ปุจฉา – วิสัชนา (บาลีวันละคำ 3,469)
ปุจฉา – วิสัชนา
ถามมา-ตอบไป
อ่านว่า ปุด-ฉา วิ-สัด-ชะ-นา
(๑) “ปุจฉา”
เขียนแบบบาลีเป็น “ปุจฺฉา” (มีจุดใต้ จฺ) อ่านว่า ปุด-ฉา รากศัพท์มาจาก ปุจฺฉฺ (ธาตุ = ถาม) + อ (อะ) ปัจจัย + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์
: ปุจฺฉฺ + อ = ปุจฺฉ + อา = ปุจฺฉา แปลตามศัพท์ว่า “การถาม” “ข้อที่ควรถาม” หมายถึง คำถาม (a question)
ในภาษาไทย พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“ปุจฉา : (คำกริยา) ถาม เช่น ขอปุจฉาพระคุณเจ้า. (ป.).”
(๒) “วิสัชนา”
บาลีเป็น “วิสฺสชฺชน” อ่านว่า วิด-สัด-ชะ-นะ รากศัพท์มาจาก วิ (คำอุปสรรค = วิเศษ, แจ้ง, ต่าง) + สชฺชฺ (ธาตุ = ตอบ, ชี้แจง; สละ, ละ) + ยุ ปัจจัย, แปลง ยุ เป็น อน (อะ-นะ), ซ้อน สฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ (วิ + สฺ + สชฺช)
: วิ + สฺ + สชฺช = วิสฺสชฺชฺ + ยุ > อน = วิสฺสชฺชน แปลตามศัพท์ว่า (1) “การตอบ” (2) “การสละอย่างวิเศษ”
อภิปรายแทรก : “วิสฺสชฺชน” ที่แปลตามศัพท์ว่า “การสละอย่างวิเศษ” ในที่นี้ก็หมายถึงการแก้ปัญหานั่นเอง กล่าวคือ วาดเป็นภาพว่า ปัญหาหรือข้อสงสัยเปรียบเหมือนสิ่งที่ถูกผูกไว้ในใจ ผู้ตอบปัญหามาแก้เชือกที่ผูกความสงสัยนั้นออก นั่นคือสละความสงสัยออกไปจากใจ ดังนี้ “วิสฺสชฺชน” จึงหมายถึง การแก้ปัญหา หรือตอบปัญหา
“วิสฺสชฺชน” ในบาลีใช้ในความหมายดังนี้ –
(1) การบริจาค, การมอบให้ (giving out, bestowing)
(2) การส่งออก, การขับออก (sending off, discharging)
(3) การวิสัชนา, การตอบ (answer, reply)
หลักภาษา :
“วิสฺสชฺชน” ในบาลีอาจสะกดได้ถึง 4 แบบ คือ –
(1) “วิสฺสชฺชน” ดังที่สะกดในที่นี้
(2) วิสฺสชฺชน + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ เป็น “วิสฺสชฺชนา”
(3) ไม่ซ้อน สฺ ระหว่างอุปสรรคกับธาตุ สะกดเป็น “วิสชฺชน”
(4) วิสชฺชน + อา ปัจจัยเครื่องหมายอิตถีลิงค์ เป็น “วิสชฺชนา”
ในภาษาไทย คำนี้ใช้เป็น “วิสัชนา” พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 บอกไว้ว่า –
“วิสัชนา : (คำกริยา) ตอบ, ชี้แจง, เช่น ขอวิสัชนาดังนี้. (ป. วิสชฺชนา).”
ขยายความ :
“ปุจฉา” กับ “วิสัชนา” มักมาควบคู่กัน มี “ปุจฉา” แล้วต้องมี “วิสัชนา” หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง มี “วิสัชนา” ก็เพราะมี “ปุจฉา”
ในคัมภีร์ แสดงประเภทของ “ปุจฉา” ว่ามี 5 อย่าง ดังนี้ –
…………..
(1) อทิฏฐโชตนาปุจฉา = คำถามเพื่อส่องลักษณะที่ยังไม่เห็นให้กระจ่าง (ยังไม่รู้เรื่องนั้นๆ มาก่อน ถามเพื่อหาข้อมูล)
(2) ทิฏฐสังสันทนาปุจฉา = คำถามเทียบเคียงลักษณะที่เห็นแล้ว (พอรู้เรื่องนั้นๆ มาบ้าง ถามเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง)
(3) วิมติเฉทนาปุจฉา = คำถามเพื่อตัดความสงสัย (เพราะสงสัยจึงไต่ถาม, ถามเพราะอยากรู้โดยสุจริตใจ)
(4) อนุมติปุจฉา = คำถามเพื่อขอคำรับรอง เช่นให้รับรองว่าความเห็นความเชื่อของผู้ถามในเรื่องนั้นๆ ถูกต้อง (ถามหาพวก)
(5) กเถตุกัมยตาปุจฉา = คำถามเพราะผู้ถามประสงค์จะตอบเอง (ถามเองตอบเอง)
ที่มา: สุมังคลวิลาสินี ภาค 1 หน้า 105 (พรหมชาลสุตตวัณณนา)
…………..
ส่วน “วิสัชนา” เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “พยากรณ์” ท่านแบ่งประเภทไว้ 4 อย่าง ดังนี้ –
…………..
(1) เอกังสพยากรณ์ = ตอบตรงๆ หรือตอบเป็นคำขาดไม่อ้อมค้อม
(2) ปฏิปุจฉาพยากรณ์ = ย้อนถามให้ผู้ถามชี้ประเด็นออกมาก่อนแล้วจึงตอบ
(3) วิภัชชพยากรณ์ = ตอบแบบแยกประเด็นเป็นเรื่องๆ ไป
(4) ฐปนียพยากรณ์ = ตอบโดยไม่ตอบ เพราะเห็นว่าไร้สาระ หรือเห็นว่าผู้ถามไม่ได้ถามเพราะต้องการคำตอบ แต่ถามหาเรื่อง
ที่มา: สังคีติสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกฺวรรค พระไตรปิฎกเล่ม 11 ข้อ 255
…………..
แถม :
“วิสัชนา” หรือวิธีตอบแต่ละอย่างต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับ “ปุจฉา” แต่ละเรื่อง ไม่ใช่ทุกอย่างใช้ได้กับความสงสัยทุกเรื่อง เช่น ไม่ว่าใครจะถามเรื่องอะไร ไม่ตอบทั้งสิ้น แล้วอ้างว่าเป็นการปฏิบัติตามหลัก “ฐปนียพยากรณ์” อย่างนี้ย่อมไม่ถูกต้อง
…………..
ดูก่อนภราดา!
: แก้ปัญหาด้วย (การลง) มือ (ทำ) กันให้มาก
: ก็จะแก้ปัญหาด้วยปากน้อยลง
#บาลีวันละคำ (3,469)
11-12-64
…………………………….