้เตรียมงานให้คนทำ หรือไม่ใช้คนไปทำงาน-นี้ เป็นปัญหาที่แทบจะไม่เคยมีใครคิดหรือสนใจมาก่อน
ถามกันตรงๆ ว่า จบนักธรรมชั้นเอกจะให้ไปทำงานอะไร จบประโยค ๙ จะใช้ให้ทำงานอะไร จบปริญญาจากมหาวิทยาลัยสงฆ์มีแผนจะให้ไปทำงานอะไร
เราไม่เคยมีคำตอบ
เหมือนกับผลิตสินค้าออกมา แล้วก็เก็บไว้เฉยๆ ไม่มีตลาดรองรับ
แต่เป็นสินค้าที่เดินได้ สินค้าจะเดินไปไหนๆ ตามที่จะไปได้ หรือจะอยู่นิ่งๆ เราก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่นั่งมองดูเฉยๆ ไม่ทำอะไร
นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว และกำลังเป็นไปอยู่ในปัจจุบัน
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๑๒ พฤษภาคม ๒๕๖๒
๑๕:๐๕
—————
(อ่านต่อตอน -๑๐- จบ)