คิดเล็กคิดน้อย
คิดเล็กคิดน้อย
—————
เวลานี้ชาวเฟซชาวไลน์ชาวโซเชียลทั้งหลายนิยมใช้ภาษาแปลกๆ ในการสื่อสาร
เช่นเวลาจะพูดคำหยาบ ก็ใช้คำว่า กรู มรึง ซึ่งใครอ่านก็รู้ทันทีว่า กรู คือ กู มรึง คือ มึง
เลี่ยงแล้วเขาก็รู้
แล้วจะต้องเลี่ยงทำไม
ภาษาเลี่ยงๆ แผลงๆ แบบนี้มีเยอะ
ว่างๆ ผมจะลองรวบรวมทำเป็นพจนานุกรมสักเล่ม หรือใครว่างจะลองทำดูก็ได้ ไม่สงวนไอเดีย
ที่ผมคิดแล้วขำกลิ้งก็คือ ใช้เลข ๕ แทนเสียงหัวเรา
๕๕๕
555
เป็นคำแทนเสียงหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ที่ว่าขำก็คือ เลข ๕ เป็นเครื่องหมายบอกจำนวน ไม่ใช่คำบอกเสียงหัวเราะ เป็นแต่ออกเสียงเหมือนกัน อย่างที่ตำราภาษาไทยเรียกว่า คำพ้องเสียง
๕๕๕
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ความจริง ๕๕๕ ถ้าอ่านตามหลักภาษา ต้องอ่านว่า “ห้า-ร้อย-ห้า-สิบ-ห้า”
ไม่ใช่ “ห้าห้าห้า”
ต่อไปคงเกิดปัญหาในภาษาไทย คือ เขียนเลข ๕ เรียงกัน จะอ่านเป็นจำนวนหรือจะอ่านเป็นเสียงหัวเราะ?
แล้วก็คำนับจำนวนของแต่ละชาติก็ออกเสียงแตกต่างกัน
555 ถ้าให้ฝรั่งอังกฤษอ่านก็จะได้ยินเป็น ไฟฝ ไฟฝ ไฟฝ
ถ้าให้ผมอ่านเป็นบาลี ก็จะได้ยินเป็น ปัญจะ ปัญจะ ปัญจะ
ใครได้ยินเสียงหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า มั่ง?
คงมีคนอยากถามว่า เรื่องนี้เขาเข้าใจกันทั้งเมืองแล้ว ผมมาคิดเล็กคิดน้อยอยู่ทำไม คิดได้ไง
นั่นนะสิ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า คนที่เขียนเลข ๕ เรียงกัน ๓ ตัวหรือมากกว่านั้น แล้วให้หมายถึงเสียงหัวเราะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เขาคิดได้ไง?
……………
ขอเรียนว่า เรื่องนี้ผมไม่ได้กลุ้มหรือเครียดอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาแนะนำผมว่า-อย่าเครียดสิ
ภาษาเป็นสิ่งสมมุติ
ทุกอย่างเป็นอนิจจัง
พระพุทธเจ้าสอนให้ปล่อยวาง
อย่ายึดมั่นถือมั่น
ฯลฯ
นี่ก็ไม่ต้องนะครับ
ผมเข้าใจ-เข้าใจพอๆ กับท่านที่พูดนั่นแหละ
ประเด็นสำคัญอยู่ตรงที่ —
เมื่อเข้าใจแล้ว
เราจะพลอยเป็นไปกับมัน
หรือจะรู้ทันมัน
แล้วทำสิ่งที่ควรทำ
นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย
๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓
๑๔:๕๐