บทความเกี่ยวกับศาสนา-ภาษา-สังคม

ตอบปัญหาเรื่องกฐิน (๑)

———————

…………………………………..

ปัญหาเรื่องกฐิน (๑)

https://www.facebook.com/tsangsinchai/posts/4355883354505368

…………………………………..

กฐิน มีเรื่องที่ควรเข้าใจให้ถูกต้องหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นก็คือ กฐินต้องมาด้วยศรัทธาของผู้ทอด พระจะไปออกปากขอจากญาติโยมไม่ได้

ปัจจุบันนี้ มีเจ้าอาวาสหรือลูกวัดบางแห่ง (หลายแห่ง) ออกเที่ยวบอกบุญขอให้ญาติโยมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่วัดของตน โปรดทราบว่า การกระทำเช่นนั้นผิดพุทธบัญญัติ กฐินที่ได้มาโดยการที่พระสงฆ์บอกบุญหามาเองเช่นนี้ก็ไม่เป็นกฐิน

อาการที่เที่ยวออกบอกบุญหาเจ้าภาพทอดกฐินเช่นนั้น มิใช่หมายเอาเพียงแค่พระสงฆ์เดินไปบอกด้วยวาจาเองเท่านั้น แต่รวมไปถึงวิธีการทุกรูปแบบ เช่น จดหมาย ใบฎีกา โฆษณา โทรสาร โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ หรือวิธีการไฮเทคอย่างใดๆ ก็ตาม นับว่าไม่ถูกต้อง ผิดพุทธบัญญัติ ขัดต่อพระธรรมวินัย และไม่เป็นกฐินทั้งสิ้น 

กรณีเจ้าภาพขอให้ทางวัดทำหนังสือเชิญมาเป็นเจ้าภาพตามตัวอย่างนั้นก็เข้าข่ายตรงๆ จะอ้างว่าทำตามความประสงค์ของเจ้าภาพก็ฟังไม่ขึ้น ยิ่งอ้างว่าทำหนังสือเพื่อเป็นหลักฐานว่า “วัดขอมา” ด้วยแล้วยิ่งดิ้นไม่หลุด 

คำแนะนำก็คือ เจ้าภาพอย่าขอให้วัดทำเช่นนั้น (เรื่องจริงก็คงไม่มีเจ้าภาพที่ไหนขอให้ทำเช่นนั้น) วัดก็อย่าทำตามคำขอ ถ้ามีเจ้าภาพขอเช่นนั้นจริงๆ ก็ชี้แจงให้เจ้าภาพเข้าใจว่า พระขอกฐินเองไม่ได้ ผิดพุทธบัญญัติ เจ้าภาพที่รู้หลักการย่อมจะไม่ขอให้วัดทำสิ่งที่ผิดหลักการ

อนึ่ง ฎีกาบอกบุญกฐินที่วัดเป็นผู้ทำ และใช้คำว่า “ขอเชิญ…ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน” ก็ไม่ควรพูดเช่นนั้น การเชิญใครมาร่วมเป็นเจ้าภาพเป็นหน้าที่ของเจ้าภาพที่เขาจะเชิญกันเอง วัดหรือพระไม่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ในกรณีที่มีเจ้าภาพเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว พระจะบอกญาติโยมเพื่อให้ “ร่วมอนุโมทนา” – อย่างนี้ทำได้

…………………

การถวายกฐินนั้นเป็นหน้าที่ของญาติโยม ไม่ใช่หน้าที่ของพระสงฆ์ที่จะเที่ยวไปบอกให้ญาติโยมนำมาถวาย ตัวกฐินจริงๆ อยู่ที่ผ้าผืนเดียว ซึ่งราคาไม่มาก ไม่เกินกำลังที่ญาติโยมจะขวนขวายหาไปถวาย ถ้าเขามีศรัทธา หน้าที่ของวัดหรือของพระสงฆ์จึงอยู่ที่ว่าทำอย่างไรญาติโยมจึงจะเกิดศรัทธาที่บริสุทธิ์

ทางที่ญาติโยมจะเกิดศรัทธาที่บริสุทธิ์ก็อยู่ที่การปฏิบัติหน้าที่ของพระสงฆ์นั่นเอง กล่าวคือ ถ้าพระสงฆ์ –

๑. ศึกษาเล่าเรียนปฏิบัติพระธรรมวินัยและแบบธรรมเนียมของสงฆ์ให้ครบถ้วนเคร่งครัด

๒. ฝึกหัดขัดเกลาจิตใจ ให้โลภะ-ราคะ โทสะ โมหะ เบาบาง

๓. แนะนำชี้แนวทางที่ถูกต้องให้แก่ญาติโยมพุทธบริษัท

ทำได้เช่นนี้ก็จะเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาเลื่อมใส เมื่อญาติโยมเกิดศรัทธาเลื่อมใสแล้ว เขาก็จะขวนขวายอุปถัมภ์บำรุงพระสงฆ์ขึ้นเองโดยพระสงฆ์ไม่ต้องไปเที่ยวเอ่ยปากขอ 

ขอให้สังเกตเถิดว่า วัดที่ปฏิบัติดีแท้ พระที่ปฏิบัติดีจริงนั้น ญาติโยมจะหลั่งไหลไปอุปถัมภ์บำรุงเองโดยบริสุทธิ์ และโดยปราศจากขบวนการจัดตั้งทุกรูปแบบ

การเที่ยวออกปากขอกฐินเองนอกจากจะผิดพุทธบัญญัติ ขัดต่อพระธรรมวินัย และไม่เป็นกฐินแล้ว มองอีกแง่หนึ่งก็เท่ากับเป็นการฟ้องตัวเองว่าหาผู้ศรัทธาเลื่อมใสโดยบริสุทธิ์มิได้แล้วกระมัง จึงต้องเที่ยวบอกเที่ยวหากันเช่นนั้น

กฐินไม่ใช่เทศกาลหาเงินเข้าวัด ไม่ควรบิดเบือนพุทธบัญญัติ ไม่ควรเบี่ยงเบนประเพณี ถ้าจะหาเงินเข้าวัด ก็น่าจะคิดอ่านกระทำด้วยวิธีการที่บริสุทธิ์ถูกต้อง ไม่ควรแอบอ้างอาศัยพุทธบัญญัติจนเกิดการแปรปรวน เท่ากับทำลายตัวเอง 

กฐินมีระยะเวลาเพียงเดือนเดียว ถ้าจะหาเงินเข้าวัด เราไปช่วยกันหาในช่วงเวลาอีก ๑๑ เดือนที่เหลือจะไม่ดีกว่าหรือ จะไม่บริสุทธิ์กว่าดอกหรือ

นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย

๑๘ กันยายน ๒๕๖๔

๑๔:๑๔

…………………………………..

ดูโพสต์ในเฟซบุ๊กของครูทองย้อย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *